Orange Is The New Black รีวิวความสนุกซีรีส์เลสเบี้ยน Netflix ที่ไม่ควรพลาด !
หนังเลสเบี้ยนหรือซีรีส์หญิงรักหญิงในตำนานของ Netflix ที่หลายๆ คนอาจจะเคยดูมาแล้ว หรือเห็นผ่านๆ ซีรีส์ติด Top ที่แนะนำ เป็นอีกหนึ่งซีรีส์เลสเบี้ยนที่ครบทุกรส สนุกและแซ่บทุกตอนและทุกซีซั่น บอกเลยว่าเป็นซีรีส์ที่อยากส่งต่อและแนะนำให้ใครที่กำลังมองหาซีรีส์เลสเบี้ยนที่เน้นแนวความสัมพันธ์ของตัวละคร เนื้อเรื่องเข้มข้นดูแล้วไม่ปวดหัว ต้องยกให้เรื่องนี้ที่เป็นเดอะเบสในใจใครหลายๆ คนเลยทีเดียว นอกจากนี้บอกเลยว่ายังเป็นซีรีส์ที่สร้างมาจากเรื่องจริง ดูช่วงแรกขำๆ หลังๆ น้ำตาไหล จะน่าดูขนาดไหน เราไปดูกันกับ Orange Is The New Black ซีรีส์เลสเบี้ยนใน Netflix สุดทุกตอนไม่มีพลาด
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
ซีรีส์เลสเบี้ยน Orange Is The New Black
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงคนหนึ่งต้องเข้าเรือนจำเพื่อรับโทษตามกฎหมายเหมือนกับผู้ต้องหาหญิงคนอื่น ๆ แต่เรื่องที่ไม่ธรรมดาก็คือ สังคมผู้หญิงในเรือนจำและนอกเรือนจำ ต่างกันมากๆ ราวฟ้ากับเหว และในหลายๆ เรื่องนั้นก็แทบไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงจะมีพลังทำลงไปได้!
เพราะเรือนจำมีเรื่องอีกมากให้ตีแผ่ ซีรีส์ Orange Is The New Black ซีรีส์เลสเบี้ยนแนวหญิงรักหญิงนี้จึงแบ่งย่อยถึง 7 ซีซั่น เพื่อนำเสนอโลกมืดของผู้หญิงในคุก บางคนอาจจะคิดว่าก็แค่ผู้หญิงไปติดคุกแล้วรอวันพ้นโทษ ทำไมต้องแบ่งยาวถึง 7 ซีซั่น ขนาดนั้น? สำหรับบทความนี้เราจะมาดูกันว่าเรื่องนี้น่าดูมากแค่ไหนแม้จะต่อให้ยาวถึง 7 ซีซั่นก็ตาม! และอย่างที่บอกว่าซีรีส์เรื่องนี้มีที่มาที่ไปจากการสร้างจากหนังสือเล่าเรื่องราวชีวิตจริงในเรือนจำ และยังเป็นหนังที่อ้างอิงมาจากเรื่องจริงมีความเป็นมนุษย์และความธรรมชาติจริงๆ ยังเป็นซีรี่ส์ในตำนานของ Netflix ที่ติดอันดับท็อปเป็นหนังในดวงใจที่หลายคนกลับมาดูซ้ำอีกครั้ง จะสนุกครบรสขนาดไหนเราไปดูกันเลย
สปอยล์เรื่องย่อ Orange Is The New Black
ไพเพอร์ แชปแมน (นางเอก) สาวสวยผมบลอนด์ ที่ครอบครัวจัดว่าเป็นคนที่มีฐานะและหน้าตาทางสังคมพอควร ทั้งยังมีแฟนหนุ่มอนาคตไกลที่กำลังจะหมั้นหมายกันเร็วๆ นี้ เรียกได้ว่าชีวิตโรยด้วยกลีบดอกกุหลาบสุดๆ แต่สุดท้ายต้องเข้าคุกมาชดใช้กรรมเพราะในอดีตเคยร่วมมือกับ อเล็กซ์ วอซ (แฟนสาว) แฟนเก่าที่เป็นเลสเบี้ยนขายยาเสพติดลักลอบส่งเงินผิดกฎหมายข้ามประเทศ ทั้งที่ชีวิตกำลังไปได้สวยงาม กำลังจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มนักเขียน และกำลังจะวางแผนมีธุรกิจสมุนไพร ทุกอย่างต้องเป็นอันพับโครงการไป รอให้เธอเป็นอิสรภาพมาเคลียร์ทุกสิ่ง
แต่เมื่อก้าวเท้าเข้าเรือนจำ เรื่องก็ไม่ราบรื่นอย่างที่คิด แชปแมนต้องเผชิญหลายอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน อย่างการต้อนรับด้วยอาหารมื้อแรกในคุกด้วยเบอร์เกอร์สอดไส้ผ้าอนามัยแบบสอดที่ใช้แล้ว (ขนลุกกันสุดๆ) และโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับวอซ ที่ทะเลาะกันแทบตายยังไง สุดท้ายก็หนีกันไม่พ้นอยู่เรื่อย (เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเลิก) การแบ่งรับแบ่งสู้กับนักโทษคนอื่นๆ การเผชิญกับผู้คุมที่แทบจะพึ่งพาอะไรไม่ได้เลย และการเผชิญกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายอีกมากที่ทำให้แกร่งขึ้น เป็นคนละคนกับที่ยังไม่เคยรับโทษ (บางทีก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด)
แต่ก็ใช่ว่าในคุกจะเจอแต่เรื่องโหดเสมอไป ในระหว่างทางสู่อิสรภาพก็ยังมีมิตรภาพ การได้ไปรู้เห็นปมชีวิตของแต่ละคนด้วย ทำให้แชปแมนก็ยังพอจะมีกำลังใจอยู่บ้างที่จะอยู่เรือนจำได้ต่อไป (เธอจะออกด้วยวิธีไหน? แล้วจะเปิดโปงเรื่องแย่ๆ อีกไหม? ต้องไปติดตามเองค่ะ ขออุบไว้ก่อน)
ความซื่อและเด๋อ มักเรียกแขกให้นางเอกเสมอ
นางเอกคือ 1 ในต้นเหตุที่ทำให้ซีรีส์ยาวกว่าที่คิด เพราะความซื่อๆ เด๋อๆ มักพาซวยเสมอ หลายเรื่องที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เกิด มันก็เกิดจนได้ ทำให้ต้องคอยระวังตัวอยู่เรื่อย แต่นิสัยนี้ของเธอก็มีดีอยู่บ้างตรงที่ว่ามันทำให้เธอพอจะมีเพื่อนในคุกกับเขาบ้าง เพราะโดยเนื้อแท้ของเธอไม่คิดร้ายกับคนอื่นอยู่แล้วถ้าคนอื่นไม่ทำเธอก่อน แถมเธอยังเป็นคนที่เรียกได้ว่าสู้คนไม่เก่งด้วย เห็นขรึมๆ เงียบๆ ข้างในความกลัวเพียบก็มี
ความรักไม่ใช่แค่เรื่องเพศอย่างเดียว
แม้ความวาบหวิวจะมีอยู่ในฉากของซีรีส์นี้บ้าง แต่ซีรีส์ก็เน้นการทำความเข้าใจในความรักแต่ละรูปแบบได้ดีมาก ละเอียด แทบทุกมุม ไม่ว่าจะความรักระหว่างเลสเบี้ยนสวย ความรักระหว่างเลสเบี้ยนที่หน้าตาไม่ดี ความรักระหว่างผู้คุมกับนักโทษ ความรักระหว่างผู้คุมด้วยกันเอง ความรักระหว่างคนในครอบครัว ซีรีส์เรื่องนี้จึงไม่ใช่ซีรีส์ที่เน้นเอาใจแค่เฉพาะสายเลสเบี้ยนอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นสื่อกลางที่ช่วยทำความเข้าใจมนุษย์โลกทุกเพศ ทุกรูปแบบความรักอีกด้วย
เป็นซีรีส์ที่ทำความเข้าใจความหลากหลายทางเพศได้ดีมาก
ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่มีตัวละครเลสเบี้ยน ทอม ดี้ เพื่อให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมเรือนจำหญิงเท่านั้น ยังมีตัวละครสำคัญอย่าง ‘โซเฟีย สาวทรานส์’ (สาวประเภทสองที่แปลงเพศแล้ว) ซึ่งแต่เดิมเป็นชายแท้ แต่งงาน มีลูกชายแล้ว แต่วันหนึ่งเกิดพึงพอใจที่จะเป็นผู้หญิงจึงแต่งหญิงและแปลงเพศเป็นหญิงเต็มตัว แต่ก็ยังรักและหวงภรรยาและลูกชายมากๆ แม้จะรู้ว่าลูกชายเป็นคนแจ้งตำรวจให้เธอเข้าคุก และภรรยาจะทำใจรับเรื่องนี้ได้ยากจนต้องมีผู้ชายใหม่ก็ตาม ถือว่าเป็นตัวละครตัวอย่างที่ทำความเข้าใจกับคนดูได้ดีมากๆ ว่าเรื่องแบบนี้ก็มีจริงและไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย
แต่ ๆ สำหรับใครที่มีเรื่องอยากรู้แต่ไม่อยากถาม แอบสงสัยในเรื่องเกี่ยวกับเซ็กซ์ของชาว ญ-ญ เค้าทำกันยังไง ? ซิสพาแวะไปส่อง "18+ สูตรเร่งรัก เซ็กซ์ ญ-ญ ยังไงให้ฟินคู่" ตามไปหาคำตอบสุดเอ็กซ์คลูซิฟได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลย
เป็นซีรีส์ที่สลายพันธะเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ
เปลือกนอกแค่เป็นสิ่งที่ใช้ยึดถือชั่วคราว สุดท้ายแต่ละคนก็เป็นคนเหมือนๆ กัน สิ่งนี่น่าสนใจในซีรีส์นี้อย่างหนึ่งก็คือการถ่ายทอดให้เห็นว่าแม้จะมีการเหยียดกันบ้างตามธรรมดาของความแตกต่างที่ขาดความเข้าใจ แต่สุดท้ายทุกคนก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้ ถ้ารู้จักก้าวข้ามสิ่งที่ยึดถืออยู่แล้วมองที่ความเป็นคนเท่า ๆ กัน ความเป็นมนุษย์คือแก่นแท้ของศาสนาทุกศาสนา
ทุกคนมีปมชีวิต ดูแล้วเราจะเข้าใจคนมากขึ้นกว่าที่เคยเป็น
ในซีรีส์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ย้อนภาพไปว่า ตัวละครที่เป็นนักโทษแต่ละคนมีปมชีวิตอะไรที่มีผลต่อการตัดสินใจผิดพลาด ตัวละครที่ไม่ใช่นักโทษก็ใช่ว่าจะมีชีวิตที่เพอร์เฟกต์ ผู้คุมและพัศดี ถึงจะมีอำนาจแต่ก็มีทุกข์และมีเบื้องหลังที่น่าเห็นใจไม่แพ้กันเลย ถ้าดูซีรีส์เรื่องนี้จบจะรู้สึกได้เลยว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับโลกนี้ก็คือการให้กำลังใจกันและกัน แต่ละคนก็ล้วนแต่มีวันแย่ๆ ที่ต้องการใครมาปลดปล่อยหรือรับฟังกันทั้งนั้นแหละ
ดูแล้วจะเข้าใจโลกมากขึ้น ถึงจะมีเรื่องแย่ ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเลวร้ายจนอยู่ไม่ได้
ซีรีส์เรื่องนี้คือคู่มือของการ ‘อยู่เป็น’ เพราะจะพาไปส่องให้เห็นว่าทุกสิ่งและทุกคนที่เกิดบนโลกเหล่านี้ล้วนแต่มีที่มา มีเบื้องหลังซ่อนอยู่ สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เราคิดเสมอไป คนที่ดูเหมือนจะโหดร้าย แต่ลึกๆ อาจจะเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง คนที่เพอร์เฟ็กต์สุดๆ บางทีก็อาจมีเรื่องให้ต้องระวังตัวเอาไว้ โลกไม่ได้น่าอยู่เพราะปราศจากเรื่องแย่ แต่น่าอยู่ได้เพราะเราเรียนรู้ที่จะการที่จะอยู่เป็นต่างหาก
สนุกกับการสืบสวน สางปมทุจริต เฉือนคมกับมาเฟีย
ซีรีส์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่มีเนื้อหาดราม่าและเลสเบี้ยนเป็นหลักเท่านั้น อีกความสนุกอย่างหนึ่งก็คือบู๊แอคชั่นที่ไม่ใช่แค่การใช้กำลังอย่างเดียว แต่ยังมีการสืบสวนสอบสวน ลุ้นไปเรื่อยๆ ว่าความไม่ชอบมาพากลบางอย่างตัวละครจะสามารถไขปมและเอาตัวรอดได้หรือไม่? เมื่อมีการสร้างศัตรูกันแล้ว จะคว่ำศัตรูโดยไม่ใช้กำลังได้อย่างไร? (เพราะกฎเหล็กของคุกเลยคือห้ามพกพาอาวุธ) แล้วนักโทษจะงัดข้อกับผู้คุมขี้โกงได้ไหม? การคอรัปชั่นจะถูกสางด้วยคนของราชการและนักโทษได้ยังไง? รับรองว่าสนุกจนอยากกดดูรัวๆ แน่นอนค่ะ
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
ซีรีส์Orange Is The New Black มีกี่ซีซั่น ?
ซีรีส์เลสเบี้ยน Orange Is The New Black ใน Netflix
- มีทั้งหมด 7 ซีซั่น ใน 1 ซีซั่น
- มีทั้งหมด 13 ตอน
- แต่ละตอนใช้เวลา 1 ชั่วโมง
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
Orange Is The New Blackสนุกไหม ?
จากปกติส่วนใหญ่เรามักจะเห็นมุมมองหนังหรือซีรีส์เกี่ยวกับคุกผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ มีทั้งดุเดือดและดราม่า แต่สำหรับซีรีส์ Orange Is The New Black ซีรีส์เลสเบี้ยนนี้นั้นเป็นมุมมองอีกฝั่งหนึ่งคือคุกฝั่งหญิงล้วน คุกสำหรับผู้หญิงเล่าผ่านมุมมองตัวละคร ที่สร้างจากเรื่องจริงให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่และเข้าใจหลายมุมมองในการใช้ชีวิตว่าในคุกนั้นมีข้อปฏิบัติการอยู่ร่วมกันอย่างไร คนส่วนใหญ่ที่เข้าไปมีพฤติกรรมแบบไหน ซึ่งค่อนข้างเรียกได้ว่าแตกต่างจากคุกผู้ชายสุดๆ แต่อาจจะมีความคล้ายๆ กันเป็นบางอย่างอย่างเรื่องพฤติกรรมการกลั่นแกล้ง เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้นั้นจากตัวละครหลักที่ได้เข้าไปในคุกช่วงแรกของซีรีส์จะเล่าการกลั่นแกล้ง การใช้ชีวิตเน้นคอมเมดี้สนุกๆ ผ่อนคลายๆ แต่หลังๆ เนื้อเรื่องเริ่มมีความเข้มข้นเจาะลึกถึงพฤติกรรมของแต่ละตัวละคร พื้นเพความหลัง ความรู้สึก ปมดราม่าของแต่ละตัวละครให้เราเข้าใจ ซึ่งบอกเลยว่าช่วงนี้แหล่ะที่จะทำให้เรามีความผูกพันไปกับแต่ละตัวละครเหมือนกับตัวเราได้ไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ เพราะปมแต่ละคนนั้นค่อนข้างมีความซับซ้อนว่าอะไรคือสาเหตุที่คนเหล่านั้นต้องเข้ามาอยู่ที่นี้ เป็นซีรีส์ที่ครบรสอีก 1 เรื่องแม้จะกินเวลาชีวิตไปหลายซีซั่นกว่าจะจบ สรุปแล้วคือสนุก ครบ แซ่บ ยิ่งดูยิ่งต้องดูต่อเรื่อยๆ ให้ครบทุกตอน เป็นอีกซีรีส์เลสเบี้ยนที่น่าสนใจและแนะนำมากๆ ดูได้เรื่อยๆ ยิ่งดูยิ่งเข้มข้น ชาวซิสต้องไม่พลาด!
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
สรุป
แต่ละคนจะหาทางออกให้ตัวเองได้อย่างไร ความรักของแชปแมนและวอซจะลงเอยอย่างไร แล้วคู่อื่นๆ จะมีความรักที่แซ่บขนาดไหน ต้องลองไปติดตาม Orange Is The New Black กันดูค่ะ ซีรีส์เรื่องนี้ครบรส ได้สาระชีวิตเยอะมากเป็นซีรีส์อีกเรื่องที่แนะนำให้ดูเลย ใครที่ไม่เคยดูหนังเลสเบี้ยนเรื่องนี้คือเป็นอีกเรื่องที่สามารถดูได้โดยเนื้อหารวมๆ คือเข้มข้นและมีความเป็นธรรมชาติ บอกเลยว่าจะกดหยุดไม่ได้เลยทีเดียว