เปิด 3 ฉากทัศน์หุ้นไทยปี 2568 จับตา ‘ภาษีทรัมป์’ ชี้แย่สุดจ่อหลุด 1,000 จุด
"บลจ.อีสท์สปริง" เปิด 3 ฉากทัศน์หุ้นไทยปี 2568 จับตา "ภาษีทรัมป์" ลุ้นเก็บภาษีน้อยกว่า 20% ดัชนีจ่อพุ่ง 1,200-1,250 จุด แต่ถ้าถูกเก็บภาษี 36% มีโอกาสหลุด 1,000 จุด
นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนายการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.อีสท์สปริง กล่าวว่า สถานการณ์ภาษีการค้ากับสหรัฐยังคงเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการภาษีที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตต่ำกว่าศักยภาพที่ 1.8% ในปีนี้
3 ฉากทัศน์หุ้นไทยปี 2568
- กรณีฐาน (Base Case) : ไทยถูกเรียกเก็บภาษี 20% เท่าเวียดนาม และเศรษฐกิจไทยโต 1.5-2% เบิกจ่ายงบประมาณได้ แม้ Fund Flow ยังไหลออก คาด SET อยู่ที่ 1,040 - 1,200 จุด
- กรณีเลวร้ายที่สุด (Worst Case) : ไทยถูกเก็บภาษี 36% และงบประมาณล่าช้า คาด SET มีโอกาสหลุด 1,000 จุด หรือแกว่งในช่วง 940 - 1,040 จุด
- กรณีดีที่สุด (Best Case) : ไทยถูกเก็บภาษีน้อยกว่า 20% ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นชัดเจน เศรษฐกิจฟื้นตัว และ Fund Flow ไหลกลับ คาด SET พุ่งแตะ 1,200-1,250 จุด
นายบดินทร์ กล่าวว่า ยังต้องติดตามข้อสรุปภาษีว่าสุดท้ายไทยจะถูกเรียกเก็บเท่าไร รวมทั้งรายละเอียดเงื่อนไขดีลและเงื่อนไขสินค้า Transshipment ว่าไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีหรือไม่อย่างไร ซึ่งจากข่าวนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการเจรจาที่ไทยยื่นข้อเสนอกับสหรัฐดีกว่าเวียดนาม แม้จะไม่ได้ลดภาษีนำเข้าสินค้าให้สหรัฐ 0% ในทุกรายการเหมือนอินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งมีโอกาสที่จะถูกสหรัฐปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามยังมีเวลาในการเจรจาก่อนที่มาตรการภาษีจะถูกบังคับ 1 สิงหาคม ซึ่งเชื่อว่าไทยพร้อมปรับเงื่อนไข เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ยังต้องติดตามประเด็นการเมือง กรณีศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องคลิปเสียงการสนทนาของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร และสมเด็น ฮุนเซน และการพิจารณางบประมาณปี 2569 ในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งงบประมาณผ่านสภาได้ ไม่ล่าช้า จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก ทั้งนี้ มองภาพระยะสั้นก่อนเดือนสิงหาคม ตลาดหุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,200-1,225 จุด
"แม้สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ขึ้นไปแรงเกือบ 100 จุด ตามความคาดหวังการเจรจาภาษีการค้าสหรัฐจะได้ดีลภาษีที่ลดน้อยกว่า 36% หากดีลเป็นไปตามคาดหวังตลาดก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่ถ้าไม่เป็นไปตามคาดว่าอัตราภาษีจะลดมาอยู่ที่ 18-20% จะเกิด Sell on fact คาดว่า SET อาจลงไปที่ระดับประมาณ 1,040 - 1,050 จุด" นายบดินทร์ กล่าว
สำหรับธีมการลงทุนหุ้นไทย ในภาวะที่เศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากว่าศักยภาพที่ควรจะเป็น เนื่องจากความผันผวนจากสงครามการค้า แนะลงทุนหุ้นกลุ่มปันผล (Dividend) ซึ่งปัจจุบันอัตราจ่ายปันผลสูงขึ้นเป็น 7-8% ซึ่งหากมีปัจจัยกดดันเข้ามาเพิ่ม การมีหุ้นปันผลจะช่วยทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับโดนกระทบน้อยกว่า รวมทั้งหุ้นกลุ่ม Defensive อาทิ โรงพยาบาล เป็นกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับกลยุทธ์หุ้นไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตา 6 หุ้นแบงก์ใหญ่ จ่ายปันผลครึ่งปีแรก
- ‘Jitta Wealth’ แนะจัดพอร์ตครึ่งปีหลัง กระจายความเสี่ยง ตลาดหุ้นจีนน่าลงทุน
- ‘โกลเบล็ก’ มองหุ้นไทยผันผวน ชู 5 หุ้นเด่นรับ ‘เที่ยวไทยคนละครึ่ง’
ติดตามเราได้ที่