ครึ่งแรกของปี 2568 สดใส ซีพีเอฟ กำไรสุทธิพุ่ง 134% พร้อมจ่ายปันผล 1 บาทต่อหุ้น
ซีพีเอฟ แจ้งผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2568 กำไรสุทธิ 18,926 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจำนวน 2 ใน 3 มาจากธุรกิจในต่างประเทศที่ตลาดเติบโตต่อเนื่อง และที่สำคัญมาจากความสามารถในการบริหารค่าใช้จ่าย การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การป้องกันโรคระบาดในสัตว์ รวมถึงต้นทุนที่ลดลงจากราคากากถั่วเหลืองที่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา พร้อมจ่ายปันผลหุ้นละ 1 บาท คาดครึ่งปีหลังแนวโน้มดีต่อเนื่อง ไม่หวั่นผลกระทบภาษีทรัมป์ เพราะซีพีเอฟเน้นการลงทุนในรูปแบบ Localization หรือผลิตในประเทศและจำหน่ายในประเทศนั้นเป็นหลักอยู่แล้ว
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ผลประกอบการของซีพีเอฟในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 มียอดขายรวม 291,770 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากการดำเนินธุรกิจและการค้าในต่างประเทศ มีสัดส่วนคิดเป็น 62% การค้าในประเทศคิดเป็น 33% และการส่งออกคิดเป็น 5% ของยอดขาย
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในต่างประเทศเป็นไปตามแผนที่ซีพีเอฟไปลงทุนและร่วมลงทุนใน 16 ประเทศ และส่งออกสินค้าอาหารไปต่างประเทศมากกว่า 50 ประเทศ ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ยอดขายจากต่างประเทศตามสกุลเงินของแต่ละประเทศแล้ว สรุปว่ายอดขายของบริษัทเติบโตประมาณ 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่จากการที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้มีการรายงานยอดขายลดลงประมาณ 1%
ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ซีพีเอฟสามารถทำกำไรสุทธิได้ 18,926 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 134% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากราคาเฉลี่ยเนื้อสัตว์ทั้งไก่และสุกรในหลายประเทศอยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงครึ่งปีแรกของปีที่แล้ว เพราะปริมาณเนื้อสัตว์ในหลายประเทศมีจำนวนลดลงจากการเกิดภาวะโรคระบาดในการเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นโรคไข้หวัดนกที่เกิดขึ้นในกว่า 40 ประเทศ และโรคอหิวาต์สุกร หรือ ASF ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย
ผลกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นยังมาจากต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ลดลง เพราะราคากากถั่วเหลืองในหลายประเทศอยู่ในระดับต่ำกว่าปีที่ผ่านมา รวมทั้งการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ในภาพรวมบริษัทมีต้นทุนที่ลดลงจากปีก่อน
“ซีพีเอฟให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าอาหารคุณภาพปลอดภัย และมีโภชนาการอาหารที่ดีให้กับผู้บริโภค จึงให้ความสำคัญกับการเป็นองค์กรนวัตกรรมรอบด้าน รวมถึงระบบการป้องกันโรคระบาดในการเลี้ยงสัตว์ ทำให้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา บริษัทสามารถบริหารจัดการบริหารความเสี่ยงจากโรคระบาดในการเลี้ยงสัตว์ได้ดี” นายประสิทธิ์ กล่าว
สำหรับการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 นั้น นายประสิทธิ์ ประเมินว่าจะยังคงอยู่ในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง ส่วนผลกระทบจากมาตรการ “ภาษีทรัมป์” นั้น บริษัทมีการส่งออกกุ้งไปยังสหรัฐอเมริกาไม่ถึง 0.1% ของยอดขาย เพราะบริษัทมีโรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูปจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาอยู่แล้ว และมีแผนงานที่จะขยายการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางในการดำเนินงานของกิจการในต่างประเทศของซีพีเอฟ ที่เป็นรูปแบบ Localization หรือผลิตในประเทศและจำหน่ายในประเทศนั้นเป็นหลัก
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนของปี 2568 ในอัตราหุ้นละ 1 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 1 กันยายน 2568 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 กันยายนนี้
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ครึ่งแรกของปี 2568 สดใส ซีพีเอฟ กำไรสุทธิพุ่ง 134% พร้อมจ่ายปันผล 1 บาทต่อหุ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "คอนแทรคฟาร์มมิ่ง" ส่งต่อพลังขับเคลื่อนอาชีพเกษตรกรอย่างยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น
- CPF ติดอันดับ Fortune Southeast Asia 500
- "ซีพีเอฟ" ร่วมสนับสนุน "งานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย" ประจำปี 2568
- ซีพีเอฟจับมือจังหวัดเชียงใหม่ เดินหน้าแก้ไขวิกฤตไฟป่า-หมอกควันอย่างยั่งยืน
- ซีพีเอฟ ติดอันดับที่ 16 ใน Fortune Southeast Asia 500 ปี 2025 สะท้อนความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath