โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธรรมะ

สพฐ.ระดม11ภาคีทำแผนZero Dropoutยั่งยืน

เดลินิวส์

อัพเดต 21 กรกฎาคม 2568 เวลา 3.05 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
สพฐ.เปิดเวทีวิชาการระดมสมอง 11 หน่วยงาน TZD จัดทำแผนทิศทางการขับเคลื่อนรวมพลังหุ้นส่วนการศึกษา

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่โรงแรมบางกอกพาเลส กรุงเทพมหานคร ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) มอบหมายให้ นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาวิชาการ “Set Zero Dropout Symposium 2025” และจัดทำแผนทิศทางการขับเคลื่อนรวมพลังหุ้นส่วนการศึกษา สู่เป้าหมาย Zero Dropout พร้อมทั้งร่วมพิธีแสดงเจตนารมย์ และมอบเกียรติบัตรให้แก่หุ้นส่วนการศึกษา จาก 11 หน่วยงาน TZD โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วม

โดย นายพัฒนะ พัฒนทวีดล กล่าวว่า ในนามสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ที่ได้ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยเพื่อแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Thailand Zero Dropout) รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิด และร่วมรับฟังแนวทางการขับเคลื่อนพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และชุมชน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่สำคัญยิ่งของประเทศ นั่นคือ ‘การไม่ปล่อยให้เด็กคนใดหลุดออกจากสายตาของระบบการศึกษา’ และ วันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่เรารวมพลังของหน่วยงาน 11 ภาคี ประกอบด้วย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) กระทรวงแรงงาน กระทรวงยุติธรรมกรุงเทพมหานคร สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ที่ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อขับเคลื่อน Thailand Zero Dropout – เด็กทุกคนต้องได้เรียน และเรียนในแบบที่เหมาะกับเขา

“ สิ่งที่เรามาร่วมกันในวันนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ ‘เวทีวิชาการ’ แต่คือ ‘เวทีของการลงมือเปลี่ยนแปลง’ ที่จะทำให้ทุกภาคส่วนเห็น ว่าโรงเรียนไม่ใช่เพียงสถานที่ แต่คือระบบที่พร้อมจะปรับตามชีวิตของเด็กแต่ละคน ทั้งในรูปแบบของหนึ่งโรงเรียนสามรูปแบบ โรงเรียนมือถือ ศูนย์การเรียน หรือ การจัดการศึกษาควบคู่อาชีพที่สะท้อน ‘ชีวิตจริงเป็นห้องเรียน’ผมขอขอบคุณครูและโรงเรียนนำร่องทุกแห่ง ผู้แทนจากเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ และ ภาคีหุ้นส่วนจากภาครัฐ เอกชน ชุมชน ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และถอดบทเรียน เพื่อร่วมกันออกแบบทิศทางการขับเคลื่อน Zero Dropout ระยะต่อไป อย่างมีพลังและเป็นระบบ และให้การประชุมในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายและเชิงพื้นที่ ที่ไม่ใช่แค่การตามเด็กกลับมาเรียนเท่านั้น แต่คือการ ‘ออกแบบระบบให้เด็กไม่ต้องหลุด’ ตั้งแต่แรก ” รองเลขาธิการ กพฐ.กล่าว

ด้าน ดร.อนุกูล ศรีสมบัติ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 ในฐานะคณะกรรมการดำเนินงานโครงการฯ กล่าวว่า โครงการการประชุมสัมมนาวิชาการ “Set Zero Dropout Symposium 2025” และจัดทำแผนทิศทางการขับเคลื่อนรวมพลังหุ้นส่วนการศึกษา สู่เป้าหมาย Zero Dropout มี 3 วัตถุประสงค์หลัก คือ 1.เพื่อขับเคลื่อนการจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่น ที่ตอบโจทย์นโยบาย Thailand Zero Dropout และยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มเป้าหมายประชากรวัยเรียนกลุ่มอายุ 3 – 18 ปี ที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาและเด็กตกหล่น 2.เพื่อบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลประชากรวัยเรียนกลุ่มอายุ 3 – 18 ปี กับหน่วยงานระดับจังหวัดในการค้นหา พัฒนา ส่งต่อกลุ่มเป้าหมายเด็กนอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่น และ 3.เพื่อสร้างนวัตกรรมทางการศึกษาในระดับภูมิภาค ที่เป็น Best Practice ในการบริหารจัดการแก้ปัญหาเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่นให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา

“ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 54 ที่บัญญัติให้มีการดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนถึงการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย รวมทั้งสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา และ มาตรา 258 จ (4) ที่ครอบคลุมทั้งการพัฒนาเด็กเล็ก การสร้างโอกาสทางการศึกษา การปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาครู และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่เน้นการปฏิรูปการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง ในศตวรรษที่ 21 ดังนั้น สพฐ.ในฐานะหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงนำนโยบายขับเคลื่อน 4 มาตรการ Thailand Zero Dropout, นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, และนโยบาย สพฐ.มากำหนดเป็นมาตรการในการช่วยเหลือเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่นให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอย่างมีคุณภาพ จึงได้จัดทำโครงการ “พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง” (OBEC Zero Dropout) ยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กนอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่นด้วยการศึกษาที่ยืดหยุ่น (Flexible Education for Out-of-School Children and Youth Project) ซึ่งการนำนโยบายสู่การปฏิบัติได้อย่างทั่วถึงครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องสร้างต้นแบบสู่การต่อยอดขยายผล และสร้างความยั่งยืนการจัดการแก้ปัญหาเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่นกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา” ดร.อนุกูล กล่าว.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

ตัวตึงใหม่! ‘ฮอน’ ทหารเขมรกร่าง ผลักอก-กวักมือท้า นักท่องเที่ยวไทย

23 นาทีที่แล้ว

สลด! ลมแรงพัดต้นไม้หน้าหาดดังภูเก็ต ล้มทับนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนดับ

34 นาทีที่แล้ว

‘ทวี’ เปิดโครงการส่งเสริมทักษะด้านภาษาเพื่อการสื่อสารและจริยธรรมให้เยาวชนภูเก็ต

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

งามหน้า! ทางหลวงจับ ‘อส.’ พกปืนหลวง ขับกระบะขนต่างด้าวเถื่อนเข้าไทย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธรรมะอื่น ๆ

สพฐ. ปลื้มศึกษานิเทศก์ 245 เขต ลุยยกระดับคุณภาพการศึกษามุ่งสู่มาตรฐานสากล

เดลินิวส์

‘หลวงปู่ศิลา’ พุทธาภิเษก ‘พระพุทธมหาจักรพรรดิ’ สร้าง ‘พระใหญ่วัดโบสถ์’

เดลินิวส์

‘นฤมล’ ย้ำไม่ต้องพิธีรีตอง ‘เด็ก-ครู’ วันหยุดไม่ต้องแต่งชุดรับ ขอลงพื้นที่แบบไม่เป็นภาระ

เดลินิวส์

‘สมเด็จพระมหาธีราจารย์’ มอบกัปปิยภัณฑ์ให้กำลังใจทหารเหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บ

เดลินิวส์

เปิดเบื้องหลังการสึกของ ‘พระธรรมวชิรธีรคุณ’ เจ้าคณะผู้ปกครองเห็นหลักฐาน สั่งฟันทันที

เดลินิวส์

‘พระชั้นผู้ใหญ่’ เทียบ ‘จนท.รัฐระดับสูง’ มีอำนาจ-มีเงินเดือน แต่ ป.ป.ช. ตรวจสอบทรัพย์สินไม่ได้

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...