กอ.รมน.อยุธยา เดินหน้าพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ป้องกันการกระทำผิด
เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่โรงแรม แอมโป เรสซิเดนซ์ โฮเต็ล อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ท.ชนินทร์ สิงหนาทนิติรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฎิบัติที่ 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นประธานเปิดโครงการการพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยมี พ.อ.ปรเชษฐ กันทอง ผู้อำนวยการส่วนงานป้องกันและแก้ไขปัญหาตามพันธกรณีระหว่างประเทศ พ.อ.วีระชัย ผองแก้วรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ. สุทธิรัตน์ ปิ่นมาศ รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เขตพื้นที่1 พาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ป้องกันจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าร่วม
ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ร่วม กับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดให้มีการอบรมในครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้กลุ่มผู้นำชุมชน ผู้ค้ารายย่อย และประชาชนทั่วไปในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา/ตระหนักรู้ถึงผลกระทบจากการจำหน่าย หรือใช้สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และเข้าเป็นส่วนสนับสนุนการดำเนินงาน/ ให้กับหน่วยงานภาครัฐ ในการเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบสถานการณ์ ในการป้องกัน และปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สำหรับผู้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้เป็นผู้แทน กลุ่มมวลชนในพื้นที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งสิ้น 80 คน
พล.ท.ชนินทร์ กล่าวว่า การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบกับประเทศไทยของเราเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่ารัฐบาลได้พยายามหามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาเหล่านี้แล้วก็ยังไม่สามารถให้หมดสิ้นไปได้/ ยังคงมีช่องทางให้เกิดการกระทำความผิดอยู่เสมอทั้งที่ตั้งใจและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันเพื่อช่วยให้ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญานั้น ลดน้อยลงและหมดสิ้นไปในอนาคต การจัดการอบรมในวันนี้ถือว่ามีความสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ที่ผู้เข้ารับการอบรมทุกท่านจะได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาด้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในหลายมิติ ทั้งด้านนโยบายของรัฐบาลกฎหมายที่เกี่ยวข้อง/รวมถึงแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวังตรวจสอบ สนับสนุนข้อมูลข่าวสารให้กับหน่วยงานภาครัฐได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ