"บอย พิษณุ" รายได้ทั้งเดือนแค่ 35,000 บาท ขอสู้ต่อเตรียมผันตัวเป็น "พ่อค้าขายปลา"
วงการบันเทิงถึงกับสะเทือน! เมื่อนักแสดงและพิธีกรมากฝีมือ "บอย พิษณุ" หรือ บอย AF2 ได้ออกมาเปิดใจในช่องยูทูป Nickynachat ถึงวิกฤตครั้งใหญ่ในชีวิตการทำงานตลอด 20 ปี ที่ไม่เคยเจอมาก่อน ปีนี้งานหด รายได้หาย จนต้องคิดหาอาชีพเสริม ล่าสุดเตรียมผันตัวเป็น "พ่อค้าขายปลาแซลมอน" ซ้ำยังเจอคอมเมนต์ใจร้ายซ้ำเติม ล่าสุดเจ้าตัวยอมรับว่าสภาพจิตใจแย่ แต่ต้องสู้เพื่อครอบครัว!
"บอย พิษณุ" ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ที่เรียกว่า "ปีที่โคตรแย่" ที่สุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา เขาเผยว่า: งานน้อยที่สุดในชีวิตการทำงาน 20 ปี โดยเฉพาะงานละครที่ไม่ได้เล่นมา 5 ปีแล้ว. ในช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายนปีนี้ งานน้อยมาก จากที่เคยมีงานเดือนละหลายงาน เหลือเพียงเดือนที่แล้วทั้งเดือนมีเพียง 2 งาน และมีรายได้รวม 35,000 บาทเท่านั้น ซึ่งต่างจากช่วงพีคที่เคยมีรายได้เดือนละเป็นล้าน.
ในฐานะ "หัวหน้าครอบครัว" ที่ต้องดูแลค่าใช้จ่าย รวมถึงค่าเทอมลูกที่ค่อนข้างสูง ทำให้เขารู้สึก "วูบ" และคิดว่าชีวิตต้องขยับตัวทำอะไรสักอย่าง ยอมรับว่า เศรษฐกิจตอนนี้ "เฮียมาก" และเป็นช่วงที่ทุกคนลำบาก ไม่ใช่แค่ตัวเขาเอง. หลายคนแนะนำว่าไม่ควรมีอาชีพเดียว ต้องหา 2-3 อาชีพ เขายังเปรียบเทียบกับช่วงโควิด-19 ที่แม้จะแย่ แต่เขาก็ยังรอดมาได้ด้วยการทำ YouTube ซึ่งตอนนี้ยอดวิวก็ลดลงเช่นกัน
เผชิญหน้ากับคำวิจารณ์และคอมเมนต์ "ซ้ำเติม" จากชาวเน็ตและคนในโซเชียลมีเดีย: หลังจากข่าวงานหดถูกเผยแพร่ออกไป โดยมีข้อความที่กล่าวหาว่า "บ่นทำไม รากหญ้าลำบากกว่าเยอะ" หรือ "เมื่อก่อนกินอยู่หรูสบาย ตอนนี้จะมาบ่น". บอย ภิษณุ กล่าวว่าเขาแค่พูดความจริงจากการถูกสัมภาษณ์ แต่กลับกลายเป็น "จำเลย" และรู้สึกน้อยใจว่าทำไมสังคมถึงยังมีคนประเภทที่ "อยากเหยียบย่ำคนล้ม" แม้จะ "sensitive" และไม่เคยทำร้ายใคร แต่เขาเลือกที่จะ "ไม่ค่อยอ่านคอมเมนต์แล้ว" เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองรู้สึกแย่และนอยด์อีก แม้ภายนอกจะดูไม่เครียดและปฏิเสธว่าไม่ได้เศร้าแต่แค่ "เหนื่อย"
ย้อนกลับไปในช่วงที่ประสบความสำเร็จในวงการบันเทิง 10 ปีแรกหลังจากเข้าวงการ (ตั้งแต่ AF) ถือเป็นช่วงที่งานดีมาก มีงานทุกวัน ทั้งละคร พิธีกร และอีเวนต์. เขายังคงรักษาวินัยทางการเงิน โดยเริ่มมาจากศูนย์ และรู้ว่าเงินหายาก จึงเก็บเงินและแปลงเป็นทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ ไม่เคยสุรุ่ยสุร่าย ยอมรับว่า วงการบันเทิงตอนนี้ "ต่างกันเยอะมาก" เนื่องจากแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนไป ทำให้การอยู่รอดในวงการยากขึ้น เขายังกล่าวถึงการที่ละครไม่ค่อยผลิต และตึกช่องต่างๆ ดูเหมือน "ตึกร้าง" แต่ด้วยที่ต้องการเงินยอมไป "แคสติ้ง" งาน Netflix แม้จะเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงแล้ว เพราะต้องการทำงานในแพลตฟอร์มใหม่นี้ แต่ก็ยังไม่ผ่านการคัดเลือก ซึ่งทำให้เขารู้สึก "เฟล"
สุดท้าย "บอย พิษณุ" ได้ประกาศเตรียมตัวเป็น "พ่อค้าขายปลาแซลมอน" ธุรกิจใหม่ที่กำลังคุยรายละเอียดและหาสถานที่ไว้แล้ว เพื่อ "สร้างอาชีพ" และต้อง "ขยับตัว" เพื่อให้รอดในสถานการณ์ปัจจุบัน. เขายังคงทำช่อง YouTube "Bad Boy" ของตัวเองต่อไป แม้ตอนนี้ยอดวิวจะลดลงมาก รายงานข่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากของคนในวงการบันเทิงในยุคที่เศรษฐกิจและแพลตฟอร์มต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และความพยายามของ บอย ภิษณุ ที่จะปรับตัวและสู้ชีวิตเพื่อครอบครัว