‘ทักษิณ’ ร่วมโต๊ะอาหาร ‘นายหน้าธุรกิจสีเทา’ ตอกย้ำอดีตผู้นำไทยใกล้ชิดเครือข่ายธุรกิจสีเทานานาชาติ
ช่วงนี้ใครที่ติดตามข่าวต่างประเทศอาจได้เห็นรายงานที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะบทความของ Tom Wright นักเขียนเชิงสืบสวน ซึ่งเผยแพร่ใน Whale Hunting ภายใต้ชื่อ 'RICH LIST: The Fixer, the Jet, and Thaksin's Shadow Wealth' ที่เจาะลึกความมั่งคั่งเงาของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย
สิ่งที่ Tom รายงานและสร้างแรงสั่นสะเทือนในทางการเมือง–ธุรกิจ ก็คือ ในเดือนเมษายน ปี 2568 ทักษิณได้พบกับชายชาวแอฟริกาใต้ชื่อ Benjamin Mauerberger ซึ่งถูกระบุว่าเป็น 'นายหน้าธุรกิจสีเทา' (grey-business broker) หรือที่ Tom ใช้คำว่า 'Fixer' โดยบุคคลนี้มีสายสัมพันธ์กับธุรกิจการบินและเครือข่ายการจัดหาทรัพย์สินนอกระบบ จุดนัดพบไม่ใช่เพียงร้านอาหารหรูธรรมดา แต่จากการตรวจสอบของเพจเรา ยืนยันแล้วว่าร้านดังกล่าวคือ ร้านหรูภายในเกสรพลาซ่า (Gaysorn Village) กรุงเทพมหานคร
ใครคือ Benjamin?
ข้อมูลที่ตรวจสอบพบว่า Benjamin ไม่ใช่นักธุรกิจทั่วไป แต่มีภูมิหลังที่ยาวและเต็มไปด้วยข้อครหา ได้แก่
สถานะทางกฎหมาย: เขาเป็นชาวแอฟริกาใต้ ถูกระบุว่าเป็น อาชญากรที่ถูกตัดสินความผิดและหลบหนีคดี (convicted criminal on the run) และมีชื่อเสียงในฐานะ 'นายหน้าธุรกิจสีเทา' ที่ทำงานกับกลุ่มชนชั้นนำกัมพูชา คดีในนิวซีแลนด์ (2003): ศาลโอ๊คแลนด์สั่งปรับเขา NZ$30,000 จากการโทรหลอกลวงชาวนิวซีแลนด์และออสเตรเลียให้ลงทุนผ่านบริษัท Mauer-Swisse Securities ซึ่งถูกจัดอยู่ในรูปแบบ boiler room scam
คดี Atlantic Wine Agencies (2004–2006) : Benjamin ถูกอ้างถึงว่าเกี่ยวข้องกับคดีหลอกขายหุ้น (boiler room) ผ่านบริษัท Atlantic Wine Agencies (Florida/ลอนดอน) ปี 2005 บริษัท Atlantic Wine เซ็นสัญญากับเขาในฐานะ consultant เพื่อหาพันธมิตรควบรวมบริษัท (merger partners), จัดหาผู้บริหารระดับสูง และวางแผนการขยายธุรกิจ
เขาได้รับค่าตอบแทนเป็น หุ้น 4,000,000 หุ้น มูลค่ารวมประมาณ $140,000
ข้อตกลงนี้เกี่ยวพันกับ Adam Mauerberger (ญาติของเขา) ซึ่งดำรงตำแหน่ง President/CEO ของ Atlantic Wine
Brinton Group / Boiler Room Scam (2001) : ชื่อของ Benjamin ยังถูกโยงเข้ากับเครือข่ายธุรกิจสีเทาในเอเชียที่ใช้วิธีการ cold-calling หลอกขายหุ้น โดยเฉพาะคดีใหญ่ของ Brinton Group ในกรุงเทพฯ ซึ่งถูกตำรวจไทยและต่างชาติร่วมกันบุกจับในปี 2001 หลังหลอกชาวออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เสียหายกว่า 200 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (6.9 พันล้านบาท)
คดีนี้ถูกนิยามว่าเป็นหนึ่งใน เครือข่ายสแกมเมอร์นานาชาติ ที่ใหญ่ที่สุดในช่วงเวลานั้น
แล้วเขาคุยกับทักษิณเรื่องอะไร?
เมื่อเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมด สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือ การพูดคุยเพื่อหาช่องทางได้มาซึ่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวแบบนอกระบบ หรือที่เรียกกันว่า 'เครื่องบินเถื่อน' โดยเครื่องบินที่เป็นประเด็นคือ Bombardier Global G7500 ซึ่งถูกใช้เพื่อการเดินทางส่วนตัวของทักษิณ
เครื่องบินประเภทนี้ หากจัดหาผ่านช่องทางสีเทา จะช่วยเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางการเงิน การขึ้นทะเบียน และการควบคุมการบินสากล ซึ่งอาจสะท้อนความกังวลของทักษิณต่อข้อจำกัดการเดินทางและการเฝ้าติดตามจากรัฐไทยและพันธมิตรระหว่างประเทศ
บทสรุป
การพบกันของ ทักษิณ ชินวัตร กับ Benjamin Mauerberger จึงไม่ใช่เพียงมื้ออาหารธรรมดา แต่คือการตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างอดีตผู้นำไทยกับเครือข่ายธุรกิจสีเทานานาชาติ Benjamin ในฐานะ นายหน้าธุรกิจสีเทา–สแกมเมอร์ ที่มีประวัติพัวพันกับคดีหลอกลวงการลงทุน (2001–2006) กลายเป็นตัวละครสำคัญที่เชื่อมโยงการเมืองไทยกับโลกใต้ดินทางการเงิน การจัดหาเครื่องบินเจ็ตเถื่อนอาจเป็นสัญญาณถึงการเตรียมการด้านความปลอดภัย การเคลื่อนย้าย หรือแม้แต่การสร้างเครือข่ายเคลื่อนทุนข้ามพรมแดนในยามวิกฤติ
ข่าวอ้างอิง ปูมหลัง Benjamin
- https://www.thisismoney.co.uk/…/Payouts-Pacific…
- https://www.thisismoney.co.uk/…/Global-scam-in-Atlantic…
- https://www.theguardian.com/world/2001/jul/27/johnaglionby
- https://www.crimes-of-persuasion.com/…/brinton-group.html