อยากรุ่งต้องทำให้ได้ ! 10 กฎเหล็กที่ แรชฟอร์ด ต้องปฏิบัติตามที่บาร์เซโลน่า
ความสำเร็จของสโมสรฟุตบอลไม่ได้มีแค่สิ่งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าเท่านั้น ส่วนผสมที่นำไปสู่เกียรติยศมักซ่อนอยู่ลึกกว่านั้นมาก แน่นอนว่าการมีนักเตะฝีเท้าดี, ผู้จัดการทีมที่ฉลาดหลักแหลม และงบประมาณที่มั่นคงคือรากฐานที่ดี แต่ทีมที่ดีที่สุดในโลกลูกหนังต้องมีกฎเกณฑ์ที่เข้มข้นเพื่อสร้างกลุ่มนักเตะที่แข็งแกร่ง
หนึ่งในความสำเร็จของ บาร์ซ่า มาจากการวางกฎที่เข้มข้นของ ฟลิค เพราะทำให้ลูกทีมของเขาสามารถเล่นได้ตามแท็กติกที่ต้อง และมันแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดจากการคว้าแชมป์ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์ และ ซูเปร์โกปา เมื่อซีซั่น 2024/2025
แรชฟอร์ด ซึ่งย้ายมาเล่นแบบยืมตัว จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับมาตรฐานที่ ฟลิค ได้วางเอาไว้ซึ่งยังไม่รู้ว่าเขาจะสามารถทำได้หรือไม่ เพราะหากพิจากรณาจากทัศนคติของนักเตะตอนอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าตัวมักเป็นประเด็นอยู่บ่อยๆ ตอนที่ทำงานร่วมกับรูเบน อโมริม กุนซือชาวโปรตุกีส
กระนั้นหาก "แรชชี่" ต้องการที่จะได้สัญญาแบบถาวรกับ บาร์ซ่า เขาจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎเหล็กทั้ง 10 ข้อที่ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ได้วางเอาไว้ โดยกฎดังกล่าวมีอะไรบ้าง ไปพิจารณากันได้เลย
1. ความตรงต่อเวลาเป็นสิ่งสำคัญ
การตรงต่อเวลาเป็นปัจจัญสำคัญลำดับแรกสำหรับ ฟลิค โดยเขาคาดหวังให้นักเตะมาถึงสนามซ้อมอย่างย้อน 90 นาทีก่อนที่จะเริ่มซ้อม และเจ้าตัวมักจะเป็นคนแรกที่มาถึงสนามซ้อมเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับลูกทีมทุกคน ขณะเดียวกันนักเตะทุกคนต้องมารายงานตัวที่ศูนย์ฝึกซิวตัต เอสปอร์ติบา ในเวลา 09.30 น. เป็นอย่างน้อย และต้องรับประทานอาหารเช้าที่สโมสร
2. ชั่งน้ำหนักทุกวันก่อนซ้อม
นักเตะทุกคนต้องชั่งน้ำหนักทุกเช้าก่อนฝึกซ้อม ซึ่งเป็นระเบียบที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยที่หลุยส์ เอ็นรีเก้ กุมบังเหียน และตอนนี้ก็ยังคงยึดกฎนี้อย่างเหนียวแน่นในยุคฟลิคเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่มีแข้งคนไหนที่แสดงความไม่พอใจ โดยพวกเขาน้อมรับกฎนี้โดยเฉพาะเรื่องโภชนาการและการควบคุมน้ำหนัก กลายเป็นสิ่งที่สำคัญในวงการฟุตบอลยุคใหม่
3. นักเตะทุกคนต้องกินอาหารในโรงอาหารสโมสร
เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางเรื่องโภชนาการและการดูแลร่างกาย นักเตะทุกคนต้องรับประทานอาหารร่วมกันที่โรงอาหารในศูนย์ฝึกซิวตัต เอสปอร์ติบา ส่วนเมนูอาหารมีการจัดเตรียมโดย ซิลเวีย เทรโมเลด้า นักโภชนาการประจำทีมชุดใหญ่ ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นนักเตะตัวหลักหรือเยาวชนทุกคนต้องปฏิบัติตามแนวทางนี้อย่างเคร่งครัด
4. กระตุ้นร่างกายในวันที่มีการแข่งขัน
นักเตะทุกคนต้องเข้าร่วมกับอบอุ่นร่างกายในวันแข่งขัน โดยก่อนหน้านี้ระบบดังกล่าวถูกยกเลิกไปสมัยที่ ชาบี เอร์นานเดซ กุมบังเหียน แต่ ฟลิค นำกลับมาใช้อีกครั้ง โดยพิจารณาว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งกิจกรรมที่ใช้เวลาสั้นๆ แบบนี้แต่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่ามันช่วยในเรื่องการเพิ่มสมาธิ, ลดความตื่นเต้นหรืออาการประหม่า, กระตุ้นระบบประสาท และกล้ามเนื้อให้ตอบสนองดีขึ้น และปลูกฝังวินัยภายในทีม
5. รวมตัวที่โรงแรมในวันแข่งขัน
แข้งบาร์ซ่าต้องรวมตัวกันที่โรงแรมของทีมในวันแข่งขัน แม้จะเป็นเกมเหย้าก็ตาม โดยกฎนี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่คาดฝัน เช่นรถติด หรือเหตุสุดวิสัย และทำให้แน่ใจว่าทุกคนจะมีสมาธิ และพร้อมเต็มที่
6. ยกเลิกการเดินทางไฟลต์ดึก
ฟลิค ให้ความสำคัญกับทีมในการเดินทางกลับหลังจากลงแข่งในฐานะทีมเยือน โดยถ้ามีเกมต้องลงสนามในเวลา 21.00 น. หรือช้ากว่านั้น หรือในกรณีที่เวลาเดินทางกลับเกิน 90 นาที บาร์เซโลน่า จะเลือกพักค้างคืนในเมืองท่แข่งขันแทนที่จะเดินทางกลับทันที เหตุผลที่ทำแบบนี้เพราะ กุนซือชาวด๊อยท์ช ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูร่างกายของนักเตะ และทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่มีอาการเหนื่อยล้าจากการเดินทางช่วงกลางดึก นอกจากนี้การได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ยังทำให้ร่างกายได้พักฟื้นและพร้อมสำหรับการแข่งขันในแมตช์ต่อไป รวมทั้งยังลดผลกระทบด้านลบจากตารางการแข่งขันที่เตะกันถี่ยิบในช่วงฤดูหนาวของศึกลา ลีกา
7. การฝึกซ้อมที่เข้มข้น
นายใหญ่ชาวเยอรมัน ต้องการความเข้มข้นระดับสูงจากลูกทีมในการฝึกซ้อมทุกครั้ง โดยแนวคิดนี้ถูกฝังแน่นอยู่ในระบบของเขาแต่ละวัน สำหรับการฝึกซ้อมของเจ้าตัวจะเน้นเรื่องความเร็ว จังหวะการเล่นกระชับ และใช้พลังงานสูง บ่อยครั้งจะมีการจำลองสถานการณ์จริงในสนามแข่งเพื่อให้ผู้เล่นรักษาความเฉียบคมและสมาธิอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีจีพีเอสเพื่อติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นระยะทางที่นักเตะวิ่ง, ความเร็วในการสปริ้นท์และอันตราความทุ่มเท สำหรับข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์อย่างละเอียด เพื่อประเมินสมรรถภาพของนักเตะทุกคน และตรวจสอบว่าพวกเขายังรักษามาตรฐานตามที่ ฟลิค ตั้งเอาไว้ได้หรือไม่
8. ยกเลิกการปรับเงิน
อดีตเทรนเนอร์บาเยิร์น มิวนิค ยกเลิกระบบการปรับเงิน เพื่อเป็นการกระตุ้นแรงจูงใจให้กับนักเตะ โดยระบบนี้ถูกนำมาใช้ในยุคของ ชาบี ส่วนเหตุผลที่ กุนซือวัย 60 ปีเพราะเขาเชื่อมันว่าลูกทีมทุกคนมีความเป็นมืออาชีพ และถ้าหากพวกเขาทำผิดกฎ ก็พร้อมรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง มากกว่าที่จะถูกลงโทษแบบเด็กๆ
9. จำกัดวันหยุด
นักเตะบาร์เซโลน่าจะไม่ค่อยมีวันหยุดพักผ่อนมากนักในยุคของ ฟลิค เพราะเขาเป็นโค้ชที่ไม่ค่อยนิยมให้ลูกทีมได้พักผ่อนยาว ตามปกติแล้วทีมชุดใหญ่จะได้หยุดพัก 1 วันต่อสัปดาห์ แต่ ฟลิค ใช้ความยืดหยุ่นอย่างชาญฉลาด โดยมักจะปล่อยให้นักเตะพักเพิ่มในช่วงเบรกทีมชาติ (ฟีฟ่าเดย์) เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ฟื้นตัวบ้าง เหตุผลที่เจ้าตัวใช้วิธีนี้เพราะต้องการรักษาจังหวะการเล่นของทีม และสภาพความฟิตของนักเตะให้มีความต่อเนื่องตลอดทั้งซีซั่น
10. การบริหารจัดการทีมแบบมืออาชีพ
ฟลิค รักษาความสัมพันธ์กับลูกทีมแบบมืออาชีพอย่างเคร่งครัด โดยมีพื้นฐานมาจาก "การให้เกียรติกัน และความมุ่งมั่น" แม้ว่าเจ้าตัวจะเป็นคนที่เข้าถึงง่าย และเปิดกว้างในการพูดคุยกับนักเตะทุกคน แต่ก็ยังคงยึดมั่นในกฎของตัวเองอย่างจริงจัง และทำหน้าที่อย่างยุติธรรม กระนั้นเขาก็มีความชัดเจนว่าจะไม่ยอมรับการเข้ามาแทรกแซงหรือล้ำเส้นใดๆ ทั้งสิ้น โดยสิ่งนี้่จะเป็นการรักษาสมดุลทุกอย่างภายในทีม
TOMMY TEE