โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

“ภูมิธรรม” ย้ำ กัมพูชาต้องถอยกำลังทหารออกจากพื้นที่ หลังคุย “ทรัมป์” แล้ว

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

“ภูมิธรรม” ย้ำจุดยืน ต้องการเห็นความจริงใจกัมพูชา หลังคุย “ทรัมป์” เผย “มาริษ” เตรียมหารือ รมว.กัมพูชา วันนี้ ยันไม่ให้ต่างชาติแทรกแซง ชี้เงื่อนไขต้องถอยกำลังทหาร-เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ออกจากพื้นที่ทั้งหมด เป็นหลักประกันว่าจะไม่บิด-ไม่เป็นภัยต่อประชาชนและผลประโยชน์ประเทศ ยันทหารไทยทำหน้าที่อย่างเต็มที่จนกว่าคุยลงตัว - มองภาษีสหรัฐทิศทางบวก พร้อมขอบคุณสหรัฐ-มาเล-จีน ยื่นมือช่วยด้วยความเป็นห่วง

วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการโทรศัพท์คุยกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ถึงเรื่องการต่อรองเจรจาภาษีกับการหยุดยิงกับประเทศกัมพูชา ว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 20.00 น.-21.00 น. ได้รับการประสานมาว่าประธานาธิบดีสหรัฐอยากจะพูดคุยด้วยซึ่งเราได้ตอบรับไป และได้หาเวลาที่เหมาะสมซึ่งตนได้ไปประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล ตึกบัญชาการ ได้เชิญรัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้คุยกันและคาดการณ์ว่าคงมีการคุยเรื่องประเด็นกัมพูชา และได้สอบถามโดยเฉพาะทางกองทัพบก เพราะขณะนี้เป็นการรบที่ผสมเหล่าแล้ว ได้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนว่าเราเป็นอย่างไร เป็นการหารือบนพื้นฐานที่เราได้ทำงานร่วมกันทุกส่วน

สิ่งที่ได้คุยกันทั้งหมดไม่ใช่แค่เรื่องสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้ทางทีมที่ได้โทรหาตนและอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ทั้ง 3 ประเทศโดยรวม โดยเฉพาะเมื่อวานได้สรุปคล้าย ๆ กันคืออยากเห็นสันติภาพเกิดขึ้น อยากเห็นการหยุดยิง เพราะเป็นห่วงพลเรือนไทยและการรบจะทำให้เกิดการสูญเสียซึ่งเขาไม่อยากเห็น

โดยจากการคุยเบื้องต้นที่ผ่านมา เราก็เริ่มต้นเล่าให้ฟังว่าที่ผ่านมาเรายึดในหลักสันติภาพและการเจรจาเพื่อขอให้แยกกันออกตลอด เพราะฉะนั้นเราเป็นฝ่ายยึดหลักการ ตามที่ประธานาธิบดีบอกว่าอยากเห็นการหยุดยิงและการเกิดสันติภาพในพื้นที่ ยืนยันว่าตรงนี้เราทำมาตลอด สิ่งที่สำคัญคือเรามีการเล่าให้เห็นว่ามีการยิงเข้าสู่พลเรือนโดยไร้เป้าหมายทางทหาร เราตอบโต้ในส่วนที่เป็นเป้าหมายของทหาร ที่เป็นปืนและวิถีจรวดเพราะเราคิดว่าตรงนั้นคือตัวปัญหาที่ทำลายมาถึงประชาชนไทยในหมู่บ้านต่าง ๆ

และได้มีการรายงานไปว่าในขณะนี้ พลเรือนไทยเสียชีวิตไปแล้วประมาณ 15 คน มีผู้บาดเจ็บประมาณ 50 คน ซึ่งได้มีการอพยพพลเรือนส่วนหนึ่งต่าง ๆ แล้วประมาณ 130,000 คน ซึ่งเราในฐานะผู้พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เราก็ได้สั่งผู้ว่าราชการจังหวัดนายอำเภอทุกจุด และเห็นได้ว่ามีสถานที่ดูแลไม่เพียงพอ จึงได้ประสานกับกรมอุทยาน แล้วให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเข้าดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง

นายภูมิธรรม ระบุว่า กรณีประธานาธิบดีทรัมป์ เขาได้พูดในช่วงท้ายเหมือนกันว่า ความรุนแรงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่เขาประสงค์จะเห็น ซึ่งเราก็บอกว่าเหมือนกัน แล้วตรงนี้ทั้งหมดเขารู้สึกว่าถ้าหากไม่สามารถหาจุดหยุดยิงได้เขาก็ไม่พร้อมเจรจาทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งเราตอบไปว่าตรงนี้ไม่มีปัญหาเพราะเป็นหลักการอยู่แล้ว แต่เงื่อนไขคือต้องให้เขมรสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ที่เราจะเจรจาว่ายอมหรือไม่ยอม ตรงนี้เรายึดถือประชาชนของเราเป็นหลัก ชีวิตทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลัก ได้คุยกันดีและเขาได้ขอบคุณว่า สิ่งที่เราได้เสนอมาเป็นเรื่องที่ดี และหลังจากนี้เขาจะโทรกลับไปคุยกับฮุนมาเนตอีกที

“เงื่อนไขเราตอนนี้คือ เราไม่ได้ต้องการให้ประเทศที่ 3 เข้ามาแทรกแซง แต่ขอบคุณที่เขาห่วงใย เราเสนอว่าต้อง bilateral (ทวิภาคี) ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของเขาและของเรา มาคุยให้จบว่ามาตรการแก้ไขอย่างไร ในการหยุดยิงและถอยกำลังทหารออก และถอยยุทโธปกรณ์วิธีไกล ที่เข้ามาทำลายประเทศให้ออกไป” นายภูมิธรรมกล่าว

เมื่อถามว่าจะเริ่มคุยกับทางกัมพูชาเมื่อไหร่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อวานเราได้ให้รัฐมนตรีต่างประเทศคุยต่อก็เข้าใจว่า วันนี้ถ้านัดได้เราก็จะคุยเลยน่าจะช่วงเวลาประมาณเที่ยง แต่เช้าวันนี้รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้ไปดูที่เกิดเหตุ และที่ตนเลือกมาจังหวัดจันทบุรีและตราด เพราะเป็นการเปิดยุทธการใหม่และเพิ่งเริ่มเกิดใหม่ มีการยิงกันใน 4-5 จังหวัดที่ผ่านมาเราได้มีการส่งรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่

ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศวันนี้ก็จะคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ถ้าคุยจบทันก็ไปด้วยกันกับเรา แต่ถ้าจบไม่ทันเราก็จะไปก่อน และขอบอกประชาชนว่า อยากให้ใครกังวลเพราะรู้ว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก เป็นเรื่องที่ได้รับผลกระทบกับพี่น้องประชาชนตามชายแดน ซึ่งเกิดขึ้นจากการกระทำของกัมพูชา และเราได้ประณามไปแล้วว่าเป็นอาชญากรระหว่างประเทศ ที่ทำร้ายพลเรือนซึ่งผิดข้อกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมด

ทั้งนี้นายภูมิธรรม กล่าวว่า เห็นในโลกออนไลน์ โพสต์สู้กันดุเดือด แต่มีเรื่องที่ต้องขออยู่คือให้ระมัดระวังในการเผยแพร่ภาพทางยุทธการของกองทัพ ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์ต่อเรา แต่กลายเป็นเอื้อประโยชน์ให้กับทหารกัมพูชา เพราะถ้าเขายิ่งรู้หรือเห็นจุดทั้งหมด ก็จะมุ่งทำลายเป้าทหารของเรามากยิ่งขึ้น และต้องยอมรับว่าในเรื่องของประชาชนเป็นเรื่องโกลาหล ซึ่งเราพยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ซึ่งทั้งหมดเป็นการหารือเห็นพ้องต้องกันของทุกฝ่าย และเราได้ให้อำนาจกับทหารแนวหน้า ที่กำลังปะทะอยู่ว่าเขาสามารถดำเนินการได้ อย่างการประกาศสภาวะฉุกเฉินที่ จ.ตราด จ.จันทบุรี ทางผู้บัญชาการทหารบกก็ได้หารือมา อยากให้ทุกฝ่ายมั่นใจและเชื่อมั่นว่าเราประสานงานกับทุกฝ่าย คำนึงถึงสิทธิประโยชน์ชีวิตและทรัพย์สินของทุกคน และขอขอบคุณหน่วยงานเอกชนที่ได้ให้การสนับสนุน

เมื่อถามว่าหากยังคุยกันไม่จบจะไม่มีสัญญาณการหยุดรบใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ทหารจะปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนไม่ต้องห่วงจนกว่ารัฐบาลจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ว่าจะไม่เป็นภัยต่อประชาชนแล้ว และเป็นประโยชน์ต่อประเทศเพื่อนำไปสู่สันติภาพ เพราะขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอยู่นิวยอร์ก ได้ทำหน้าที่ประสานงานคุยส่วนตัว กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะเห็นว่ามีอยู่ประเด็นเดียวคือขอให้ยุติ คืนสันติสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากเห็น

เมื่อถามว่าเรายังมั่นใจในกัมพูชาได้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ได้บอกประธานาธิบดีทรัมป์ไปแล้ว ว่าต้องทำให้เรามั่นใจ สิ่งที่ทำจะไม่มีการพลิก

“เพราะฉะนั้นการเจรจาทวิภาคี และการให้หยุดยิงพร้อมกับเคลื่อนย้ายกำลังพลทหารและอาวุธออกไปจากพื้นที่เดิมก็จะเป็นหลักประกันและสร้างความมั่นใจว่าอยากหยุดยิงจริง เพราะตอนนี้เราประกาศมานานแล้วเรื่องหยุดยิง เขาเพิ่งประกาศว่าเขาเพิ่งอยากหยุดยิง และมาพูดเหมือนเราเป็นฝ่ายรุกราน ขณะนี้เท่าที่เราได้ประเมินแล้วออกมาชัดเจนว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายรุกราน สิ่งที่เราทำคือการปกป้องอธิปไตย ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ” นายภูมิธรรมกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่สหรัฐจะบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้ในวันที่ 1 ส.ค. นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า เรื่องนี้ไม่มีปัญหา จากการพูดคุยเมื่อวานสหรัฐก็ได้บอกว่าไม่ต้องห่วง แต่เชื่อว่าการหยุดยิงจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และปกป้องพลเรือน จึงขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย

ซึ่งทางเรายืนยันว่ายึดแนวทางสันติวิธีมาโดยตลอด สิ่งที่เราทำเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ และชีวิตของพลเมืองไทย และไทยพร้อมที่จะเจรจา

ส่วนจะทันวันที่ 1 ส.ค. หรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า ยังไม่สามารถพูดได้ 100% ขึ้นอยู่กับรัฐบาลกัมพูชา ต้องแสดงให้เห็นว่าต้องการหยุดยิง และต้องปรึกษากับทางกองทัพด้วย เนื่องจากขณะนี้กัมพูชาเปิดแนวรบตลอดระยะทาง 800 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องบกไปจนถึงจังหวัดตราด ถึงประกาศหยุดยิงก็ต้องมีเงื่อนไขที่พูดคุยกันในรายละเอียดว่าจะเคลื่อนกำลังพลออกอย่างไร

โดยนายภูมิธรรมยังระบุว่าแนวโน้มภาษีน่าจะเป็นบวก เพราะเราได้ยืนยันกับสหรัฐฯ ว่าไทยอยู่บนพื้นฐานที่เป็นมิตรกับทุกประเทศ การพูดคุยกันครั้งนี้ทำให้สหรัฐฯ รับทราบข้อเท็จจริงและเข้าใจเรามากขึ้น พร้อมขอบคุณสหรัฐฯ มาเลเซีย และจีน ที่ยื่นมือเข้ามาด้วยความห่วงใย ช่วยให้เรื่องนี้ยุติเพื่อเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “ภูมิธรรม” ย้ำ กัมพูชาต้องถอยกำลังทหารออกจากพื้นที่ หลังคุย “ทรัมป์” แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

“ก่อแก้ว” ขอ กกต. เลื่อนวันเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ หลังเหตุปะทะชายแดนยังครุกรุ่น

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

YOUNGOHM ปล่อยเพลง SCAM LORD ดิสแรงข้ามประเทศ คนอื่นไม่เกี่ยวเดี๋ยวจะเดี่ยวกะวันด้า

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เปิดตัวเลขผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต เหตุไทยปะทะกัมพูชา พลเรือนดับ 14 ศพ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ส่ง 12 ร่าง "ทหารกัมพูชา" ที่เสียชีวิตบนภูมะเขือให้กัมพูชา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

กัมพูชาปัดใช้ BM21 ยิงปราสาทตาเมือนธม ย้ำกัมพูชาไม่มีเหตุผลที่จะทำลายปราสาทของตนเอง

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

5 พฤติกรรมสายลับ โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ขอความร่วมมือแจ้งเบาะแส

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัปเดตล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เหตุปะทะชายแดน กระทบสถานพยาบาล 19 แห่ง

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์
ดูเพิ่ม