ชาวเน็ตแห่แชร์ประโยคสุดสะเทือนใจ คำแถลง เอกอัครราชทูตไทย ทำน้ำตาไหล ปมชายแดนไทย-กัมพูชา
วันที่ 27 ก.ค. 68 จากคำแถลงของ นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรของประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ที่นครนิวยอร์ก ภายใต้หัวข้อ ภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ที่กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ
เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น เป็นการรุกรานที่ไม่มีการยั่วยุ และไทยใช้มาตรการป้องกันตนเองอย่างเหมาะสมและได้สัดส่วน โดยก่อนหน้านี้กัมพูช่ได้วางทุ่นระเบิด ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ เป็นการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อีกทั้งกัมพูชายังโจมตีพลเรือนไทยผู้บริสุทธิ์ รวมถึงโจมตีโรงพยาบาล ซึ่งถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวาอย่างร้ายแรง
ไทยถูกบังคับให้ใช้มาตรการป้องกันตนเองตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ โดยการตอบโต้มีขอบเขตและสัดส่วนที่จำกัด และมุ่งเป้าไปที่เป้าหมายทางทหารเท่านั้น หลีกเลี่ยงการทำร้ายพลเรือน ทั้งนี้ ไทยยึดมั่นในการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ผ่านช่องทางทวิภาคี แต่กัมพูชากลับบ่อนทำลายการเจรจา และทำให้ปัญหากลายเป็นสากล เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตนเอง โดยไทยขอเรียกร้องให้กัมพูชายุติการกระทำที่เป็นปรปักษ์และการรุกรานทั้งหมดทันที และกลับสู่การเจรจาด้วยความจริงใจ
ในแถลงดังกล่าว ประชาชนชาวไทยหลายคนได้อ่านแล้วรู้สึกสะเทือนใจและต่างปรบมือให้ โดยเฉพาะตอนที่กล่าวว่า
จากข้อมูลเมื่อวันที่ 25 ก.ค. เวลา 09.00 น. ในช่วงที่โจมตี มีผู้เสียชีวิต 14 ราย และบาดเจ็บ 13 ราย ซึ่งอยู่ในภาวะวิกฤตอ ขออนุญาตให้ผมพูดซ้ำคำว่า อย่ามองข้ามไป (แสดงภาพพลเรือนผู้บาดเจ็บ)
เมื่อ 24 ชั่วโมงที่แล้ว โรงพยาบาล สถานีบริการน้ำมัน และพลเรือนถูกโจมตี ครอบครัวหนึ่งซึ่งไปซื้อของ ได้เข้าไปในร้านขายของแห่งนี้ แม่ลูกสามคนไม่เคยออกมาอีกเลย อย่ามองข้ามไป ผู้คนกว่า 130,000 คนต้องอพยพออกจากบ้าน