มือยิงอดีตเมีย หนีซ่อนตัวในซากเรือ 3 วัน 3 คืน สุดท้ายก็ไม่รอด
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. มอบหมายเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นายศราวุธฯ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 388/2568 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 หลบหนีคดีซ่อนในซากเรือ
จับกุมในข้อหา
- พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
- ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
- พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
- ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยไม่มีเหตุอันสมควรในที่ชุมชน
สถานที่จับกุม บริเวณที่จอดซากเรือ ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
พฤติการณ์แห่งคดี
ร.ต.อ.สุชาติ สงสม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันที่ร้านแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองสงขลา ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ นางสาววันดีฯ อายุ 49 ปี เจ้าของร้าน และ นางสาวรัตติยาฯ ผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของผู้ต้องหา
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายศราวุธฯ ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ยิงใส่นางสาวรัตติยาฯ แต่กระสุนไม่ถูก จากนั้นพยายามวิ่งไล่ตามเพื่อยิงซ้ำ แต่ปืนไม่ลั่น จึงใช้ด้ามปืนตีนางสาวรัตติยาฯ เข้าที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนมีพลเมืองดีเข้าช่วยและแย่งปืนไว้ได้ ส่วนผู้ต้องหาหลบหนีไปด้วยรถจักรยานยนต์
ของกลางในที่เกิดเหตุ
- ลูกปรายกระสุนปืนลูกซอง 13 ลูก
- ปลอกกระสุนปืนลูกซองสีแดง 1 ปลอก
- กระสุนปืนลูกซองสีเขียว 2 นัด
- ปืนพกลูกซอง 1 กระบอก
- รถจักรยานยนต์ HONDA รุ่น MSX125SF สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
ต่อมา ร.ต.อ.สุชาติ สงสม ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสงขลา และได้รับการอนุมัติหมายจับ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันสืบสวนติดตาม กระทั่งพบว่า นายศราวุธฯ หลบหนีโดยใช้เรือหางยาวของพี่ชาย ไปซ่อนตัวบริเวณที่จอดซากเรือในพื้นที่ ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา
เจ้าหน้าที่จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และประสานตำรวจกองบังคับการตำรวจน้ำ โดยใช้เรือยางท้องแข็ง รน.89 และเรือตรวจการณ์ รน.52 เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบเรือต้องสงสัยจอดอยู่บริเวณซากเรือ และพบ นายศราวุธฯ ยืนหลบซ่อนอยู่ข้างเรือ
เจ้าหน้าที่แสดงตัวและแสดงหมายจับ โดยผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งสิทธิและเหตุแห่งการจับกุม ก่อนควบคุมตัวมาจัดทำบันทึกจับกุมและส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป