รวบยกก๊วน ‘ไทย-จีน’ พาบัญชีม้า ถอนเงินแบงก์ 1.5 ล้านให้แก๊งคอลฯ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ส.ค. 68 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์พัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตำรวจภูธรภาค 5 ได้สืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนสืบทราบว่ากลุ่มคนจีนควบคุมคนไทยรับจ้างถอนเงินหน้าเคาน์เตอร์ โดยมีทีมสั่งการ ทีมจัดหาบัญชีม้า ทีมควบคุมม้ากดเงิน มีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงได้รวบรวมข้อมูลและลงพื้นที่ในการตรวจสอบยังธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่
ต่อมาได้พบกับ นายรุ่ย จาง หรือ ZHANG RUI อายุ 37 ปี สัญชาติจีน ผู้รวบรวมเงิน นายหมิงซี หยี่ หรือ MR.YI MINGXI อายุ 29 ปี สัญชาติจีน ผู้รวบรวมเงิน น.ส.วริมณ เร่งรักงาม อายุ 33 ปี คนจัดหาบัญชี และนายศราพงษ์ ธัญญะเสถียร อายุ 27 ปี ม้ากดเงิน โดยทั้ง 4 ราย เดินทางไปทำธุรกรรมโดยการถอนเงินจากธนาคารจำนวน 1,539,000 บาท
จากการสอบสวนทราบว่าทั้งหมดมีหน้าที่มารับเงินสดจากทีมกดเงินสด เพื่อนำไปให้แก่ชาวไทย ได้รับค่าตอบแทนเดือนละประมาณ 45,000 บาท ทำมาแล้วกว่า 3 ครั้ง จำนวนเงินประมาณ 5 ล้านบาท
พล.ต.ท.กฤตธาพล เปิดเผยว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากฝั่งปอยเปต ย้ายฐานไปฝั่งชายแดนเวียดนามมากขึ้น ส่วนฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรวจสอบแล้วก็ไม่เกิน 2 จุด เพราะว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับ กสทช. ได้ทำการลดสัญญาณที่จะข้ามฝั่ง ส่วนฝั่งคิงโรมัน มีสัญญาณโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ตเป็นของตัวเองอยู่แล้ว โดยไม่ได้ใช้ของไทย
"พวกแก๊งคอลฯ นั้นจะเปลี่ยนวิธีการเปลี่ยนกลุ่ม โดยอาศัยการหลอกลวง โดยการหลอกลวงประเภทไหนจะเข้ากลุ่มไหน โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา หลอกการสร้างแอป, สร้างสตอรี่ที่จะหลอกลวงนักศึกษาก็จะทำอีกแบบหนึ่ง จะหลอกลวงประชาชน, นักธุรกิจ บุคคลต่าง ๆ วัยทำงาน คนแก่ บุคคลเกษียณก็จะทำอีกรูปแบบหนึ่ง ก็เหมือนการทำตลาด จะเข้ากลุ่มไหนอย่างไร พวกแก๊งคอลฯ มีทุกรูปแบบ" ผบช.ภ.5 กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 เฝ้าระวัง ตรวจสอบกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่กระทำการในเขตภาคเหนือตอนบน ภาค 5 เพราะพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ผันตัวจากปอยเปต กัมพูชา ย้ายมาแถวชายแดนเวียดนามมากขึ้นเรื่อยๆ ให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนคนไทยให้ทราบให้ระวัง.