โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

เจาะลึก “ไทรอยด์อ้วน” ฮอร์โมนเผาผลาญลดลง ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุ

PPTV HD 36

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ไทรอยด์อ้วนคือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย ทำให้เผาผลาญช้า น้ำหนักขึ้นง่าย เหนื่อย หนาวง่าย ควรตรวจวินิจฉัยและรักษาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

หลายคนที่มีปัญหาน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะไม่ได้กินมื้อหนักเป็นประจำ หรือพยายามควบคุมอาหารแล้วก็ตามแต่ก็ยังรู้สึกอ้วนขึ้นอยู่ สัญญาณนี้อาจเป็นเพราะการทำงานผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ซึ่งเรียกว่า “ไทรอยด์อ้วน” หรือภาวะ Hypothyroidism ที่ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ช้าลง ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานช้าลง ฮอร์โมนที่ควบคุมระบบเผาผลาญลดลง

ทำให้เกิดอาการน้ำหนักขึ้นเร็ว ตัวบวม อ้วนง่าย เหนื่อยง่าย ผิวแห้ง หนาวง่าย และง่วงบ่อย ภาวะนี้ถือเป็นหนึ่งในอาการของไทรอยด์ผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักตัวโดยตรง ในทางกลับกันยังมีภาวะตรงข้ามที่เรียกว่า ไทรอยด์เป็นพิษ ซึ่งเป็นกรณีที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป ทำให้เผาผลาญพลังงานเร็วผิดปกติ ส่งผลให้น้ำหนักลดลงแม้จะกินเยอะ ดังนั้นจึงควรแยกแยะให้ชัดเจนว่าอาการอ้วนที่เกิดขึ้นนั้นมาจากไทรอยด์อ้วนจริงหรือไม่ เพราะการวินิจฉัยที่แม่นยำจะช่วยให้รักษาได้ตรงจุดมากขึ้น

ไทรอยด์อ้วนมีสาเหตุจาก?

ภาวะไทรอยด์อ้วนอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนได้น้อยกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้มีทั้งที่เกิดจากโรคภูมิคุ้มกัน การรักษาทางการแพทย์ และปัจจัยอื่น ๆ

  • โรคภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ เช่น โรคฮาชิโมโต (Hashimoto's thyroiditis) ที่ระบบภูมิคุ้มกันโจมตีทำลายเนื้อเยื่อต่อมไทรอยด์ ทำให้ต่อมไทรอยด์ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนได้อย่างเพียงพอ
  • ผลข้างเคียงจากการรักษาภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ผู้ป่วยบางรายที่เคยได้รับการรักษาภาวะไทรอยด์เกิน ไม่ว่าจะเป็นด้วยยาต้านไทรอยด์ การฉายรังสี หรือแม้แต่การผ่าตัดไทรอยด์ อาจทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยลงเกินไปในภายหลัง
  • การขาดไอโอดีนในร่างกาย ไอโอดีนเป็นสารตั้งต้นสำคัญในการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ การที่ร่างกายได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอ จะส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนโดยตรง
  • ความผิดปกติของต่อมใต้สมอง ความผิดปกติของต่อมใต้สมองหรือต่อมไฮโปธาลามัส ซึ่งเป็นต่อมที่ควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์ ก็สามารถนำไปสู่ภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติได้เช่นกัน
  • การอักเสบของต่อมไทรอยด์ อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส หรือภาวะอื่น ๆ ที่ทำให้ต่อมไทรอยด์อักเสบและทำงานบกพร่องชั่วคราวหรือถาวร
  • ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ลิเธียม ยาต้านไทรอยด์ หรือยาเคมีบำบัดบางประเภท ที่อาจรบกวนการทำงานของต่อมไทรอยด์
  • ความผิดปกติแต่กำเนิด ในกรณีผู้ป่วยบางคนอาจเกิดมาโดยมีต่อมไทรอยด์ไม่สมบูรณ์หรือขาดต่อมไทรอยด์ ทำให้ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนได้ตั้งแต่เกิด

อาการไทรอยด์อ้วน

ผู้ที่มีภาวะไทรอยด์อ้วน จะมีลักษณะอาการคล้ายกับคนที่ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง หรือมีภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของร่างกายในหลายด้าน โดยอาการไทรอยด์อ้วนที่พบได้บ่อย มีดังนี้

  • น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ แม้จะกินอาหารปริมาณเท่าเดิมหรือน้อยลง แต่น้ำหนักกลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
  • รู้สึกเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียตลอดเวลา มีความรู้สึกเฉื่อยชา ไม่มีแรงในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ถึงแม้จะพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ยังรู้สึกไม่สดชื่น
  • ง่วงนอนมากกว่าปกติ รู้สึกอยากนอนบ่อยขึ้น นอนนานแล้วยังไม่สดชื่นและมีปัญหาในการตื่นนอนตอนเช้า
  • รู้สึกหนาวง่ายผิดปกติ ถึงแม้ในอากาศที่คนอื่นรู้สึกปกติ แต่ผู้ป่วยจะรู้สึกหนาวและต้องการความอบอุ่นมากกว่า เนื่องจากอุณหภูมิร่างกายลดลง
  • ผิวหนังแห้งและเปราะบาง ผิวจะดูหยาบกร้าน แห้ง ไม่มีความชุ่มชื้นและอาจมีอาการคันหรือลอกเป็นขุย
  • ท้องผูกเรื้อรัง ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง ทำให้การขับถ่ายไม่ปกติและอาจมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
  • ผมร่วงและเล็บแตกง่าย เส้นผมจะบางลงและหลุดร่วงมากกว่าปกติ เล็บมือเล็บเท้าจะเปราะและแตกง่าย รวมถึงขนคิ้วอาจจางลงด้วย
  • หัวใจเต้นช้าและความดันโลหิตต่ำ การทำงานของหัวใจช้าลง อาจรู้สึกเหนื่อยเมื่อออกกำลังกายและบางคนอาจมีอาการใจสั่น

การตรวจวินิจฉัยไทรอยด์

  • ซักประวัติและตรวจร่างกาย แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ เช่น ความเหนื่อยล้า การเพิ่มน้ำหนัก ความรู้สึกหนาว และตรวจสัญญาณชีพ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต
  • คลำตรวจต่อมไทรอยด์ แพทย์จะใช้มือคลำบริเวณคอเพื่อตรวจหาก้อนที่ต่อมไทรอยด์ ขนาดของต่อม และลักษณะความผิดปกติของต่อมไทรอยด์
  • ตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมน เพื่อวัดระดับฮอร์โมน TSH, T3, T4 และไทรอยด์แอนติบอดี เพื่อประเมินการทำงานของต่อมไทรอยด์อย่างละเอียด
  • ตรวจหาแอนติบอดีในเลือด เป็นการตรวจ Anti-TPO และ Anti-Thyroglobulin เพื่อหาสาเหตุจากโรคภูมิคุ้มกัน เช่น โรคฮาชิโมโตที่เป็นสาเหตุหลักของอาการไทรอยด์ต่ำและไทรอยด์อ้วน
  • ตรวจอัลตราซาวนด์ต่อมไทรอยด์ เพื่อดูโครงสร้าง ขนาด และลักษณะของเนื้อเยื่อต่อมไทรอยด์ รวมทั้งตรวจหาก้อนหรือความผิดปกติอื่น ๆ
  • ตรวจเจาะชิ้นเนื้อด้วยเข็มเล็ก (Fine Needle Aspiration) ในกรณีที่ตรวจพบก้อนที่ต่อมไทรอยด์ และแพทย์สงสัยว่าอาจเป็นก้อนที่ผิดปกติหรือไม่ ก็จะมีการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อจากก้อนนั้นไปตรวจทางพยาธิวิทยาเพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม

ไทรอยด์อ้วน ปัจจุบันมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง

วิธีการรักษาไทรอยด์อ้วน มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยแต่ละบุคคล หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีจะสามารถช่วยฟื้นฟูสมดุลของร่างกายได้ โดยภาวะไทรอยด์อ้วนมีวิธีรักษา ดังต่อไปนี้

  • รับประทานยาฮอร์โมนทดแทน เช่น เลโวไทรอกซิน (Levothyroxine) ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางพื้นฐานของไทรอยด์อ้วน เพื่อทดแทนฮอร์โมนที่ขาดไป
  • ตรวจติดตามระดับฮอร์โมน TSH เป็นระยะเพื่อปรับขนาดยาให้เหมาะสม โดยจะเริ่มตรวจหลังรับยา 1 เดือน และต่อเนื่องทุก 6-12 เดือน
  • ประเมินสภาพร่างกายเพิ่มเติม ในกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น การตั้งครรภ์ หรือใช้ยาที่รบกวนการดูดซึมฮอร์โมน
  • หลีกเลี่ยงการหยุดยาเอง เพราะอาจทำให้อาการกำเริบและเกิดภาวะพร่องฮอร์โมนรุนแรงได้
  • กรณีพบก้อนผิดปกติหรือมีแนวโน้มเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ อาจต้องได้รับการรักษาเฉพาะทาง เช่น ผ่าตัดหรือรับการฉายแสงเพิ่มเติม

หากได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและติดตามอาการกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ จะสามารถควบคุมอาการได้และกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง

แนะนำวิธีป้องกันภาวะไทรอยด์อ้วน

ถึงแม้ไทรอยด์อ้วนบางประเภทจะไม่สามารถป้องกันได้โดยสมบูรณ์ แต่การดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงและชะลอการเกิดภาวะไทรอยด์อ้วนได้ โดยวิธีป้องกันภาวะไทรอยด์อ้วน มีดังนี้

  • รับประทานอาหารที่มีไอโอดีนเพียงพอ เลือกรับประทานอาหารทะเล เกลือไอโอดีน และผลิตภัณฑ์นม เพื่อให้ร่างกายได้รับไอโอดีนที่เพียงพอต่อการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์
  • หลีกเลี่ยงสารพิษที่เป็นอันตรายต่อต่อมไทรอยด์ โดยลดการสัมผัสสารเคมี ยาฆ่าแมลง และโลหะหนักที่อาจรบกวนการทำงานของต่อมไทรอยด์
  • ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มีประวัติครอบครัวเป็นโรคไทรอยด์
  • รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เช่น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • ลดความเครียดที่เกิดขึ้น เช่น ฝึกการผ่อนคลาย ทำสมาธิ หรือหากิจกรรมที่ชื่นชอบ เนื่องจากความเครียดส่งผลต่อการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป เนื่องจากสารพิษเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ
  • ระมัดระวังการรับประทานยาบางชนิด หลีกเลี่ยงการใช้ยาโดยไม่จำเป็น และแจ้งแพทย์หากมีประวัติปัญหาไทรอยด์ก่อนรับประทานยาใหม่
  • การตรวจคัดกรองสำหรับหญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับการตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นกับแม่และลูก

ไทรอยด์อ้วนและไทรอยด์ผอม แตกต่างกันอย่างไร?

ภาวะไทรอยด์ผิดปกติสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก คือไทรอยด์อ้วนและไทรอยด์ผอม ซึ่งไทรอยด์อ้วนและไทรอยด์ผอมมีอาการและกลไกการทำงานของฮอร์โมนแตกต่างกันอย่างชัดเจน

ไทรอยด์อ้วน

ไทรอยด์อ้วน เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนน้อยกว่าปกติ ทำให้ระบบเผาผลาญช้าลง ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นง่าย ซึ่งอาการไทรอยด์อ้วนที่พบได้บ่อย เช่น

  • รู้สึกอ่อนเพลีย ง่วงบ่อย และขาดพลังงาน
  • ผิวแห้ง หนาวง่าย และมีอาการท้องผูก
  • น้ำหนักขึ้นแม้รับประทานเท่าเดิม หรือกินน้อย
  • อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า ขี้ลืม
  • ผู้หญิงอาจมีประจำเดือนมามากหรือผิดปกติ

ไทรอยด์ผอม

ไทรอยด์ผอมเกิดจากภาวะที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญเร็วผิดปกติ ซึ่งอาการไทรอยด์ผอมที่มักพบ เช่น

  • ใจสั่น มือสั่น เหนื่อยง่ายแม้ไม่ได้ออกแรงมาก
  • ขี้ร้อน เหงื่อออกเยอะ หงุดหงิดง่าย
  • หิวบ่อย กินจุแต่น้ำหนักลด
  • นอนไม่หลับ วิตกกังวล
  • ประจำเดือนมาน้อยลงหรือขาดหาย

ไทรอยด์อ้วน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่ถูกต้อง

ไทรอยด์อ้วนเป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น น้ำหนักเพิ่มขึ้น เหนื่อยล้า และรู้สึกหนาวง่าย แตกต่างจากไทรอยด์ผอมที่ทำให้น้ำหนักลดลง การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมอาการและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ หากสงสัยว่าตนเองมีอาการไทรอยด์อ้วน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PPTV HD 36

“เตีย เซ็ยฮา” ชี้แจง หลังประชาชนกล่าวหาปกปิดข้อมูลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

20 นาทีที่แล้ว

สถิติก่อนเกม ญี่ปุ่น พบ เซอร์เบีย ศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025

35 นาทีที่แล้ว

เกาหลีใต้เอาใจ”ทรัมป์” ประกาศดีล “โคเรียนแอร์” ซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 103 ลำ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ข้อมูลเกณฑ์ทหาร "เกรียงไกร เพ็ชรแก้ว" ไม่แสดงตัว หนีจนคดีหมดอายุความ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

'Workplaze' แพลตฟอร์ม ตอบโจทย์ทุกมิติของการจัดการทรัพยากรบุคคล

กรุงเทพธุรกิจ

30บาทรักษาทุกที่ จ้างงานกว่า 18,000 คน จัดงาน 1,000 ล้านรองรับ

กรุงเทพธุรกิจ

“หนอนแมลงวันกินเนื้อมนุษย์” รายแรก รู้จักปรสิตสยอง New World Screwworm

Amarin TV

ผลของ บุหรี่ น้ำที่ได้จากการเจาะปอด สุดทรมานเหมือนปลาดิ้นทุรนอยู่บนบก

Amarin TV

สถาบันมะเร็งแห่งชาติ คว้าแชมป์หนึ่งใน 'รพ.เฉพาะทางดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิก 2025'

ฐานเศรษฐกิจ

DPU ผนึก TPN GLOBAL ปั้นหลักสูตร Event ใหม่ล่าสุด เริ่มเปิดรับปี69

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

กัมพูชาส่งจดหมายถึงผู้ว่าฯ สระแก้ว คัดค้านออกโฉนดที่ดินบ้านหนองจาน

PPTV HD 36

สถิติก่อนเกม ทีมไทย พบ เนเธอร์แลนด์ ศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025

PPTV HD 36

รวบตัวแล้ว! “หลวงพ่ออลงกต” อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ-“หมอบี” ศิษย์เอก

PPTV HD 36
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...