โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“อนุทิน-ชัยเกษม” ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร!!!

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 22 ชั่วโมงที่ผ่านมา

*** ในเวลาไม่นานต่อจากนี้ประเทศไทย จะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีรัฐบาลชุดใหม่ และ มีทีมเศรษฐกิจใหม่ เข้ามาบริหารประเทศ ภายหลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ชี้ว่าน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผิดจริยธรรมร้ายแรงในกรณีคลิปเสียงสมเด็จฮุนเซน ส่งผลให้ น.ส.แพทองธาร สิ้นสภาพนายกฯ และ รัฐมนตรีทั้งคณะในรัฐบาล "อุ๊งอิ๊งค์" ก็สิ้นสุดลงตามไปด้วยโดยอัตโนมัติ

ว่าแต่นายกฯ คนใหม่ จะส่งผลใดต่อเศรษฐกิจของไทยในอนาคตบ้าง ???

ทั้งนี้ต้องรู้กันก่อนว่า บุคคลที่มีคุณสมบัติในการเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป จะต้องมาจากบัญชีแคนดิเดต ซึ่งมีเงื่อนไขดังนี้

1. แคนดิเดตนายกฯ ที่ถูกเสนอชื่อมาโหวตในสภาต้องมาจากพรรคการเมืองที่มี ส.ส. ในสภามากกว่า 5% (25 คน) มี ส.ส.รับรองอย่างน้อย 50 คน

2. การลงมติเลือกนายกฯ ต้องลงมติอย่างเปิดเผย โดยการออกเสียงลงคะแนนเป็นรายคน ผู้ที่ได้รับเลือกจะต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ หรืออย่างน้อย 247 เสียง

ในขณะนี้มีรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯ ทั้งหมด 6 คน ได้แก่

1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย

2.นายชัยเกษม นิติสิริ พรรคเพื่อไทย

3.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ

4.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ

5.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค พรรครวมไทยสร้างชาติ

6.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พรรคประชาธิปัตย์

ทั้งนี้ถ้าจะว่ากันตามกระแส คุณสมบัติ และ ตัดความเป็นไปได้ของบุคคลที่ดูแล้วอาจมีปัญหา การโหวตเพื่อดำรงตำแหน่งนายกฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นก็น่าจะเหลือเพียงนายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย และ นายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย เพียงสองคนเท่านั้น

ในกรณีที่ “กลุ่มอำนาจเดิม” อย่าง “พรรคเพื่อไทย” สามารถรวมคะแนนเสียงได้มากกว่า 247 เสียง ผลักดันให้ นายชัยเกษม ก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ คนใหม่ เจ๊เมาธ์ก็เชื่อว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจไทยในอนาคตหลังจากนี้ ก็คงไม่แตกต่างไปจากการที่ น.ส.แพทองธาร ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม

ประมาณว่าเป็น “เหล้าเก่าในขวดใหม่” เนื่องจาก “ชัยเกษม” คือ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ทำให้ ครม. ที่จะเข้ามาดูแลเศรษฐกิจของประเทศ ก็ยังคงเป็น “คนหน้าเดิม” อย่างที่เคยเป็นมา

ในขณะที่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เรื่องรถฟ้า 20 บาทตลอดสายรวมไปถึงเงินดิจิทัล 10,000 บาท อาจถูกนำมาสานต่อ นอกจากนี้ ยังอาจมีการผลักดันในเรื่องระบบโครงสร้างพื้นฐาน การกระตุ้นท่องเที่ยว รวมไปถึงมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี ส่งผลให้ GDP ของประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 อาจไม่ได้แย่เกินไป

ในทางกลับกัน…หากฝั่งของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย สามารถรวมคะแนนเสียง จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ แน่นอนว่าหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคภูมิใจไทย จะต้องเป็น “นายอนุทิน” ในขณะที่ทีมเศรษฐกิจของพรรค เช่น นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ก็น่าจะได้กลับเข้ามาทำงาน…นอกจากนี้ อาจได้เห็นชื่อทีมงานเศรษฐกิจรับเชิญ อย่าง “กรณ์ จาติกวณิช” ก็เป็นได้

นอกจากนี้…นโนบายด้านเศรษฐกิจที่พรรคพรรคภูมิใจไทย เคยหาเสียงเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น การพักหนี้ 3 ปี หยุดต้นปลอดดอก เงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท โครงการ "Landbridge" ซึ่งจะเชื่อมโยงระหว่างอ่าวไทยกับทะเลอันดามัน นโยบายรถเมล์ไฟฟ้าทั้งระบบ รวมไปถึงนโยบาย "เกษตรร่ำรวย ด้วย Contract Farming" อาจถูกนำมาผลักดันเศรษฐกิจของไทย

อย่างไรก็ตาม นอกจาก“พรรคประชาชน” ที่กลายเป็นตัวแปรสำคัญ ในกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถรวมคะแนนจนดันให้ นายชัยเกษม ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี อาจทำให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ ใช้อำนาจในประกาศ “ยุบสภา” ซึ่งในกรณีนี้แม้ตามประเพณีทางการเมืองไทย จะไม่เคยมีมาก่อน แต่ก็ไม่ได้มีกฎหมายระบุว่าทำไม่ได้ …ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า นายภูมิธรรม รักษาการนายกฯ กล้าที่จะลอง หรือ กล้าที่จะยอมรับผลที่ตามมาหรือไม่ด้วยเช่นกัน!!!

แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดนะคะ…เจ๊เมาธ์ยังยืนยันว่า รัฐบาลจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหา

เอาเป็นว่า อีกไม่กี่วันก็คงจะได้รู้ว่า ระหว่าง พรรคเพื่อไทย และ พรรคภูมิใจไทย …พรรคใดจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แค่อย่าไปผูกพันหรือเชื่อมั่นมากเกินไป

สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุน ก็คือ การรักษาเงินต้นถ้าไม่หายหรือไม่ลดลงมากเกินไป ก็ยังมีโอกาสที่จะได้กลับมา ถ้ามีทุนพอ…ทุกอย่างก็ยังพอรับได้อยู่แล้วค่ะ

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย…เจ๊เมาธ์ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...