วันที่ ผู้ติดเชื้อ HIV มีสิทธิ์บัตรทอง วัดพระบาทน้ำพุ ยังจำเป็นหรือไม่
ทำไมคนไทยยังต้องบริจาค เพื่อรักษา HIV ทั้งที่สาธารณสุขดูแลได้ ?
ปัจจุบันมียาต้าน HIV สามารถอยู่ได้จนแก่เฒ่า ทำไมจึงพากันไปนอนรอความตายที่วัด ?
- รู้และเข้าใจ "เอชไอวี" รู้เร็ว รักษาเร็ว ป้องกันได้
- วัดพระบาทน้ำพุจ่อแถลงปมบัญชีบริจาค เจ้าอาวาสพร้อมให้ตรวจสอบ
- "นับหนึ่ง" ตรวจเชื้อ HIV ยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573
คำถามจากอินฟลูเอนเซอร์ดัง ทั้งชื่อว่า "ตุ๊ดส์review" และ "หมอแล็บแพนด้า" หลังกระแสข่าวเรื่องเงินบริจาคที่เกี่ยวพันกับวัด มีผู้ใช้โซเชียลเข้าไปแสดงความเห็นด้วย และแชร์ข้อความจำนวนมาก
เรื่องนี้ มี 2 ประเด็นคำถามสำคัญ คือพัฒนาการด้านสิทธิประโยชน์ในหลักประกันสุขภาพ ครอบคลุมเรื่อง HIV แค่ไหน ? และวัดพระบาทน้ำพุ ยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ ?
คำตอบแรก การดูแลผู้ติดเชื้อ HIV และผู้ป่วยเอดส์ ถูกบรรจุเป็นสิทธิประโยชน์ภายใต้ “กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2549 เพื่อให้ผู้ติดเชื้อ HIV และผู้ป่วยเอดส์ในประเทศไทยในขณะนั้นคาดว่ามีประมาณ 600,000 คน เป็นผู้ที่ต้องได้รับยาต้านไวรัสประมาณ 50,000 คน ได้เข้าถึงการรักษาและบริการอย่างเท่าเทียม ในตอนนั้นรัฐบาลจึงจัดสรรงบประมาณ 2,796.2 ล้านบาท ให้ สปสช. ดูแลโดยแยกจากงบเหมาจ่ายรายหัว
และ 19 ปีที่ผ่านมา สปสช.มีการพัฒนาสิทธิประโยชน์ดูแลผู้ติดเชื้อ HIV อย่างต่อเนื่อง ร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เครือข่ายผู้ติดเชื้อ HIV/เอดส์ประเทศไทย และศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เป็นต้น ครอบคลุมทุกด้าน โดยสรุป คือ
ตรวจฟรี
- คนไทยทุกคนสามารถตรวจหาการติดเชื้อ HIV ได้ฟรี ปีละ 2 ครั้ง
- ตรวจได้ฟรีทั่วไทย ทุกโรงพยาบาลที่ให้บริการภายใต้หลักประกันสุขภาพ
- สิทธิประกันสังคม แค่ยื่นบัตรประจำตัวประชาชน
ตรวจเร็ว
- ตรวจได้ผลเร็ว ภายในวันเดียว หลังจากมีพฤติกรรมเสี่ยง ประมาณ 1 เดือน
- หากไม่ติดเชื้อ ก็จะได้รับการปรึกษาเรื่องการป้องกัน
- หากพบการติดเชื้อ HIV จะได้รีบรับการรักษาโดยเร็ว
รักษาเร็ว
- รับยาต้านไวรัสโดยเร็ว จะไม่มีอาการป่วย สุขภาพดี ไม่ตาย
- หากกินยาต่อเนื่อง สม่ำเสมอ กดไวรัสต่ำมาก ๆ ลดโอกาสแพร่เชื้อ
รักษาฟรี
- ผู้มีเชื้อ HIV รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ได้ ฟรีทุกสิทธิ ทั้งหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ สิทธิประกันสังคม
นิมิตร์ เทียนอุดม" ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ (AIDS Access) ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันมีคนที่รู้ตัวเร็ว รักษาเร็ว และกินยาอย่างดี และตรวจไม่พบเชื้อเลย ประมาณ 500,000 คน คุณภาพชีวิตเหมือนคนทั่วไป ยังคงทำงาน เรียนหนังสือ มีกิจวัตรปกติ
เพราะพัฒนาการด้านสิทธิประโยชน์ ทำให้ผู้ติดเชื้อ HIV ไม่ป่วยด้วยโรคฉวยโอกาส ไม่พาตัวเองไปอยู่ในภาพจำเดิม ๆ ในเรื่องเอดส์ เช่น ป่วย ดำ หรือทุกข์ทรมานจากภาวะเจ็บป่วยและเสียชีวิต จนกระทั่งผู้ป่วยเอดส์ในสถานพยาบาลลดลงน้อยมาก ๆ
แต่ข้อเท็จจริงอีกด้าน คือ ยังพบผู้ป่วยเอดส์ จากคนที่ไม่คิดว่าตัวเองติดเชื้อ เพราะไม่เคยตรวจเลย ได้รับเชื้อมาเกิน 7 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยเป็นโรคเอดส์ จึงไม่เคยเป็น 0
คนกลุ่มนี้ เดินทางไปสถานพยาบาลเพราะติดเชื้อโรคฉวยโอกาส ส่วนการรักษามันยากขึ้น ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีอยู่ปีละประมาณ 10,000 คน ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ (AIDS Access) กล่าว
คำตอบที่ 2 วัดพระบาทน้ำพุ ยังจำเป็นหรือไม่ ?
หลังพัฒนาการสิทธิประโยชน์บัตรทอง ผู้ป่วยเก่าในวัดพระบาทน้ำพุ ที่เคยอยู่ในสภาวะที่ไม่ได้รับการรักษาก็เสียชีวิตไป ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งสังคมเคยรังเกียจ และไม่มีที่พึ่ง จึงไปขออาศัยวัดพระบาทน้ำพุก็เข้าสู่สิทธิประโยชน์ยาต้านไวรัส อาการทยอยดีขึ้นจนผู้ป่วยแข็งแรง หากมีช่องทางกลับบ้านก็ไปจนหมด จนห้วงระยะเวลาหนึ่งวัดพระบาทน้ำพุเบาตัวลงในภาระดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย
แต่สุดท้าย ก็จะเหลือคนที่ไม่มีที่ไปจริง ๆ เพราะมีปัญหาในเชิงสังคมและครอบครัว หรือ บางคนถูกทอดทิ้งจนหารากเหง้าไม่เจอ ไม่มีที่พึ่งจริง ๆ วัดพระบาทน้ำพุจึงยังเป็นที่พึ่งทำให้ปัจจุบันทางวัดมีผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแล จำนวน 140 คน เป็นกลุ่มกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการแทรกซ้อน และป่วยติดเตียง นอนรักษาอาการอยู่ภายในห้องพักผู้ป่วย มีค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างเดือนละกว่า 1 ล้านบาท
"บอกว่าไม่มีความจำเป็นเราก็พูดแบบนั้นไม่ได้" นิมิตร์ เทียนอุดมกล่าวย้ำ
เขายกตัวอย่าง ครอบครัวที่ยากจนซ้ำซ้อน และมีลูกชายติดเชื้อและพิการทางสมองและมีความเสี่ยงสโตรกตลอดเวลา ส่วนคนเป็นแม่สูงอายุแล้ว มีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหวจึงต้องคอยดูแลลูกชาย ที่แม้กินยาต้านไวรัสจนไม่มีภาวะต้านเอดส์แล้ว แต่ยังมีความพิการ ครอบครัวนี้จึงยังต้องอาศัยวัด
"จำเป็นที่รัฐจะต้องหาหน่วยบริการสงเคราะห์ผู้ป่วยที่ไม่มีทางไปจริง ๆ ที่ผ่านมารัฐเองก็ไม่มีการศักยภาพตัวเองในการดูแลผู้ประสบปัญหาเช่นนี้ วัดพระบาทน้ำพุจึงยังมีบทบาทกับคนที่ไม่มีที่ไปและสุดทางแบบนี้อยู่" ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวสรุป
อ่านข่าว : สธ.เดินหน้ายกระดับ ลดตีตรา-เลือกปฏิบัติ ผู้ติดเชื้อ HIV “ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา”
วาเลนไทน์ปลอดภัย แจกถุงยางฟรี ห่วง HIV รายใหม่พุ่ง 1,095 คน
6 เดือนติดเชื้อ HIV 441 คน อายุ 15-19 ปีน่าห่วงพบป่วยแล้ว 8 คน