ฟื้นฟูงิ้วหมิ่นจี้ว์–เส้นทางสี จิ้นผิง(187)
ฟื้นฟูงิ้วหมิ่นจี้ว์--เส้นทางสี จิ้นผิง(187)
ขณะนายสี จิ้นผิงนัดพบกับนายหม่า กั๋วฝางเพื่อรับทราบสถานการณ์นั้น ช่างประจวบเหมาะเพราะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่แวดวงงิ้วหมิ่นจี้ว์กำลังเตรียมการสำหรับงานแสดงงิ้วมณฑลฝูเจี้ยนครั้งที่ 18 ในปี 1990
ในสายตาของนักแสดงงิ้วหมิ่นจี้ว์ การเข้าร่วมงานแสดงครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ "พลิกกลับมาชนะ" โดยได้เตรียมบทละครไว้ 28 บท แต่ยังต้องได้รับการขัดเกลาอย่างพิถีพิถัน
บรรดาผู้เขียนบททำงานจนดึกดื่นเพื่อขัดเกลาผลงานเป็นเวลาหลายสิบวัน ก่อนจะสรุปและส่งงาน
วันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ.1990 มีการประกาศรายชื่อบทละครที่ได้รับคัดเลือกสำหรับงานแสดงงิ้ว โดยบทละคร 3 เรื่อง ได้แก่ “เทียนเอ๋อเยี่ยน (งานเลี้ยงหงส์)”, “ตันชิงหุน (จิตวิญญาณแห่งศิลปะการวาดภาพ)” และ “อี้ว์เฉียนซื่ออี (แพทย์ประจำพระองค์)” ได้คว้ารางวัลบทงิ้วยอดเยี่ยมและได้รับการคัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้ายตามคาด ต่อมา คณะที่หนึ่งและคณะธงแดงของสถาบันงิ้วหมิ่นจี้ว์มณฑลฝูเจี้ยนได้เร่งซ้อมการแสดงทั้งสามเรื่องนี้
การแสดงได้เริ่มขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม การแสดงงิ้วทั้งสามเรื่องนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟนๆงิ้วและบัตรเข้าชมทุกรอบก็ขายหมดเกลี้ยง โดยเฉพาะช่วงที่งิ้วเรื่อง “อี้ว์เฉียนซื่ออี (แพทย์ประจำพระองค์)” กำลังแสดง มีผู้ชมมากเกินไป ทำให้สถานที่จัดงานไม่สามารถรองรับได้จนต้องปิดเร็วกว่าที่กำหนดไว้
ข่าวดีแว่วมาทันทีที่การแสดงจบลง บทงิ้วทั้งสามเรื่องนี้ได้รับหลายรางวัล เช่น รางวัลชนะเลิศ รางวัลรองชนะเลิศ รางวัลผู้กำกับ และรางวัลการแสดง เป็นต้น ติดอันดับหนึ่งจากบทงิ้วที่ได้รับรางวัลทั้งหมด 18 เรื่อง นี่เป็นครั้งแรกที่งิ้วหมิ่นจี้ว์ได้รับรางวัลเกียรติยศนี้นับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศจีนใหม่
งิ้วหมิ่นจี้ว์พลิกกลับมาชนะอีกครั้ง!
เมื่อทราบข่าวนี้ นายสี จิ้นผิงก็รีบเขียนจดหมายแสดงความยินดีไปยังสำนักงานวัฒนธรรมเมืองฝูโจวทันทีว่า “การฟื้นฟูงิ้วหมิ่นจี้ได้ก้าวหน้าอย่างน่าพอใจ แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ขอให้แวดวงศิลปวัฒนธรรมยังคงปฏิบัติตามแนวนโยบาย ‘สองร้อย’ (‘สองร้อย’ หมายถึง ‘ร้อยบุปผาบานสะพรั่ง ร้อยสำนักประชันกัน' และ ‘สองเพื่อ’ (‘สองเพื่อ’ หมายถึงศิลปวัฒนธรรม ‘เพื่อรับใช้ประชาชน เพื่อรับใช้สังคมนิยม’) อย่างต่อเนื่อง ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นบนความสำเร็จที่มีอยู่ และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง!”
นักแสดงงิ้วหมิ่นจี้ว์ในเมืองฝูโจวรู้ดีที่สุดว่า การที่จดหมายแสดงความยินดีเขียนว่า “เป็นเพียงจุดเริ่มต้น” หมายถึงอะไร เนื่องจากในความเป็นจริงแล้วยังมีข้อบกพร่องอยู่มากมาย
กุญแจสำคัญในการฟื้นฟูงิ้วหมิ่นจี้ว์นั้นอยู่ที่บุคลากร อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 การฝึกอบรมนักแสดงสำรองสำหรับแสดงงิ้วหมิ่นจี้ว์นั้นถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล
ขณะนั้น ในฐานะเมืองเอกของมณฑล ฝูโจวไม่มีโรงเรียนศิลปะ โรงเรียนศิลปะฝูโจวเดิมปิดตัวลงในช่วง “การปฏิวัติวัฒนธรรม” และไม่เคยเปิดอีกเลย ชั้นเรียนงิ้วหมิ่นจี้ว์ที่ฝึกฝนบุคลากรหมิ่นจี้ว์ของเมืองฝูโจวทำได้แต่ขออยู่ในสังกัดของโรงเรียนศิลปะมณฑลฝูเจี้ยนเท่านั้น ความรู้สึกที่ว่า “อาศัยอยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่น” นั้น ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลย นายหยาง อี้ว์ หัวหน้าครูของชั้นเรียนงิ้วหมิ่นจี้ว์ในโรงเรียนศิลปะมณฑลฝูเจี้ยนในขณะนั้นเล่าย้อนอดีตให้ฟังว่า “ตอนนั้น ชั้นเรียนหมิ่นจี้ว์ของเราตั้งอยู่ในอาคารที่ทำการของหน่วยงานศิลปวัฒนธรรมของมณฑล เราเช่าโกดังเก็บวัสดุก่อสร้างของคณะอื่นๆ แล้วดัดแปลงให้เป็นชั้นเรียนหมิ่นจี้ว์”
“พวกเราเพียงขออาศัยอยู่ในที่เล็กๆ โทรมๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น แต่บางคนยังหาว่าพวกเราเกะกะและอยากให้พวกเราย้ายออกไป โดยบอกว่า ‘หากไม่ย้ายก็จะไม่จัดสรรโควตาการรับสมัครนักเรียนให้’ ” นายสีว์ เฮ่อผิง อดีตหัวหน้าแผนกศิลปะของสำนักงานวัฒนธรรมเมืองฝูโจวรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงสภาพความยากลำบากในช่วงนั้น
วันที่ 26 มีนาคม ค.ศ.1991 นายสี จิ้นผิงเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยงานที่เป็นฐานรากของระบบวัฒนธรรมในเมืองฝูโจว หลังได้เยี่ยมชมและรับฟังรายงานจากสถานที่จริงแล้ว ได้กล่าวถึงประเด็นการก่อสร้างโรงเรียนงิ้วหมิ่นจี้ว์โดยเฉพาะว่า “ผมเห็นด้วยที่จะรวมการก่อสร้างโรงเรียนหมิ่นจี้ว์ไว้ในโครงการก่อสร้าง เพื่อเป็นพื้นฐานในการฟื้นฟูงิ้วหมิ่นจี้ว์และฝึกฝน ‘กำลังสำรอง’ การก่อสร้างโรงเรียนงิ้วหมิ่นจี้ว์ควรจะรวมอยู่ในแผนงานของปีนี้ และงานเบื้องต้นควรจะทำออกมาให้ดี จุดเน้นของการลงทุนจะวางแผนไว้ในปีหน้า และจะใช้เวลาหนึ่งถึงสองปีจึงจะแล้วเสร็จ ขอให้สำนักงานวัฒนธรรมเมืองจัดทำแผนโดยมีหมิงหมิ่น (รองนายกเทศมนตรีเมืองฝูโจวในขณะนั้น) เป็นผู้นำ จากนั้นรายงานให้นายกเทศมนตรีหง (หมายถึง นายหง หย่งซื่อ นายกเทศมนตรีเมืองฝูโจวในขณะนั้น) ทราบเพื่ออนุมัติ”
วันหนึ่งในฤดูร้อนปี 1991 นายหยาง อี้ว์ ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้รับโทรศัพท์ว่า “เลขาธิการสี จิ้นผิงจะมาเยี่ยมโรงเรียนของพวกคุณเพื่อรับรู้สถานการณ์ ขอให้พวกคุณที่เป็นผู้บริหารอย่าได้ออกไปไหน”
นายหยาง อี้ว์ จำได้ว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน พวกเขาได้ทราบว่า โรงภาพยนตร์ที่ตั้งอยู่ในฝูโจวเซาท์ปาร์คจะถูกรื้อถอนและสร้างใหม่ ดังนั้นพวกเขาจึงยื่นรายงานไปยังสำนักงานวัฒนธรรมเมือง โดยหวังว่าเมืองจะจัดสรรที่ดินผืนนี้ให้กับชั้นเรียนงิ้วหมิ่นจี้ว์เพื่อสร้างห้องเรียนและหอพักพนักงาน และพร้อมกันนั้นก็อนุมัติเงินทุนบางส่วนสำหรับการสร้างอาคารด้วย
“ท่านเลขาธิการสีคงจะมาที่โรงเรียนเพื่อสำรวจข้อมูลประกอบการวิจัยหลังได้เห็นรายงานที่สำนักงานวัฒนธรรมส่งไปให้” นายหยาง อี้ว์ รีบเรียกผู้รับผิดชอบหลายคนมาต้อนรับพร้อมกัน โดยยืนรออยู่หน้าชั้นเรียนงิ้วหมิ่นจี้ว์
แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)
ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่