ครอบครัว “พลมุข” ที่สารคาม ยันพระดังไม่ใช่ญาติ ชื่อสกุลตรงแค่บังเอิญ
ครอบครัว “พลมุข” ที่มหาสารคาม ชี้แจงปม พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ไม่ใช่ญาติแค่บังเอิญชื่อสกุลตรงกัน เคลียร์ชัดเจนไม่ใช่ลูกชาย ร้องตรวจสอบข้อมูลโปร่งใส ป้องกันคนเข้าใจผิด
วันนี้ (24 ส.ค.) นายเสริมวิทย์ พลมุข อายุ 85 ปี คนหมู่ 9 ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ซึ่งถูกระบุว่าเป็นพ่อของพระอลงกต โดยเจ้าตัวชี้แจงว่าตนมีลูกชาย 3 คน คนโตชื่อ “อลงกต พลมุข” แต่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2566
คนกลางยังมีชีวิตอยู่ ส่วนคนเล็กเสียชีวิตเช่นกัน ยืนยันชัดเจนว่า พระอลงกตไม่ใช่ลูกชาย ไม่ใช่ญาติ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับครอบครัว เพียงแต่มีชื่อและนามสกุลตรงกับลูกชายของตนเท่านั้น
อ้างอิงข้อมูลจากเดลินิวส์ ดร.ดาหวัน ทะสา นายก อบต.กู่ทอง ซึ่งเป็นหลานสาวของนายเสริมวิทย์ และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายอลงกต (ผู้เสียชีวิต) กล่าวว่า ครอบครัวเคยสงสัยอยู่บ้างที่พระอลงกตมีชื่อ-นามสกุลตรงกัน จึงพูดคุยกันในหมู่ญาติ แต่ไม่เคยเชื่อว่าเป็นคนเดียวกัน โดยลูกชายตัวจริงของนายเสริมวิทย์ เกิดปี 2505 เรียนที่ขอนแก่น และต่อมาสอบบรรจุราชการที่ราชบุรี ก่อนเสียชีวิตเมื่อปี 2566
ญาติยังเล่าว่า ก่อนหน้านี้ อ.เฉลิมพล พลมุข อาจารย์ที่ราชภัฏอยุธยา เคยสอบถามเรื่องชื่อนามสกุล กระทั่งพบว่ามีลูกศิษย์ใช้นามสกุลเดียวกันจึงเกิดการเข้าใจผิดว่าเป็นญาติ
นายเสริมวิทย์ย้ำว่า ครอบครัวไม่ได้มีเจตนาจะสร้างความเสียหายต่อพระอลงกต เพราะท่านเป็นผู้ทำประโยชน์ต่อสังคมมายาวนาน เพียงแต่อยากให้ภาครัฐตรวจสอบข้อเท็จจริงให้โปร่งใส เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย รวมถึงป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะด้านธุรกรรมทางการเงิน หากข้อมูลส่วนบุคคลมีความคล้ายคลึงกันเกินไป.
อ่านข่าวทที่เกี่ยวข้อง