‘กลัฟ’ เผยสเปคคนที่ใช่ ย้ำถ้ามีแฟนจะเปิดตัว รับตรงๆ เป็นคนคลั่งรัก!
ทำเอาDMแทบแตก หลังจากที่ “กลัฟ คณาวุฒิ” พระเอกชื่อดัง ได้ให้สัมภาษณ์ว่าอยากมีแฟน พร้อมเผยสเปคผู้หญิงในฝันของตนเองให้หลายคนได้ทราบ ทำเอาแฟนๆ แห่จับตารอดูว่าแฟนในอนาคตของหนุ่มกลัฟจะเป็นใคร แถมคิวงานแน่นขนาดนี้ เจ้าตัวจะมีเวลาไปหาแฟนได้อย่างไรนั้น
‘กลัฟ คณาวุฒิ’ เผยสเปกแฟนในอนาคต ลั่นอยากมีแฟน วางแผนอยากมีลูกก่อนอายุ 35!
ล่าสุดในงานเปิดตัว “OPPO Reno14 Series 5G” หนุ่มกลัฟได้ออกมาอัปเดตสถานะอีกครั้ง เพราะประเด็นดังกล่าวนี้กลายเป็นเรื่องราวที่หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก พร้อมยอมรับว่าใช้ชีวิตหนุ่มโสดก็มีเหงาๆบ้าง อยากมีคนช่วยฮีลใจ โดยพระเอกดังได้เผยว่า
“สำหรับที่หลายคนคิดว่าเราประกาศตามหาแฟนจริงๆ มันไม่ใช่การประกาศ หรือไม่ได้เชิงขายของอะไรขนาดนั้น แค่บอกให้คนรู้ว่าผมยังโสดอยู่นะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าใครสนใจแล้วทักเข้ามาได้ ก็อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น แต่พอเราบอกแบบนั้นไป ก็น่าจะมีคนทักมา ก็อย่างที่ผมบอก ผมไม่ใช่เด็กติดโซเชียลเท่าไหร่ ผมอาจจะยังไม่ได้เข้าไปอ่าน DM ด้วย คือถามว่าถ้าใครจะจีบผมแล้วไดเรกต์มาคือไม่ช่วยใช่ไหม ก็ถ้าเห็นก็อาจจะช่วย แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นครับ
โดยส่วนตัวผมรู้สึกอยากรู้จักแบบเจอหน้าค่าตากันก่อน แล้วค่อยทำความรู้จักกัน ถามว่าไม่เจอคนที่ทัชใจบ้างเหรอ มีอยู่แล้วครับ คือมันผ่านมานานแล้วเหมือนกัน ให้มันเป็นเรื่องของจังหวะ แค่มันไม่มีจังหวะได้คุย ก็ตามจังหวะครับหลายคนบอกว่าถ้าเราอยากมีแฟนต้องให้เราออกจากบ้านก่อน แล้วเราให้แฟนมาหาที่บ้านไม่ได้เหรอครับ (หัวเราะ) คือเราก็อาจจะเจอตามที่ทำงานแทนไงครับ เป็นจังหวะเวลาที่เราออกจากบ้าน
ความโสดทำให้เหงาไหม ถ้าตอบแบบดาราก็ไม่ค่อยเหงาครับ เพราะมีน้องแมวสองตัวอยู่ที่ห้อง แต่ถ้าตอบจริงๆ ก็เหงาแหละครับ เพราะว่าน้องแมวช่วยเราได้ในส่วนของการทำงาน แบบที่เราทำงานกลับมาเหนื่อยๆ ได้มาเจอน้อง ได้มาเล่นกับน้องก็ช่วยแบ่งเบาความเหนื่อย คือมันต้องมีอีกอย่างนึงที่มาช่วยฮีลใจบ้าง อยากมีที่ปรึกษา ถ้ามีก็ดี ถ้ามีแล้วปรึกษาได้ด้วยก็ยิ่งดีมากๆ เลยครับ”
หนุ่มกลัฟเล่าต่อว่า “ส่วนเพื่อนๆ รอบข้างก็ไม่ค่อยถามนะ เพราะว่าเขารู้นิสัยผมมากกว่า สมมุติว่าถ้าผมจะคุยกับใครมันต้องมาจากตัวผมเอง เขาเลยไม่ค่อยจะยัดเยียดใครมาให้เท่าไหร่ ปัญหาหลักๆ คืออยู่ที่ตัวเรามากกว่า พอหลังจากเป็นข่าวออกไปก็มีคอมเมนต์เข้ามาว่าไม่เชื่อว่าเราโสด หน้าตาอย่างเราโสดเหรอ ก็จริงนะ ก็โสดจริงๆ ครับ ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน ก็มันไม่มีใครก็โสดครับ แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่จะต้องวิ่งตามหา ก็ให้มันเป็นเรื่องของโอกาสและจังหวะดีกว่า ไปทำงานงานหนึ่งได้มีโอกาสไปเจอคนที่เราถูกใจ ก็ขอให้มันเป็นเรื่องแบบนั้นดีกว่า
ถามว่าโสดมากี่ปีแล้วก็ประมาณสามถึงสี่ปีได้ครับ ก็ตั้งแต่ช่วงเริ่มทำงาน มันก็จะเป็นฟีลคุยกันมากกว่า ไม่ได้มีคบใครจริงจัง แต่ตอนนี้ก็ไม่มีคนคุย จะถามว่าคนใหม่จะทำให้เราตกหลุมรักได้ไหม ก็ต้องได้ครับ เริ่มเขินแล้ว คนแบบไหนเหรอครับ ขอคนที่เข้าใจเราแล้วกัน เป็นคนที่คอยสนับสนุนเราในการทำงาน คนที่รักครอบครัวเรา คนที่เรารัก แล้วทุกครั้งที่ใครถามเรื่องสเปกทำไมต้องเขิน ก็ไม่รู้เหมือนกัน มันเขินเอง คือมันไม่มีก็ไม่รู้จะพูดถึงใคร ซึ่งจริงๆ ผมเป็นคนคลั่งรักระดับหนึ่งเลยนะ คือเราเคยพูดหลายทีแล้วแหละ ว่าเราเป็นคนที่ติดเหมือนกันถ้ามี เป็นคนติดแฟน
แต่เราไม่ได้เปิดแล้วก็ไม่ได้ปิด คือเรารู้สึกว่าถ้าเรามีเราก็อยากอวดด้วยซ้ำ เราอยากให้ทุกคนได้เห็นความน่ารักของแฟนเรา ถ้ามีนะ คือต้องกลับไปเปิด DM เลย ลองกลับไปเช็กหน่อยเผื่อมี แล้วคือถ้าจะมีใครสักคนก็ไม่ได้คิดที่จะปิดบัง แต่ผมก็คิดว่ามันอยู่ที่การคุยกันด้วยแหละ ถ้าสมมุติว่าสองคนคุยกันแล้วโอเคว่าจะเปิด หรือแฮปปี้ที่ใช้ชีวิตแบบนี้ ก็จะใช้ชีวิตตามที่สองคนโอเคแฮปปี้ แต่ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้แฮปปี้ที่จะเปิดตัวอะไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ค่อยว่ากัน ถามว่างานเยอะขนาดนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปหาแฟน ก็เวลาทำงานนี่แหละครับ ก็เผื่อได้เจอใครที่เวลาเราร่วมงานด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่เจอ เคยอยู่แต่ในห้องยังไม่ได้ไปไหนเลย อยู่แต่ห้องแต่งตัว”