กลุ่มบาร์โฮส-พนักงาน ร้านดังเมืองเชียงใหม่ แจ้งความ ตร. หลังเจ้าของร้านเบี้ยวค่าจ้าง เสียหลายร่วม 2 ล้านบาท
กลุ่มบาร์โฮส-พนักงาน ร้านดังเมืองเชียงใหม่ กว่า 50 ราย หอบหลักฐานขอความช่วยเหลือเอมมี่ทีมอาสาพาเข้าแจ้งความ ตร. หลังเจ้าของร้าน 2 แห่ง จ่ายเงินช้าเบี้ยวค่าจ้าง บ่ายเบี้ยงยืดเยื้อนานกว่าครึ่งปี เสียหลายร่วม 2 ล้านบาท หนักสุดหนึ่งในผู้เสียหายเครียดจัดถึงขั้นทำร้ายตัวเอง
ช่วงสายวันนี้ (13 ส.ค.68) กลุ่มเอมมี่ทีมอาสา นำกลุ่มผู้เสียหายที่เป็นพนักงานและบาร์โฮส ในจังหวัดเชียงใหม่จำนวนกว่า 50 ราย เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก จากกรณีที่ทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนจากการเจ้าของร้าน 2 แห่ง ที่เปิดกิจการในตัวเมืองเชียงใหม่ จ่ายเงินเดือนและค่าจ้างไม่เป็นไปตามข้อตกลงการว่าจ้าง และมีการทยอยจ่ายให้เพียงบางส่วน แต่มีส่วนที่ตกค้างนานกว่าครึ่งปี จนกระทั่งบางรายมีค่าความเสียหายหลายแสนบาท และยังคงไม่ยอมจ่ายเงินที่ตกค้าง จนกลุ่มพนักงานและบาร์โฮส ต้องทวงถามค่าจ้างที่จะต้องได้รับ แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงและไม่จ่ายให้ รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท
ขณะที่ในวันนี้ ทางกลุ่มผู้เสียหายได้นำหลักฐานฐานเป็นใบแจ้งความและหลักฐานเงินค่าจ้างที่ทางเจ้าของร้านทั้งสองแห่งยังคงค้างจ่ายให้กับพนักงาน ซึ่งมีทั้งค้างจ่ายมห้กับพนักงาน ลูกจ้าง และบาร์โฮส ที่ทำงานวนร้านทั้งหักพัน ไปจนถึงหลักแสน และสูงสุดหลักล้านบาท ที่เป็นผลพวงจากการที่ทยอยจ่ายให้ในแต่ละครั้งเพียงไม่กี่บาท หลังจากที่ทางพนักงานมีการทวงถาม แต่จะบ่ายเบี่ยงแะอ้างว่าจะจ่ายทั้งหมดอีกครั้ง จนพนักงานและผู้เสียหายทั้งหมดคอมานานกว่าครึ่งปี และร้านได้ทำการปิดกิจการไปเมื่อช่วงสิ้นเดือน ก.ค.68 ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าขาดทุน
โดยทางด้าน น.ส.บี อายุ 34 ปี อดีตแคสเชียร์ของร้านหนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า ตนได้เข้าไปทำงานตั่งแต่เริ่มเปิดร้าน โดยตั้งแต่เริ่มทำงานก็พบว่ามีการจ่ายเงินให้ล่าช้า แต่ช่วงหลังที่หนักขึ้น คือช่วงประมาณ เดือนกุมภาพันธ์ , มีนาคม จนกระทั่งตนติดสินใจลาออกในช่วงประมาณเดือนเมษายน แต่จากนั้นทางร้านก็ค่อยๆ ทยอยจ่ายเงินให้กับตน จากหลักหมื่นและผ่านมาหลายเดือนก็ยังจ่ายไม่หมด จนตอนนี้ทยอยจ่ายเหลือยอดอยู่ประมาณหลักพัน และการที่จะได้เงินก็ต้องทวงถามตลอด แต่ก็จะได้เงินเพียงครั้งละ 1,000-2,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของพนักงานรายอื่นที่ได้มีการรวบรวมยอดที่ทางเจ้าของร้านจะต้องจ่ายให้อยู่ที่ประมาณ 40 กว่าราย และเป็นยอดมูลค่าประมาณ 2 ล้านกว่าบาท โดยรายที่โดนหนักที่สุดคือผู้เสียหายที่ได้มีการเซ้งร้านจากเจ้าของคนเดิม รวมไปถึงบางรายที่เสียหายประมาณ แสนกว่าบาท และหลักหมื่นบาท ของเงินเดือนที่ยังไม่ได้รับ โดยทางเจ้าของร้านก็จะอ้างว่าจะจ่ายให้ทีหลัง หรือพยายามเลื่อนวันจ่ายออกไปเรื่อยๆ จนตอนนี้ที่หลายๆ คนก็ยังคงไม่ได้รับเงินเดือนที่ควรจะได้ จนกระทั่งเดือดร้อนกันเป็นอย่างมาก
ขณะที่ทางด้าน เอมมี่ทีมอาสา ให้ข้อมูลกับทางผู้สื่อข่าวว่า กรณีที่มีผู้เสียหายมาขอความช่วยเหลือ และได้มีการเดินทางเข้าแจ้งความกับทางตำรวจวันนี้ มีการแบ่งผู้เสียหายออกเป็น 2 ร้าน โดยร้านแรกเป็นร้านที่อยู่ในย่านเมญ่า และอีกร้าน อักษรย่อตัว S. ซึ่งตั้งอยู่ในย่านรัตนโกสินทร์ โดยร้านที่อยู่ในย่านเมญ่า มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้าบาท และยังมีข้อมูลว่าหนึ่งในผู้เสียหายได้ทำร้ายร่างกายตัวเอง จากความเครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้น และต้องนอนรักษาตัวนานกว่า 3 เดือน และพบว่ามีผู้เสียหายแสดงตัวมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มียอดความเสียหายเพิ่มขึ้น ที่ตอนนี้เท่าที่ได้รับข้อมูลมามีค่าความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาทแล้ว
โดยเท่าที่ทราบมา พฤติการณ์จะมีการจ่ายเงินให้กับกลุ่มผู้เสียหาย แต่จะจ่ายให้ทีละนิดทีละน้อย ครั้งละ 1,000-2,000 บาท แต่ไม่คงที่และไม่ได้ตามที่พนักงานทำ และมีความล่าช้าในการจ่ายเงิน จนทางผู้เสียหายต้องมีการทวงถามและเกิดความเสียหายเพิ่มขึ้น โดยในส่วนของร้านย่านเมญ่า พบว่ามีผู้เสียหายแล้วเกิน 50 คนแล้ว และยังมีการออกมาแสดงตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนสาเหตุที่มีการจ่ายเงินล่าช้า หรือไม่ยอมจ่ายทางร้านอ้างว่าขาดทุน ซึ่งล่าสุดตนก็ได้รับการติดต่อจากทางร้าน โดยบอกกับตนว่าทางร้านก็มีการจ่ายเงินให้กับกลุ่มพนักงานอยู่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกัยมีการแสดงหลักฐานการจ่ายเงินบางส่วน แต่ที่มีการรวมตัวกันในวันนี้เนื่องจากทั้งหมดอย่กจะได้เงินที่สมควรจะได้เป็นก้อนเดียว เพื่อจบปัญหาเนื่องจากมีการติดค้างนานจนเกินไป และบางรายก็กังวลว่าจะไม่ได้รับเงิน เพราะบางรายก็ได้มีการเคยไปร้องเรียนที่กรมแรงงาน และไปขอความช่วยเหลือหลายแห่ง แต่ก็ไม่คืบหน้า จึงมีการรวมตัวเพื่อขอความช่วยเหลือกับทางเอมมี่ทีมอาสา และพากันมาแจ้งความในวันนี้
ทั้งนี้ในกลุ่มผู้เสียหายก็เป็นพนักงานที่เคยทำงานในร้านทั้งหมด ซึ่งมีทั่ง บาร์โฮส , เด็กเสริฟ , แม่บ้าน , แคชเชียร์ , ดีเจ , นักดนตรี รวมไปถึงเจ้าของร้านเก่าก่อนหน้าที่เจ้าของร้านรายนี้จะมาเซ้งร้านต่อที่มีการทำร้ายร่างกายตัวเอง จากความเครียดที่ทางเจ้าของร้านรายนี้ติดเงินและมีการทวงถามไปต่อเนื่องแค่กลับได้เงินไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ จนทำให้เกิดความเครียดและทำร้ายตัวเอง
อย่างไรก็ตามในส่วนของวันนี้ ทางด้านกลุ่มเอมมี่ทีมอาสา พร้อมด้วยผู้เสียหายทั้งหมด ได้เข้าทำการแจ้งเรื่องให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก โดยได้มีการเจรจาหารือถึงการดำเนินการในด้านกฎหมาย ซึ่งในเบื้องต้น ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการรับเรื่องทั้งหมดแล้ว และได้มีการแจ้งให้ทางผู้เสียหายทั้งหมดทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจะได้มีการดำเนินการตรวจสอบ และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยหลังจากนี้ทางด้านเอมมี่ทีมอาสา คาดว่าจะยังมีกลุ่มผู้เสียหายจากเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งหากท่านใดที่อยากให้ทางกลุ่มเอมมี่ทีมอาสา ดำเนินการช่วยเหลือก็สามารถติดต่อมาได้ตลอด