แฟนหนุ่ม นศ.พยาบาล เปิดใจ เล่าวันที่ไปหาแฟนสาวอยู่บ้าน วอนประหารชีวิต ลุงโหด ปลิดชีพหลาน ไม่เชื่อปมเหตุสลด
จากกรณี ลุงวัย 44 ปี ก่อเหตุใช้ไม้หน้าสามฟาดปลิดชีพหลานสาวแท้ๆ อายุ 20 ปี กำลังศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีตรัง ชั้นปีที่ 3 เสียชีวิต พร้อมอ้างสาเหตุที่ลงมือเนื่องจากคับแค้นใจหลานสาวมักจะวางอำนาจใส่ตน มีปากเสียงบ่อยครั้ง โดยเบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และควบคุมตัวตรวจหาสารเสพติด ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุด เมื่อคืนวันที่ 17 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา ที่วัดคลองมวน ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง ญาติของ น้องเชียร์ อายุ 20 ปี ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ทางด้าน แฟนหนุ่มผู้เสียชีวิต อายุ 17 เล่าว่า คบกับผู้ตายมาได้ 3 ปี 16 วัน แฟนเป็นคนที่นิสัยชอบเก็บตัวเงียบเวลาที่อยู่บ้าน แต่ร่าเริง เป็นคนดี รักเพื่อนและย่า แต่อยู่บ้านจะเป็นคนที่กลัวผู้ก่อเหตุมาก และจะอยู่ในห้องตลอด นอกจากคนที่รู้จักมาเรียกถึงจะออกมา ซึ่งแฟนเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยประถมผู้ก่อเหตุเคยคิดจะทำไม่ดีไม่ร้ายกับแฟน จึงทำให้แฟนกลัวและจำฝังใจมาตลอดกับเหตุการณ์ครั้งนั้น
ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาตนไปหาผู้เสียชีวิต แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปหาและได้ไปเคาะประตูห้องหลายครั้งผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้เปิดประตู แล้วถามมาว่าใคร ตนบอกว่าเราเอง จนแฟนเปิดประตูออกมาแล้วกอดตน พร้อมร้องไห้พูดว่าอย่าทำแบบนี้อีกนะกลัว
จากการที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ก่อเหตุไปเพราะความน้อยใจที่ผู้เสียชีวิตได้รับความรักจากญาติมากกว่านั้น ตนเชื่อว่าไม่เป็นความจริง อาจจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งแต่ก็ไม่สามารถที่จะก่อเหตุแบบนี้ได้ มันโหดร้ายเกิน ตนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะคิดไม่ดีไม่ร้ายกับผู้เสียชีวิตแน่นอน เพราะขณะนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน ตนรู้ดีว่าแฟนจะไม่เปิดประตูให้ใครง่ายๆ ยิ่งเป็นผู้ก่อเหตุด้วยแล้ว
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันโหดร้ายเกินไป ผู้ก่อเหตุควรจะถูกประหารชีวิตด้วยซ้ำ ถ้าได้พบกับผู้ก่อเหตุ ก็อยากถามว่าจริงๆ แล้วทำแฟนทำไม เพราะตนไม่เชื่อคำกล่าวอ้างของผู้ก่อเหตุอยากให้ได้รับโทษประหารชีวิต