"โจนาธาน เฮด" แฉสงครามน้ำลายไทย-กัมพูชาเดือด! ไทยสื่อสารพัง จืด-ช้า-สับสน

"โจนาธาน เฮด" แฉสงครามน้ำลายไทย-กัมพูชาเดือด! ไทยสื่อสารพัง จืด-ช้า-สับสน ลั่น ไทยโต้ไม่ทันเกมสื่อสารพลาด แพ้ทั้งสนามจริง-สนามข่าว

วันที่ 21 ส.ค. 2568 โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวอาวุโสของบีบีซี ลงบทความชื่อ "A fierce war of words keeps Thailand and Cambodia on edge" (สงครามน้ำลายอันดุเดือดทำให้ไทยกับกัมพูชายังตึงเครียด) มีเนื้อหากล่าวถึงการสื่อสารของไทยกับกัมพูชา

เขาระบุว่าฝ่ายกัมพูชาใช้กองทัพ "นักรบโซเชียลมีเดีย" ถล่มกล่าวหาและสร้างความขัดแย้งกับไทย ซึ่งโป๊ะแตกไปหลายครั้ง

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยนั้นก็ล้มเหลวในการแก้ข่าวของกัมพูชา โดยเฉพาะเรื่องการสร้างความเข้าใจว่าการยิงจรวดของกัมพูชาทำให้ความขัดแย้งบานปลายยิ่งขึ้น (Bangkok failed to get across its argument that Cambodia, whose rockets marked the first use of artillery and had killed several Thai civilians, was responsible for the escalation.)

การประเมินของโจนาธาน เฮด สรุปออกมาได้ 3 ข้อว่าการสื่อสารของไทยจืดชืด-เชื่องช้าและสับสน

จืดชืด เพราะออกแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษร เป็นข้อมูลสถิติอย่างเดียว (พูดง่ายๆ ว่าไม่นำเสนอเป็นรูปภาพ อินโฟกราฟิก วิดีโอ หรืออะไรที่ดึงดูดความสนใจได้เลย)

เชื่องช้า เพราะการนำเสนอข่าวของไทยมักตามหลังข่าวปลอมของกัมพูชาเสมอ (ทั้งที่เป็นฝ่ายนำเสนอก่อนก็ทำได้ เช่น เรื่องกับระเบิดของกัมพูชาจะนำเสนอตั้งแต่ทหารโดนระเบิดขาขาดคนแรกก็ได้ หรือเรื่องเชลยศึกกัมพูชาถ้านำสื่อมาทำข่าวการปฏิบัติต่อเชลยเหล่านี้ก่อนก็ทำได้เช่นกัน)

สับสน เพราะหน่วยงานที่ให้ข่าวมีหลากหลายทั้งรัฐบาล หน่วยงานท้องถิ่นและกองทัพ ซึ่งโจนาธาน เฮดให้เหตุผลว่าเป็นเพราะพรรคแกนนำรัฐบาลขัดแย้งกับกองทัพ

ส่วนการสื่อสารของไทยที่เข้าเป้านั่นคือเรื่องทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา โดยสามารถทำให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศเห็นว่ากับระเบิด PMN-2 ที่วางใหม่และปลดสลักพร้อมทำงานแล้ว (ซึ่งก็เป็นไม่กี่ประเด็นที่นำผู้สื่อข่าวลงทำข่าวเสียด้วย คำถามคือการสื่อสารสามารถทำให้เหมือนผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เองได้หรือไม่ แทนที่จะต้องมารอเขาลงพื้นที่อย่างเดียว?