จับตา อบจ.สงขลา กู้เงินกว่า 2000 ล้าน ‘สุพิศ’ โกงหรือไม่เป็นเรื่องในอนาคตที่ต้องติดตาม
น่าจะยินดียิ่งกับชาวสงขลา เมื่อ ‘สุพิศ พิทักษ์ธรรม’ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.) ให้คำมั่นต่อ สภา.อบจ.ว่า โครงการกู้เงิน 2009 ล้านบาท เป็นการกู้มาเพื่อการพัฒนา ไม่ใช่กู้มาเพื่อโกง
อบจ.สงขลา ขออนุมัติต่อสภา อบจ.สงขลา ขอกู้เงินสองก้อนใหญ่ รวมแล้ว 2009 ล้านบาท เพื่อใช้ในภารกิจทำถนน ก้อนแรกกู้จากกองทุนส่งเสริมกิจการองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก้อนที่สองกู้จากธนาคารออมสิน ก็เข้าใจว่า น่าจะได้มีการประสานกันไว้แล้วเป็นเบื้องต้น ส่วนการอนุมัติกู้ยังต้องผ่านการเห็นชอบจากบอร์ดของทั้งสององค์กร และต้องผ่านความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย ในฐานะผู้กำกับดูแล ซึ่งก็ไม่ง่าย
มาทำความรู้จักกับกองทุนส่งเสริมกิจการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกันก่อน บางคนอาจจะไม่รู้จัก
“กองทุนส่งเสริมกิจการองค์การบริหารส่วนจังหวัด” (ก.ส.อ.) ซึ่งคือกองทุนในความดูแลของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการดำเนินกิจกรรมขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
โครงสร้างและส่วนเกี่ยวข้อง ก.ส.อ. จัดตั้งขึ้นตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย โดยมีคณะกรรมการเป็นผู้กำกับดูแลการบริหารกองทุน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สังกัดกระทรวงมหาดไทย) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ด้านงบประมาณ การเงิน และพัสดุของกองทุน
วัตถุประสงค์และหลักการสำคัญ คือเปิดโอกาสให้ อบจ. สามารถกู้เงินจากกองทุน เพื่อนำไปใช้ในโครงการต่าง ๆ โดยรายได้หรือเงินฝากของ อบจ. ที่นำมาสะสมไว้เป็นส่วนหนึ่งของกองทุนเป็นพื้นฐานในการคำนวณวงเงินกู้ โดยทั่วไป อบจ. สามารถกู้ได้ไม่เกิน 3 เท่าของเงินสะสมที่ฝากไว้กับกองทุน มีระบบกำหนด ดอกเบี้ยเงินกู้และผลตอบแทนจากเงินฝาก ที่ชัดเจน ตามเงื่อนไขของคณะกรรมการเงินทุนกำหนด
ตัวอย่างการใช้งานในเชิงปฏิบัติ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 มีการประชุมคณะกรรมการเงินทุนส่งเสริมกิจการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ก.ส.อ.) ครั้งที่ 3/2567 เพื่อพิจารณาโครงการกู้เงินของ อบจ.อุบลราชธานี จำนวน 72 โครงการ ซึ่งเน้นโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การก่อสร้างหรือปรับปรุงถนนพื้นที่รับผิดชอบของ อบจ. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
เงินของกองทุนส่งเสริมกิจการ อบจ.มาจากเงินสะสมของ อบจ.เอง ถ้ามีเงินเหลือจ่ายในรอบปีงบประมาณ ซึ่งส่วนใหญ่จ่ายไม่ทันทุกปี ก็นำฝากไว้กับกองทุน เมื่อจำเป็นก็ขอกู้ได้ตามเงื่อนไข และหลักเกณฑ์ ไม่เกิน 3 เท่าของเงินสะสม
การขอกู้จากกองทุน 1000 กว่าล้านบาทแสดงว่า อบจ.สงขลาต้องมีเงินสะสมฝากไว้ไม่น้อยกว่า 350 ล้านบาท แต่ข้อเท็จจริงไม่ทราบว่า อบจ.สงขลา มีเงินฝากสะสมอยู่เท่าไหร่
แต่ผมแปลกใจว่า ทำไมสุพิศถึงพูดว่า ไม่ใช่กู้มาโกง ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครถาม มันมีอะไรติดอยู่ในใจหรือเปล่า แต่น่าสนใจผลสำรวจของสำนักข่าวโฟกัสสงขลา เสียงท่วมท้นไม่เห็นด้วยกับการกู้เงิน 2009 ล้าน และไม่เชื่อว่าจะไม่มีการโกง
ประเด็นปัญหาคือถ้ากู้ได้ไม่ครบจำนวน 2009 ล้านบาท ผมว่า ส.อบจ.ทะเลาะกันตาย เพราะไม่ได้รับงบตามที่รับปากกันไว้ และ ส.อบจ.ส่วนใหญ่ไปบอกกล่าวกับชาวบ้านไว้หมดแล้ว จะสร้าง-ซ่อม ถนนสายนั้นสายนี้แล้วสุดท้ายไม่ได้ หรือได้ไม่เต็ม 'ยุ่งตายห่า' โค้วโต๊ะหมง ประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ อดีตประธานสภาฯกล่าวไว้
สุพิศจะโกงหรือไม่โกง ไม่ได้อยู่ที่คำพูด อยู่ที่การกระทำ ติดตามกันต่อไปในอนาคต