Integrity by Design หยุดสร้างฮีโร่ปราบโกง เริ่มสร้างระบบที่โกงไม่ได้
ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.กิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ ประธานกรรมการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) ได้สะท้อนถึงสาเหตุที่การต่อสู้กับการทุจริตในอดีตยังไม่ประสบผลสำเร็จตามที่คาดหวังว่า เป็นเพราะเรามักจะ “ไปโฟกัสที่พฤติกรรมการจับคนผิด สร้างคนดี” มากเกินไป แต่ละเลยการแก้ปัญหาระบบที่ทำให้คนโกงอยู่ได้ ท่านเสนอให้เปลี่ยนกระบวนทัศน์จากการ “ต่อต้านการทุจริต” (Anti-corruption) ไปสู่ “ความซื่อสัตย์สุจริตตั้งแต่การออกแบบ” (Integrity by Design) ซึ่งหมายถึงการออกแบบระบบตั้งแต่ต้นเพื่อทำให้การทุจริตเป็นไปได้ยาก และหากเกิดการทุจริตขึ้นจะต้องถูกลงโทษจริง
การสร้าง “Integrity by Design” ต้องการองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ:
- กฎหมาย: ต้องไม่มีช่องโหว่ ไม่เลือกปฏิบัติ และสามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้จริง
- องค์กร: ต้องพร้อมเปิดรับการตรวจสอบ มีระบบเปิดเผยข้อมูลภายใน และมีวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการตรวจสอบ
- วัฒนธรรม: ทั้งในองค์กรและในสังคม ต้องมี “วัฒนธรรมแห่งความซื่อสัตย์สุจริต” และ “วัฒนธรรมการมีส่วนร่วม” ของประชาชน
AI เป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” (Game Changer) และเป็น “Disrupter” ที่สำคัญในการสร้างระบบนี้ เมื่อ AI ทำงานร่วมกับ Open Data มันสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลมหาศาลเพื่อระบุร่องรอยและเชื่อมโยงข้อมูลที่ซับซ้อนข้ามหน่วยงานและบริษัทต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถนำไปสู่การดำเนินการทางกฎหมายได้
ดร.กิตติพงษ์ ได้ยกตัวอย่าง “Open Government” ของรัฐบาลโอบามาที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่ใช่แค่การเปิดเผยข้อมูล แต่เป็นการ “เปลี่ยนวิธีคิดของรัฐจากการกลัวการเปิดเผยมาเป็นการกล้าเปิดเผยและเชิญชวนประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม” หลักการสำคัญสองประการคือ:
- เปิดเผยโดยปริยาย (Open by Default): ข้อมูลภาครัฐควรถูกเปิดเผยเป็นหลัก เว้นแต่จะมีข้อยกเว้นที่ชัดเจน (ซึ่งปัจจุบันในไทยยังตรงกันข้าม)
- ข้อมูลที่เครื่องอ่านได้ (Machine-Readable): ข้อมูลทั้งหมดต้องอยู่ในรูปแบบที่สามารถนำไปใช้งานต่อได้ง่ายโดยทันที แนวคิดนี้ทำให้เกิด “พลังของคน” ที่นักเทคโนโลยีและประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลและช่วยเปิดโปงปัญหาต่างๆ ได้
ดร.กิตติพงษ์ ย้ำว่า “เราต้องไม่ปล่อยให้ความผิดปกติกลายเป็นเรื่องปกติ” การเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มต้นจาก “วิธีคิด” (mindset) ของเราเอง คือไม่ยอมแพ้ และเชื่อว่าเราทำได้ อย่าทำคนเดียว แต่รวมพลังกัน อย่ารอคนดี แต่สร้างระบบที่ยุติธรรมและลงโทษได้จริง และที่สำคัญที่สุดคือ “อย่ารอ” ไม่จำเป็นต้องพร้อมสมบูรณ์ หรือรอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบก่อน การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นได้จากคนธรรมดาที่ไม่นิ่งเฉย