พ่อเมืองตักสิลา ชวนร่วมงาน เฉลิมฉลอง ครบวาระ 160 ปี รื้อฟื้นลายผ้า
จังหวัดมหาสารคาม ได้มีการขับเคลื่อนในการส่งเสริมและสนับสนุนบทบาทของผู้หญิงในสังคมให้ประชาชนหลุดพันจากความยากจน โดยการยกระดับ Soft Power ด้านผ้าไทยของจังหวัดมหาสารคาม และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบ 160 ปี เมืองมหาสารคาม ในปี 2568 นี้ กลุ่มพลังสตรี ยกระดับ Soft Power มหาสารคาม เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และรณรงค์สวมใส่ผ้าไทย แสดงพลัง Soft Power มหาสารคาม และขอเชิญชวน ประชาชนร่วมงานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 160ปี เมืองมหาสารคามในวันที่ 22ส.ค. เนื่องจากจังหวัดมหาสารคามได้รับการแต่งตั้งเป็นเมืองเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2508 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่4) โดยแยกพื้นที่และพลเมืองประมาณ 2,000 คนมาจากเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีการจัดงานเฉลิมฉลองเมืองมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 19 -24 ส.ค.68 ณ ที่ สนามที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม โดยมีกิจกรรม หลากหลาย เช่น การแสดงหมอลำกลอนแบบดั้งเดิม การแสดงมหกรรมหุ่นกระติบข้าวและหุ่นฟาง จำหน่ายอาหารและของกกิน ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากอำเภอทัง13อำเภอ การแสดงเปิดงานออนซอนกลองยาวและกกิจกรรมฟ้อนรำเฉลิมฉลองครบ160 ปี ณ วงเวียนหอนาฬิกาจังหวัดมหาสารคาม
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ได้มีการยกระดับ พลังสตรี ยกระดับ Soft Power มหาสารคาม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบ 160 ปี เมืองมหาสารคาม จึงได้ร่วมกับกลุ่มเครือข่าย โอทอปและและกลุ่มทอผ้าที่มีทั้งจังหวัด 13อำเภอมาร่วมกันรื้อฟื้นลายผ้าเก่าลายหมี่ข้าวสาร ซึ่งนำมาประยุกต์ใหม่ ในเรื่องของเฉดสีลายคั้นครั่งและมาตั้งชื่อใหม่ว่า ลายเกร็ดสิริสา เนื่องจากลายเกร็ดหมี่จะคล้ายๆต้นพฤกษ์ ซึ่งต้นพฤกษ์เป็นต้นไม้พระราชทานประจำจังหวัดมหาสารคาม มีชื่อภาษาบาลีว่าสิริสะ ในปีนี้เพื่อเป็นสิริมงคลครบวาระ160ปี ซึ่งได้ตั้งชื่อว่าลายเกร็ดสิริสา อีกประเภทหนึ่ง ของประชาชน นอกจากนั้นแล้ว สีแดงนั้นเรียกได้ว่าเป็นสีแสดงถึงความมีพลังมีอำนาจ ความมงคล สีชมพู แสดงถึงความนุ่มนวล ความอ่อนโยน ความอ่อนเยาว์ การดูแลเอาใจใส่การทะนุถนอม ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จิตใจดี มิตรภาพ เสน่ห์ สุขภาพที่ดี อีกด้วย โทนสี เป็นสีขาว หรือ สีชมพู คล้ายๆกลีบดอกของต้นพฤกษ์ที่จะออกสีครีมๆ และเส้นคั้นจะเป็นสีเขียวกับสีเหลืองของดอกพฤกษ์ เขียวมาจากเกสรดอกพฤกษ์ สีเหลืองมาจากคั่วของดอกพฤกษ์ นำมาเกลี่ยวค้นระหว่างลายหมายถึงความสมัครสนมานของชาวมหาสารคามและลายหมี่หรือลายข้าวสารเดิม หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ความงอกงาม เจดสีชมพูเป็นสีของคลั่ง สีผ้ามัดหมี่ลายเกล็ดสิริสา ที่นิยมในตอนนี้จะเป็นโทนแดงอมชมพู หรืออมส้ม มาจาก สีของครั่ง หากนำมีมาย้อมเส้นไหม จะได้ในโทนสีแดง-ชมพู เป็นสีธรรมชาติที่มีเสน่ห์ และเป็นสีที่มีการถ่ายทอดภูมิปัญญาการย้อมจากบรรพบุรุษ สู่อนุชนรุ่นหลัง และยังมีลักษณะคล้ายคลึงกับสีดอกจาจุรีแดง “ครั่ง” เป็นแมลงเศรษฐกิจสำคัญเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพทางเลือกที่มั่นคงให้กับเกษตรกร “ครั่ง” ในมหาสารคามนั้น มักขึ้นอยู่กับตระกูลต้นพฤกษ์ ต้นจามจุรีหรือต้นฉำฉาหรือก้ามปู และมีชุมชนคนเลี้ยงครั่งที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน มหาสารคาม มีการเพาะเลี้ยงครั่งกันมานานมาก ตามหลักฐานพบว่า มีการแลกเปลี่ยน และค้าขายครั่งมาเมื่อ 80ปี ย้อนหลัง เนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่เหมาะกับการเลี้ยงครั่ง ตามลักษณะทางภูมิศาสตร์ และเป็นสินค้าเศรษฐกิจของเกษตรกร
ขอเชิญชวนชาวมหาสารคามสวมผ้าพื้นเมือง ผ้าไหม ผ้าฝ้ายเพื่อเป็นการรื้อฟื้นและเป็นการส่งส่งเสริมการทอผ้าพื้นเมือง ซึ่งเป็นลายที่ไม่ยาก อยากให้คนรุ่นใหม่ได้มาฝึกเพื่อสานต่อจากคนรุ่นเก่าที่กำลังจะสูญหายไป ในขณะเดียวกันได้มีการต่อยอด การทำแฟชั่นให้เข้ายุคสมัยใหม่ สร้างให้ผ้าไทย สามารถก้าวหน้าต่อไปในอนาคตและสามารถสวมใส่ ได้หลายโอกาส มีทั้ง กางเกง เสื้อ กระโปรง และหมวก ลายเกร็สิริสา ซึ่งได้มีการจดลิขสิทธิ์เป็นของชาวจังหวัดมหาสารคามแล้ว ได้อนุญาติให้กลุ่มทอดทุกกลุ่มในจังหวัดมหาสารคาม สามารถทอได้