ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ตั้งทีมเฉพาะกิจ เร่งกู้วิกฤติเศรษฐกิจชายแดน สินค้าตกค้างกว่า 50 ล้าน
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เรียกประชุมด่วน “ศูนย์สั่งการชายแดนไทย–กัมพูชา” หลังการจำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนเริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจชายแดนอย่างชัดเจน
ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวว่า ากข้อมูลด่านศุลกากรรายงานว่าขณะนี้มีสินค้าจากกัมพูชา เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 250 ตัน และพริกสด 360 ตัน รวมมูลค่ากว่า 37 ล้านบาท ตกค้างอยู่ไม่สามารถนำเข้าได้ ขณะที่สินค้าฝั่งไทยที่เตรียมส่งออกก็เริ่มเสี่ยง “หมดอายุ” รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
แม้จะเข้มงวดเรื่องความมั่นคงแต่ภารกิจ “ด้านมนุษยธรรม” ยังเดินหน้าต่อ โดยเฉพาะการส่งยาไปยังฝั่งกัมพูชาที่ต้องมีเภสัชกรหรือพยาบาลประจำการ ไม่อนุญาตให้ฝากมากับรถทั่วไปอีกเพื่อป้องกันการลักลอบและรักษาคุณภาพยาอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันทางพาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษก็เร่งขับเคลื่อนกิจกรรมระบายผลไม้ที่ตกค้าง ด้วยการจัด “Thai Fruits Festival 2025” ทั้งในศูนย์การค้าทั่วประเทศกว่า 1,000 สาขา และในศรีสะเกษเอง 2 ครั้ง ที่ห้างสรรพสินค้า เดือนกรกฎาคมและสิงหาคมนี้ เพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวต่ออีกว่า สั่งการตั้ง “คณะทำงานเฉพาะกิจด้านเศรษฐกิจ” โดยมีรองผู้ว่าฯ ด้านเศรษฐกิจเป็นประธาน บูรณาการร่วมกับหน่วยงานรัฐทุกภาคส่วน เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจให้ตรงจุด และเน้นย้ำว่า แม้มาตรการด้านความมั่นคงอาจกระทบเศรษฐกิจระยะสั้น แต่จังหวัดจะไม่ยืนดูเฉย เร่งเดินหน้าสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจชายแดนอย่างยั่งยืน พร้อมเปิดใจรับฟังประชาชนอย่างใกล้ชิด