5นาที8ล้าน! ล่าโจรไรเดอร์ควงปืนบุกเดี่ยวชิงทองห้างดัง กวาดฉ่ำ 163 บาท
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุ ชิงทอง ในห้างดัง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึง รายงานผู้บัญชาการตามลำดับชั้น พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นร้านทองบริเวณชั้นหนึ่งของห้าง พบพนักงานอยู่ในอาการตื่นตระหนกตกใจ ถาดทองด้านในถูกคนร้าย กวาดไปหลายเส้น ซึ่งเป็นทองรูปพรรณกำไลข้อมือ น้ำหนัก 2 บาท 24 เส้น / น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น / และน้ำหนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนักรวม 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บลายนิ้วมือ และหลักฐาน
จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด จับภาพคนร้ายชาย สวมเสื้อไรเดอร์สีเขียว สวมกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ มีกระเป๋าสะพายข้างสีดำ เดินเข้ามาภายในห้าง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ รปภ. ท่านหนึ่งเห็นเข้าและพยายามบอกให้คนร้ายถอดหมวกกันน็อกตามมาตรการป้องกันเหตุ แต่คนร้ายไม่สนใจและชักปืนสั้นออกมาข่มขู่ รปภ. ก่อนจะเดินเข้าร้านทองและใช้ปืนกระบอกเดียวกันขู่พนักงานหญิงในร้านและกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ร้านทองเข้าไปกวาดสร้อยข้อมือทองคำ ยัดใส่กระเป่าสะพายข้างที่เตรียมมาก่อนจะวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่คนร้ายมาจอดที่หน้าห้างหลบหนีออกถนนเทพรัตนหรือถนนบางนา-ตราด หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดตามเส้นทาแต่ไร้วี่แวว
สอบถาม เจ้าหน้าที่ รปภ. ของทางห้าง บอกว่า ขณะยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้กับร้านค้าทองหันไปเห็นคนร้ายเดินมาจากประตูทางเข้า ตรงมาที่ตนยืนอยู่ ตอนนั้นเห็นผิดสังเกต เพราะใส่หมวกกันน็อกเข้ามาบอกให้ถอดหมวกกันน็อกออกแต่คนร้ายกลับชักอาวุธปืนหันมาใส่จึงไม่กล้าห้าม จากนั้นคนร้ายก็เดินเข้าไปก่อเหตุในร้าน ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ตอนคนร้ายเดินมาถึงร้าน ได้ตะโกนบอกพนักงานให้หยิบทองมา ตนซึ่งตอนนั้นยืนอยู่ที่หน้าร้านจึงตะโกนให้พนักงานหญิงในร้านมอบลงกับพื้นและตนถอยหลังหลบเข้าในร้านฝั่งตรงข้ามก่อนจะใช้มือถือถ่ายคลิปคนร้ายขณะก่อเหตุเอาไว้
ต่อมา พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม ระบุว่า คนร้ายชายหนึ่งคน เชื่อว่ามีการเตรียมการมาอย่างดี ซึ่งทองที่คนร้ายได้ไปนั้น เป็นสร้อยทองข้อมือ รวมน้ำหนักทอง 163 บาท รวมมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ขณะนี้ได้สั่งการให้ระดมฝ่ายสืบสวนฝีมือดี จากสืบภาค 1 สืบจังหวัด และสืบโรงพักในพื้น แบ่งสายงานออกไล่ล่าตัวคนร้ายรายนี้แล้ว พร้อมทั้งประสานฝ่ายสืบสวนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย นอกจากนั้นตนเองยังกำชับฝ่ายสืบสวนในการไล่ล่าตัวคนร้ายรายนี้ ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเข้าจับกุม เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนหากพบคนร้ายต่อสู้ขัดขืนก็ให้ใช้มาตรการขัดเด็ดขาดทันที