เจ้าของบ้านยันไม่จริง วัยรุ่นแซวพลทหาร ทำคลั่งโดนยิงเจ็บ
วันที่ 15 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่พลทหารรัฐภูมิ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ก่อเหตุยิงวัยรุ่น 2 วัยรุ่นบาดเจ็บ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาก่อนจะหลบหนี กระทั่งช่วงสายวันเดียวกัน พบร่างผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิต ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
กล้องวงจรปิดของบ้านตรงข้ามที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงยิงปืนดัง 3 ชุด ชุดแรกเวลา 00.41 น. เสียงปืนดัง 2 ครั้ง คาดว่ายิงรถกระบะที่ขับผ่านพอดี ชุดที่ 2 ห่างกันไม่ถึง 20 วิ เสียงปืนรัวหลายนัด ก่อนจะทิ้งช่วงอีกประมาณ 10 นาที เวลาประมาณ 00.51 น.เสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด คาดว่าเป็นนัดที่ปลิดชีพตัวเอง ซึ่งตรงกันกับที่ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ระหว่างที่พลทหารก่อเหตุ มีรถกระบะของทหารผ่านมา 1 คันก็ถูกยิงเช่นกันแต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และทราบว่าพลทหารรัฐภูมิ เป็นคนที่ไม่ค่อยพูดจาสุงสิงกับใคร เวลาเพื่อนถามก็ได้แต่ยิ้มอีกด้วย
อย่างไรก็ตามพบว่าในโลกโซเชียลระบุว่า วัยรุ่นที่ถูกยิงมีการแซวพูดจาเหยียดทหารคนดังกล่าว ขณะที่ซื้อของที่ร้าน จนเกิดความแค้นละกลับมายิงนั้น จากการสอบถามนางวิไลพร อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุบอกว่าไม่เป็นความจริง เพราะที่บ้านที่เกิดเหตุไม่ได้เป็นร้านขายของ แค่มาเช่าอาศัยอยู่เท่านั้น ซึ่งเป็นร้านโชห่วยเก่าที่เจ้าของเดิมมาเช่าขายและเลิกกิจการไป 5 เดือนแล้ว ส่วนคนเจ็บ 1 คนที่ถูกยิงที่น่อง เป็นเจ้าร้านถ่ายรูปที่หมู่บ้านน้อยร่มเย็น ต.กาบเชิง ก็มีนิสัยดีไม่มีเคยทะเลาะหรือหาเรื่องใคร ส่วนอีกคนก็ไม่ได้มีปัญหากับทหารคนดังกล่าว ตนให้มาช่วยทำสวนที่บ้านเท่านั้นก่อนจะพากันนั่งดื่มสุราฉลองรถใหม่ด้วย และที่ว่ามีทหารมาตักเตือนว่าเปิดเครื่องเสียงดังถึง 2 ครั้งก็ไม่เป็นความจริง และไม่เคยรู้จักทหารคนดังกล่าวแต่อย่างใด
ขณะที่นางธวรรณรัตน์ เจ้าของบ้านตรงข้ามที่เกิดเหตุ บอกว่า วัยรุ่นกินเหล้าปกติ ไม่ได้เสียงดังอะไรมากมาย ก็มีเปิดเพลงบ้าง ไม่น่าจะเป็นสาเหตุของการยิง
พันตำรวจเอกคำพล โนนุช ผกก.สภ.กาบเชิง กล่าวว่า เบื้องต้นพลทหารดังกล่าวได้แอบออกมาจากฐานปฏิบัติการพร้อมอาวุธปืน แล้วมาก่อเหตุขึ้น ส่วนแรงจูงใจนั้นต้องรอการพิสูจน์ทราบต่อไป โดยเบื้องต้นได้สอบถามญาติ ทราบว่าพลทหารดังกล่าวได้ประจำการที่ปราสาทตาควายช่วงการสู้รบ และกลับมาอยู่ที่ฐานประจำเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา แล้วมาก่อเหตุ ส่วนจะมีการทะเลาะกับผู้บาดเจ็บก่อนนั้น ต้องรวบรวมข้อมูลให้แน่ชัดก่อน
พลตำรวจตรีสุคนธ์ ศรีอรุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งก็ได้เข้ามาในช่วงเช้าก็วางแผนการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ในช่วงรับแจ้งแรกๆ คิดว่าพลทหารยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจากได้ใช้เครื่องมือทางเทคนิคจับสัญญานเวลาประมาณตี 5 ยังมีสัญญานโทรศัพท์อยู่ในรัศมี 2 กิโลเมตร ซึ่งในแผนการปฏิบัติได้เน้นใช้วิธีการปูพรมเดินหา เน้นการปฏิบัติโดยไม่ใช้กำลัง เน้นการเจรจาเป็นหลัก เพื่อได้มาตัวเป็นๆ ซึ่งเราก็ได้เชิญทางพ่อของพลทหารและครอบครัวมาด้วย เพื่อเจรจาต่อรองให้ออกมามอบตัว แต่ก็เป็นที่เสียใจเมื่อทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ออกเดินค้นหาและพบว่าพลทหารใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตนเองเสียชีวิต ซึ่งจะต้องมีการชันสูตรให้ชัดเจนอีกครั้ง ถึงการเสียชีวิตต่อไป ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายอาการปลอดภัยแล้ว.