แฟชั่นทะยานฟ้า 'Bangkok Airways x PUMA' รองเท้าของบางกอกแอร์เวย์ส
เมื่อรันเวย์ของสนามบินมาบรรจบกับรันเวย์แห่งโลกแฟชั่น ปรากฏการณ์ครั้งสำคัญจึงเกิดขึ้น วงการการบินและสตรีทแวร์ของไทยกำลังถูกจับตามองอีกครั้ง เมื่อสายการบินบูทีคอย่าง บางกอกแอร์เวย์ส ฉีกกรอบยูนิฟอร์มแบบเดิมๆ ด้วยการจับมือกับสปอร์ตแบรนด์ระดับตำนานอย่าง PUMA เปิดตัวรองเท้าผ้าใบคอลเลกชันพิเศษ Bangkok Airways x PUMA
การเปิดตัวรองเท้าคอลเลกชันพิเศษสำหรับพนักงานบริการส่วนหน้าครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนยูนิฟอร์ม แต่เป็นการลงทุนในบุคลากรและภาพลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นเลิศด้านบริการ
เมื่อเซอร์วิสมาพร้อมสไตล์
ภายใต้แนวคิด "BE THE FIRST MOVE FOR BETTER TOGETHER" โปรเจกต์นี้คือการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของบางกอกแอร์เวย์ส สายการบินได้พลิกโฉมยูนิฟอร์มสำหรับพนักงานบริการส่วนหน้าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนักบิน, พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน, พนักงานบริการภาคพื้นดิน ไปจนถึงพนักงานสำรองที่นั่งและออกบัตรโดยสาร การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าภาพลักษณ์ของ "Asia’s Boutique Airline" ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความหรูหรา แต่ยังรวมถึงความทันสมัย มีสไตล์ เป็นมิตร และเปี่ยมด้วยพลัง
อมรรัตน์ คงสวัสดิ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขายฯ ของบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า ความร่วมมือนี้เป็นการผสมผสานไลฟ์สไตล์และฟังก์ชันการใช้งานอย่างลงตัว เพื่อตอกย้ำอัตลักษณ์ของสายการบินที่พร้อมมอบประสบการณ์การเดินทางอันน่ารื่นรมย์ รองเท้าคอลเลกชันพิเศษนี้จึงไม่ใช่แค่เครื่องแบบ แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้า
ถอดรหัส PUMA ROMA จากสนามแข่งสู่ไอคอนบนท้องฟ้า
หัวใจของคอลเลกชัน "Bangkok Airways x PUMA" คือการนำแรงบันดาลใจจากรองเท้าผ้าใบรุ่นไอคอนิกอย่าง ‘PUMA ROMA’ มาดีไซน์ใหม่ การเลือกรุ่น ROMA นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการหยิบยืมประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่มาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว PUMA ROMA เปิดตัวครั้งแรกในปี 1968 เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของทีมฟุตบอลชาติอิตาลีในการแข่งขัน UEFA European Championship จากรองเท้าสำหรับนักกีฬาที่เน้นความเบาและคล่องตัว ROMA ได้ข้ามผ่านกาลเวลาสู่การเป็นสนีกเกอร์ไลฟ์สไตล์สุดคลาสสิกที่ครองใจคนทั่วโลกด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยเรื่องราว
การที่บางกอกแอร์เวย์สเลือกรองเท้าที่มีรากฐานมาจากชัยชนะและเกียรติยศ จึงเปรียบเสมือนการส่งมอบพลังและแรงบันดาลใจให้แก่พนักงาน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นเลิศด้านบริการ ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ในการผลิตยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในด้านความยั่งยืน ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญที่แบรนด์ระดับโลกต่างให้ความสำคัญ
ยุคแห่งการคอลแลบ เมื่อสองแบรนด์สร้างคุณค่าที่มากกว่า
ความร่วมมือระหว่าง Bangkok Airways และ PUMA คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของเทรนด์การตลาดแบบ "Collaboration" ที่แบรนด์ต่างขั้วโคจรมาพบกันเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ การคอลแลบไม่ได้เป็นเพียงการนำโลโก้สองแบรนด์มาวางคู่กัน แต่คือการหลอมรวมตัวตน เรื่องราว และฐานแฟนคลับเข้าไว้ด้วยกัน PUMA นำเสนอความเท่ ประวัติศาสตร์ในโลกกีฬา และความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม ขณะที่บางกอกแอร์เวย์สมอบภาพลักษณ์ของการบริการที่เป็นเลิศ การเดินทางที่เหนือระดับ และความเป็นบูทีคแอร์ไลน์แห่งเอเชีย
พรทิพย์ วนิชนพรัตน์ ผู้จัดการของพูม่าสปอร์ตส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ความร่วมมือนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ PUMA ในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่ผสานดีไซน์ทันสมัยเข้ากับการใช้งานจริง เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้สวมใส่ นี่คือการสร้างบทสนทนาทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ซึ่งจะขยายฐานการรับรู้ของทั้งสองแบรนด์ไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่กว้างขึ้น
พลิกโฉมอุตสาหกรรมการบินไทย
การประกาศนโยบายให้พนักงานบริการส่วนหน้าสวมใส่รองเท้าผ้าใบได้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจเปลี่ยนภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมการบินไทยไปตลอดกาล ในอดีต ยูนิฟอร์มของพนักงานสายการบินมักถูกกำหนดด้วยภาพลักษณ์ที่ดูเป็นทางการ แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับสุขภาพ สวัสดิภาพ และความคล่องตัวของพนักงานเป็นอันดับแรก
จันทร์ทิพย์ ทองกันยา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฯ ของบางกอกแอร์เวย์ส ย้ำว่านี่คือภาพสะท้อนของวัฒนธรรมองค์กรที่เปี่ยมด้วยพลัง เพราะเมื่อพนักงานรู้สึกสบายและมีความสุขในการทำงาน ย่อมส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพการบริการที่ส่งมอบไปยังผู้โดยสารอย่างยั่งยืน
การร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นมากกว่าแค่รองเท้าผ้าใบหนึ่งคู่ แต่มันคือสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลง คือการประกาศว่าแบรนด์ไทยพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมีสไตล์และใส่ใจในทุกรายละเอียด นับเป็นก้าวแรกที่กล้าหาญและสง่างามบนเส้นทางใหม่ที่น่าจับตา