โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ส่องอัตราโทษ “เมาแล้วขับ” ลงโทษไม่ปรานี-มีสิทธิปฏิเสธการตรวจได้จริงหรือ?

เดลินิวส์

อัพเดต 26 สิงหาคม 2568 เวลา 0.43 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
พาส่องอัตราโทษ

การเมาแล้วขับยังคงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอุบัติเหตุบนท้องถนนที่คร่าชีวิตและสร้างความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและเพิ่มบทลงโทษให้รุนแรงขึ้น เพื่อป้องปรามและลดจำนวนผู้กระทำผิด แต่เราก็ยังคงเห็นการกระทำผิดดังกล่าวออกมาให้เห็นตามที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่เป็นระยะ ด้วยคิดว่าใกล้-ไม่เป็นไร แต่กลับส่งผลร้ายมากกว่าที่คิด!

ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ถือว่า "เมาแล้วขับ"

ตามกฎหมายจราจรทางบกของประเทศไทย ผู้ขับขี่จะถูกถือว่าเมาสุรา หากมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยมีเกณฑ์ดังนี้
-โดยทั่วไป ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
-สำหรับผู้ขับขี่บางกลุ่ม (เช่น ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่, ผู้มีใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราว, ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี, หรือผู้ที่อยู่ระหว่างพักใช้/เพิกถอนใบขับขี่) ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

กระบวนการจับกุมและการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่าผู้ขับขี่อาจเมาสุรา จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
1.การเรียกหยุดรถและการสังเกตการณ์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการเรียกหยุดรถผู้ขับขี่ และสังเกตพฤติกรรมเบื้องต้น เช่น การพูดจา การทรงตัว หรือกลิ่นสุรา
2.การตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะใช้เครื่องวัดแอลกอฮอล์แบบพกพา (เครื่องเป่า) เพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจ หากพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือมีพฤติกรรมที่น่าเชื่อว่าเมาสุรา จะถูกนำตัวไปยังสถานีตำรวจหรือจุดตรวจที่จัดเตรียมไว้เพื่อตรวจวัดอย่างละเอียด
3.การตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อย่างละเอียด ที่สถานีตำรวจหรือจุดตรวจ จะมีการใช้เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรอง เพื่อยืนยันปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดอย่างแม่นยำ

สิทธิในการปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์

เป็นคำถามที่พบบ่อยว่าประชาชนมีสิทธิปฏิเสธการเป่าแอลกอฮอล์หรือไม่ คำตอบคือ หากผู้ขับขี่ปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์โดยไม่มีเหตุผลอันควร กฎหมายจะสันนิษฐานว่าบุคคลนั้นเมาแล้วขับ ซึ่งมีโทษเช่นเดียวกับการเมาแล้วขับ และในบางกรณีอาจมีอัตราโทษที่หนักกว่าด้วยซ้ำ ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เจ้าพนักงานมีอำนาจสั่งให้มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ได้ และหากไม่ปฏิบัติตามจะถือว่ากระทำผิด

อัตราโทษทางกฎหมายของการเมาแล้วขับ

บทลงโทษสำหรับการเมาแล้วขับมีการกำหนดไว้ตามกฎหมายอย่างชัดเจน และจะรุนแรงขึ้นตามพฤติการณ์และความเสียหายที่เกิดขึ้น

1.กรณีเมาแล้วขับ (ไม่มีเหตุอันตราย)
กระทำผิดครั้งแรก
-จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000–20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน
กระทำผิดซ้ำภายใน 2 ปี นับจากวันกระทำผิดครั้งแรก
-จำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับตั้งแต่ 50,000–100,000 บาท (โดยศาลจะลงโทษจำคุกและปรับด้วย)
-ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

2.กรณีเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย
เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
-จำคุกตั้งแต่ 1–5 ปี
-ปรับตั้งแต่ 20,000–100,000 บาท
-ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
-จำคุกตั้งแต่ 2–6 ปี
-ปรับตั้งแต่ 40,000–120,000 บาท
-ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

3.กรณีเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
-จำคุกตั้งแต่ 3–10 ปี
-ปรับตั้งแต่ 60,000–200,000 บาท
-ถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที

ในส่วนของ "การยึดรถของกลาง" บางกรณีทางอัยการสูงสุดอาจกำหนดแนวทางดำเนินคดีให้เพิ่มข้อหาและริบรถของกลาง เพื่อยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนน แต่นอกเหนือจากโทษทางอาญาแล้ว ผู้เมาแล้วขับยังต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งที่เกิดขึ้นกับคู่กรณีและทรัพย์สินด้วย และยังมี"ผลต่อประวัติอาชญากรรมของผู้กระทำผิด" เพราะคดี "เมาแล้วขับ" ถือเป็นความผิดทางอาญา

กฎหมายเมาแล้วขับในประเทศไทยมีการบังคับใช้ที่เข้มงวดและมีบทลงโทษที่รุนแรง เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ไม่ได้ช่วยให้พ้นผิด แต่กลับถูกสันนิษฐานว่าเมาแล้วขับ ซึ่งมีโทษไม่ต่างกัน ทางที่ดีที่สุดคือ "ไม่ดื่ม ไม่ขับ" เพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ..

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

เกือบเสียเมีย ‘แจ็ค แฟนฉัน’ รับเคยมีปัญหากับ ‘ใบหม่อน’ เผยถึงขั้นถาม แยกกันไหม?

42 นาทีที่แล้ว

สว.จำลอง ต้อนรับคณะโรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย จ.สุพรรณฯ เยี่ยมชมวุฒิสภา

49 นาทีที่แล้ว

ชายแดนฮา! ทำความรู้จัก LRAD เครื่องขยายเสียง แต่เขมรหลอนหนัก รีบอุดจมูก

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นครนายกประชุมด่วน! รับมือพายุไต้ฝุ่น ‘คาจิกิ’ ผู้ว่าฯ นำทีมประเมินสถานการณ์น้ำ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวฯ เยี่ยมสนามวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก สนามเมืองย่าโม ติดตามการแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง

สำนักข่าวไทย Online

แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เล่นการเมืองหลังเกษียณ ถนัดแต่การปกป้องแผ่นดิน

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

เปิดคำพูด หนึ่ง บางปู แฉแหลกวัดพระบาทน้ำพุ พระอลงกตเคยชวน…

BRIGHTTV.CO.TH

สื่อผู้ดีส่องความมั่งคั่ง “สมเด็จฮุน เซน” รวยระดับ 4 พันล้านดอลลาร์ ไลฟสไตล์หรูมีนาฬิกา “ปาเต็ก ฟิลิปป์” เรือนละเกือบ 2.7 ล้านดอลลาร์ จากเงินประจำตำแหน่งแค่ 1,100 ดอลลาร์

Manager Online

"รร.บ้านหนองจาน" ประกาศด่วนหยุดเรียน หวั่นไม่ปลอดภัยเหตุปะทะ

TNews

LIVE ลิงค์ดูบอลสด พรีเมียร์ลีก "นิวคาสเซิ่ล พบ ลิเวอร์พูล" เวลา 02.00 น.

คมชัดลึกออนไลน์
วิดีโอ

ตำรวจสระบุรีจับครูอัตราจ้าง หลังถูกร้องเรียนล่วงละเมิ_น้อง 7 ขวบ

BRIGHTTV.CO.TH

บรรยากาศคึกคัก! เปิดฉาก WorldSkills ASEAN 2025 ไทยนำทัพ 34 เยาวชน ลุ้นคว้าเหรียญกลับบ้าน

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม

ป่วนไม่เลิก ทหารกัมพูชา เกณฑ์ชาวบ้านบุกรื้อลวดหนามชายแดนสระแก้ว

เดลินิวส์

1 ต.ค. มีแววไม่ได้ใช้ “รถไฟฟ้า 20 บาท” รอกฎหมายคลอดอีกนาน “งบกลาง” ชดเชยไม่ได้

เดลินิวส์

ตรวจสอบไม่พบข้อมูลการเกณฑ์ทหาร ‘หลวงพ่ออลงกต’ จัดเก็บอยู่ในระบบ

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...