“กรมบัญชีกลาง” เปิดข้อมูลจัดซื้อจัดจ้าง 1.57 แสนลบ. ยื่นประมูลรายเดียวรับงานทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ก.ค. 68) มีเอกสารด่วนที่สุดจากคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง แพร่สะพัดในสังคมออนไลน์
สำหรับเอกสารดังกล่าว ลงนามโดย นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการวินิจฉัย วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 เรื่องซ้อมความเข้าใจการเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างกรณีการดำเนินโครงการหรือรายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ส่งถึงปลัดกระทรวง อธิบดี อธิการบดี เลขาธิการ ผู้อำนวยการ ผู้บัญชาการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าการ หัวหน้ารัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารท้องถิ่น และหัวหน้าหน่วยงานอื่นของรัฐ
มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา คือ การกำหนดแนวทางการจัดซื้อจัดจ้างในกรณีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับการอนุมัติจาก ครม. และการให้หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณสามารถดำเนินการได้ทันที หลังจากที่ได้รับความเห็นชอบจาก ครม. ตามกฎหมายงบประมาณ
ประเด็นหลัก คือ หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้หลังจากได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณจาก ครม. ซึ่งถือเป็นการอนุมัติที่ครบถ้วนตามกฎหมายงบประมาณ ดังนั้น เมื่อ ครม. อนุมัติแล้ว หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณสามารถดำเนินการต่อไปได้
สำหรับการเผยแพร่ร่างประกาศและร่างเอกสารเกี่ยวกับการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการพิจารณากรณีที่มีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว ในการจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณ 2568 หน่วยงานของรัฐจะดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดในหนังสือที่อ้างถึง ซึ่งได้แก่ หนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ด่วนที่สุด กค (กวจ) 0405.4/ว 195 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2568 ระบุถึงแนวทางการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและการพิจารณาผลกรณีที่มีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว หรือผู้ยื่นข้อเสนอหลายรายที่ตรงตามเงื่อนไขในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เพียงรายเดียว
หนังสือดังกล่าวระบุตอนหนึ่งว่า “การพิจารณาผลกรณีที่มีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว หรือมีผู้ยื่นข้อเสนอหลายรายที่ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เพียงรายเดียว ให้คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2569 ข้อ 56 วรรคหนึ่ง”
ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า การอนุญาตให้ยื่นประมูลเพียงรายเดียวและรับงานได้ทันที ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท มีแนวโน้มที่จะทำให้การดำเนินโครงการมีความรวดเร็วและคล่องตัว แต่ขณะเดียวกันอาจก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสและการแข่งขันที่เป็นธรรม การตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเข้มงวดจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับการอนุมัติจะใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับภาษีของประชาชน