จี้จับ"พระอลงกต"สึก "สุชาติ"เดินเครื่องต่อ "สังคายนา" วงการสงฆ์
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี"นายสุชาติ ตันเจริญ" กล่าวถึงการดำเนินการ "เอาผิดวินัยสงฆ์กลับหลวงพ่ออลงกต"ว่า
"เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจับกุมและสอบสวน เราก็จะขอหลักฐาน หมายจับ หรือ การดำเนินคดี เพื่อมาประกอบการพิจารณา ในการให้ลาสิกขา"
ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องของมหาเถรสมาคม ซึ่งตามประกาศของมหาเถรสมาคมเมื่อเดือนที่แล้ว สมัยก่อนจะใช้เวลาต้องให้คณะสังฆาธิการผู้ปกครองสงฆ์สอบสวน แต่ขณะนี้ถ้ามีหลักฐานประกอบการพิจารณาว่ามีความผิด เสื่อมเสีย สามารถดำเนินการได้ทันที คิดว่าเจ้าคณะตำบลและเจ้าคณะอำเภอคงจะดำเนินการ ขณะที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีหน้าที่ประสานกับมหาเถรสมาคมเพื่อแจ้งให้ดำเนินการ
"สุชาติ" กล่าวต่อว่า "หลังจากการสอบสวนเสร็จคงจะจับลาสิกขา ส่วนเมื่อลาสิกขาแล้ว สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะต้องมีการตรวจสอบเรื่องอื่น เช่น การใช้เงินของวัดหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของตำรวจ สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรีจะเข้าไปจัดการสะสาง
โดยวันนี้คาดว่าจะมีการแต่งตั้งเจ้าคณะตำบล ที่ร่วมประชุมกับตนในการลงพื้นที่ลพบุรีที่ผ่านมา เพื่อไปรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ แต่ต้องลาออกจากเจ้าคณะตำบล เพื่อไม่ให้ตำแหน่งซ้ำซ้อน
การสังคายนาพระพุทธศาสนาจะดำเนินการควบคู่กันไปหรือต้องรอมหาเถรสมาคม ?
"สุชาติ" ชี้เพิ่มเติมว่า "สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติคงดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ แต่เรื่องของการควบคุมการประพฤติปฏิบัติของสงฆ์ เป็นอำนาจของมหาเถรสมาคม ซึ่งเมื่อวานนี้ตนได้ไปพบกับสมเด็จ ซึ่งเป็นคณะกรรมการท่านหนึ่งของมหาเถรสมาคม ก็คงจะเริ่มดำเนินการ
และเมื่อถามย้ำว่าคณะกรรมการเถรสมาคมมีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร เพราะที่ผ่านมามีความพยายามจะสังฆายนาเมื่อเกิดเรื่องฉาวในวงการพระสงฆ์ แต่สุดท้ายก็เงียบไป นายสุชาติ กล่าวว่า
สมเด็จซึ่งเป็นกรรมการของมหาเถรสมาคมท่านก็เป็นห่วง เห็นด้วยที่จะมีการเคร่งครัด แม้ใช้คำว่าสังคายนาอาจจะแรง แต่มันก็ต้องถึงขั้นสังคายนา ไม่เช่นนั้น วิกฤติศาสนาจะแย่ลงเรื่อยๆ ถ้าเราไม่เริ่มทำอะไร"