ธุรกิจดาวรุ่ง "ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ" กวาดรายได้หมื่นล้าน

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ โตต่อเนื่อง สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย 24 ชม.พร้อมดึงดูดลงทุนจากต่างชาติ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) กำลังมาแรงต่อเนื่อง สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย ซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรองรับการชำระเงินที่หลากหลาย ล่าสุดในปี 2567 สร้างรายได้รวมกว่า 10,156 ล้านบาท เติบโต 34.74% จากปีก่อน และยังดึงดูดการลงทุนต่างชาติรวมกว่า 619 ล้านบาท

760 บริษัทลุยธุรกิจ – รายเล็กครองตลาด

ข้อมูลล่าสุด (ก.ค. 68) พบว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ 760 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 5,962 ล้านบาท
• ธุรกิจขนาดเล็ก (S) 724 ราย หรือ 95% ทุน 1,800 ล้านบาท
• ธุรกิจขนาดกลาง (M) 30 ราย หรือ 3.95% ทุน 2,303 ล้านบาท
• ธุรกิจขนาดใหญ่ (L) 6 ราย หรือ 0.79% ทุน 1,860 ล้านบาท

เฉพาะปี 2567 มีการจดทะเบียนใหม่ 86 ราย เพิ่มขึ้น 56.36% จากปีก่อน รวมทุนกว่า 91 ล้านบาท ส่วน 7 เดือนแรกปี 2568 (ม.ค.–ก.ค.) มีผู้เล่นใหม่เพิ่มอีก 13 ราย

ทำเลทอง: กรุงเทพฯ–หัวเมืองใหญ่

นางอรมน ระบุว่า จุดติดตั้งตู้ส่วนใหญ่กระจุกในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ โดยทำเลที่นิยม ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า สำนักงาน คอนโดมิเนียม ปั๊มน้ำมัน สถานีรถไฟฟ้า และโรงพยาบาล

เหตุผลที่ลูกค้าเลือกซื้อตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ คือสะดวก ประหยัดเวลา มีสินค้าใช้ได้ทันที และจ่ายเงินได้หลายช่องทาง โดยเฉพาะ QR Code ที่ใช้มากที่สุด รองลงมาคือเงินสด ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมเข้าสู่สังคมไร้เงินสดของไทย

ต่างชาติลงทุนคึก – กำไรสูงสุดรอบ 3 ปี

ปัจจุบันมีเงินลงทุนจากต่างประเทศรวมกว่า 619 ล้านบาท คิดเป็น 10.38% ของธุรกิจ โดย 3 อันดับแรกได้แก่
1. ฮ่องกง – 455 ล้านบาท
2. หมู่เกาะเคย์แมน – 76 ล้านบาท
3. ออสเตรีย – 27 ล้านบาท

ด้านผลประกอบการ ปี 2566 ธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าทำรายได้ 7,538 ล้านบาท กำไรสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ 975 ล้านบาท ส่วนปี 2567 รายได้พุ่งแตะ 10,156 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.74% กำไร 10.15 ล้านบาท

ปัจจัยหนุน – ลงทุนง่าย ตอบโจทย์ 24 ชม.

ธุรกิจนี้ได้รับความสนใจเพราะลงทุนไม่สูง สามารถทำได้หลายรูปแบบ ทั้งลงทุนเอง ซื้อแฟรนไชส์ เช่าเครื่อง หรือร่วมลงทุน ไม่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก แต่สร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI ระบบชำระเงินดิจิทัล และ Big Data มาช่วยเพิ่มศักยภาพ ทำให้ผู้ประกอบการแข่งขันได้ดีขึ้น และเจาะตลาดใหม่ได้มากขึ้น

แนะจับเทรนด์ – เสริมสินค้านวัตกรรม

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแนะนำผู้ประกอบการต้องปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภค โดยให้ความสำคัญกับ คุณภาพสินค้า โปรโมชัน ระบบสมาชิก การตรวจสอบความพร้อมของตู้และระบบจ่ายเงิน รวมถึงเลือกทำเลที่เหมาะสม