ครบ 9 ปี พญาศรีสัตตนาคราช สู่ศรัทธาบารมี สร้างเศรษฐกิจปีละกว่า 500 ล้านบาท

ครบ 9 ปี พญาศรีสัตตนาคราช สู่ศรัทธาบารมี สร้างเศรษฐกิจปีละกว่า 500 ล้านบาท

พญานาคเปลี่ยนเมือง ครบ 9 ปี สร้างประติมากรรม แลนด์มาร์กพญานาค องค์พญาศรีสัตตนาคราช สู่ศรัทธาบารมี สร้างเศรษฐกิจ เงินสะพัดกว่าปีละ 500 ล้านบาท เกิดอาชีพหลากหลาย ขายลอตเตอรี่ จัดพานบายศรีเครื่องบวงสรวง รำแก้บน กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ดึงดูดนักท่องเที่ยว ปีละกว่า 2 ล้านคน เตรียมจัดงานบวงสรวงยิ่งใหญ่ วันที่ 7 เดือน 7 ส่งเสริมการท่องเที่ยว ทุกปี

ต้องบอกว่า เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว เส้นทางสายมู นครพนม หลังปี 2559 มีการก่อสร้าง ประติมากรรม แลนด์มารากพญานาคศักดิ์สิทธิ์ องค์พญาศรีสัตตนาคราช ริมฝั่งน้ำโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว แบบก้าวกระโดด เนื่องจาก นครพนม เป็นเมืองเส้นทางศักดิ์สิทธิ์ มีองค์พระธาตุพนม รวมถึงพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ประจำวันเกิด ยิ่งกำเนิด องค์พญาศรีสัตตนาคาช ทำให้เสริมศักยภาพ เส้นทางท่องเที่ยวสายมู ดึงดูดประชาชน นักท่องเที่ยว เข้ามาในพื้นที่ เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จากปกติปีละ 4-5 แสนคน พบว่าปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยว เข้ามาในพื้นที่ ปีละไม่ต่ำกว่า 2 -3 ล้านคน

แน่นอนที่สุดสิ่งที่ตามมา นอกจาก ร้านค้า ร้านอาหาร ที่พักโรงแรมในพื้นที่ มีรายได้มากขึ้น ยังเกิดอาชีพหลากหลาย ที่สร้างรายได้จากเส้นทางสายมู อาทิ พ่อค้า แม่ค้าลอตเตอรี่ อาชีพจัดพานบายศรี จัดบวงสรวง รำบูชาแก้บน กลายเป็นอาชีพ มาแรงสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างรายได้เงินหมุนเวียนสะพัดรวมไม่ต่ำกว่าปี ละ 500 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เชื่อกันว่า หากใครได้มากราบไหว้ขอพร จะประสบความสำเร็จ ด้านหน้าที่การงาน ธุรกิจค้าขาย ร่ำรวย ถูกรางวัลใหญ่ เคยมีคนถูกลอตเตอรี่ รางวัลใหญ่ทุกปี มากสุดถึง 60 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี จ.นคพรนม ร่วมกมับเทศบาลเมืองนครพนม ภาครัฐเอกชน และประชาชน จะร่วมกันจัดงานบวงสรวงองค์พญาศรีสัตนาคราช ขึ้นทุกปี ส่วนปีนี้กำหนด วันที่ 7 -13 กรกฎาคม 2568 เป็นการรำลึกที่มา การก่อสร้างแลนด์มาร์กพญานาคศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงเป็นการจัดงาน เพื่อกระตุ้น ส่งเสริมการท่องเที่ยวประจำปี โดยจะมีการจัดนางรำวันละกว่า 1,000 คน จากชนเผ่า ต่างๆ ร่วมพิธีบวงสรวง ทุกวัน รวม 7 วัน 7 คืน

สำหรับการสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.นครพนม ซึ่งถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งใหม่ ของชาว จ.นครพนม รวมถึงเป็นการสร้างสัญลักษณ์เมืองการค้าเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ภายใต้ความเชื่อเกี่ยวกับ องค์พญานาค ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ที่ดูแลปกปักษ์รักษาแถบลุ่มน้ำโขง รวมถึงองค์พระธาตุพนม ภายหลังมีการวางแผนออกแบบก่อสร้างมานานเกือบ 5 ปี จนกระทั่งสมบูรณ์แบบ นำมาประดิษฐาน เมื่อปี 2559 ได้นามว่า องค์พญาศรีสัตตนาคราช ได้ถูกก่อสร้างขึ้นด้วยโลหะทองเหลือง เป็นองค์พญานาคขดตัวชูเศียรพ่นน้ำ จำนวน 7 เศียร มีความสูงตั้งแต่ฐานลำตัว ประมาณ 9 เมตร ขดลำตัวกว้างประมาณ 6 เมตร และตั้งบนแท่นประดิษฐานสูง ประมาณ 5 เมตร มีน้ำหนักรวมประมาณ 9 ตัน โดยจะประดิษฐานหันหน้าไปทางน้ำโขง พ่นน้ำทั้ง 7 เศียรลงสู่แม่น้ำโขง ใช้งบประมาณเฉพาะองค์พญานาค ประมาณ 9 ล้านบาท ถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่มีความสวยงาม โดดเด่น และสร้างเศรษฐกิจ ให้กับ จ.นครพนม

ด้าน แม่หมอน้อย ญาณทิพย์ นางรำสายมูพญานาค และเจ้าของคณะจัดพานบายศรี รำบวงสรวง แก้บน ยืนยันว่า หลังมีองค์พญาศรีสัตตนาคราช เกิดอาชีพ จัดพานบายศรี จัดโต๊ะบวงสรวง รำบวงสรวงขอพร รำแก้บน โดยเฉพาะโต๊ะบวงสรวง ถือว่า กลายเป็นอาชีพที่มาแรง มีลูกค้า สายศรัทธามาสั่งจอง บวงสรวงแก้บน ไม่ขาดสายวันเว้นวัน มีทั้งขอพร รวมถึงสมหวังมาแก้บน มีราคาตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ถือว่า เป็นการสร้างรายได้ในพื้นที่

สอบถาม นายไกรวิทย์ กาลำดวน อายุ 52 ปี พ่อค้าลอตเตอรี่ เปิดเผยว่า ยอมรับว่า พื้นที่ลานพญาศรีสัตตนาคราช ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงโชคสำคัญ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับพ่อค้า แม่ค้า ลอตเตอรี่ ปัจจุบัน มีพ่อค้า แม่ค้า ประมาณ 300 คน ถือว่า เป็นแหล่งขายลอตเตอรี่ ที่สำคัญของภาคอีสาน มีเงินหมุนเวียนจากการขายลอตเตอรี่ คาดว่าไม่ต่ำกว่า เดือนละ 20 -30 ล้านบาท และมีคนเคยถูกรางวัลใหญ่หลายคน ทำให้มีคนอยากมาเสี่ยงโชคเพราะเชื่อว่า องค์พญาศรีสัตตนาคราชให้โชค