ทองขึ้น 9,000 ลุยนิวไฮ!
ยืนยัน ชัดเจน สำหรับราคาทองปีนี้ เพราะล่าสุด นายกสมาคมค้าทองคำ "นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี" ย้ำกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ราคาทองโลกมีโอกาสขึ้นไปแตะที่ระดับ 3,800 เหรียญ/ออนซ์ ส่วนราคาทองไทยนั้น ก็มองเป้าหมายไว้ที่ 58,000 - 60,000 บาทต่อบาททองคำ
โดยการเคลื่อนไหวของราคาทองในช่วงนี้ค่อนข้างจะผันผวน จากปัจจัยการเจรจาการค้าสหรัฐฯ กับประเทศต่าง ๆ ซึ่งล่าสุด ประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" เตรียมที่จะส่งจดหมายไปยังมากว่า 150 ประเทศเพื่อแจ้งอัตราภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บจากประเทศเหล่านี้ โดยอัตราภาษีดังกล่าวนั้น ประธานาธิบดี "ทรัมป์" คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 10-15% นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐยังได้ขู่เก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 100%
สำหรับชาติที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย รวมทั้งขู่เก็บภาษีกลุ่ม BRICS เพิ่มอีก 10% ดังนั้นก่อนที่จะถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ซึ่งเป็นวันที่สหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราใหม่นั้น "นายจิตติ" มองว่า ราคาทองจะยิ่งผันผวนมาก ดังนั้นนักลงทุนจะต้องติตดามสถานการณ์ความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด
"นายกสมาคมค้าทองคำ" กล่าวอีกว่า สถานการณ์ของการเจรจาการค้าสหรัฐฯ เชื่อว่าจะไม่จบง่าย ๆ ขณะที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงเดือนกันยายน หลายฝ่ายมองว่าจะลดดอกเบี้ย รวมทั้งยังมีประเด็นเรื่องความไม่สงบในตะวันออกกลาง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะหนุนให้ราคาทองปลายปี ทำนิวไฮ ปรับตัวสูงขึ้นต่อไปได้ แต่อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับค่าเงินบาทด้วย เพราะหากเงินบาทแข็งค่า ก็อาจทำให้ราคาทองขึ้นได้ไม่เต็มที่
ขณะที่ "ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล" ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทองคำ ได้เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ ประจำเดือน กรกฎาคม ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา จากระดับ 73.67 จุด
มาอยู่ที่ระดับ 74.80 เพิ่มขึ้น 1.13 จุด หรือคิดเป็น 1.53% โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ความตึงเครียดของสงครามการค้า การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ นโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟดและราคาน้ำมันในตลาดโลก
สำหรับการคาดการณ์กรอบราคาทองคำในเดือน กรกฎาคม ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ มองว่า ราคาทองคำตลาดโลก หรือ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 3,274 - 3,410 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 50,100 - 52,600 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ
ส่วนการลงทุนทองคำในเดือน กรกฎาคม ทางศูนย์วิจัยทองคำ ระบุว่า ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสงครามการค้า นั่นเพราะความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับประเทศต่าง ๆ ยังคงเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความไม่แน่นอน ท่ามกลางการกลับมาของนโยบายกีดกันทางการค้าที่ชัดเจนยิ่งขึ้นจากฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทิศทางเศรษฐกิจโลก และบรรยากาศการลงทุนโดยรวม
อย่างไรก็ตาม ท่าทีที่ไม่แน่นอนและนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่เน้นผลประโยชน์ฝ่ายเดียว ยังคงทำให้บรรยากาศการค้าระหว่างประเทศอยู่ในภาวะตึงเครียด นักลงทุนทั่วโลก จึงยังคงจับตาการเปลี่ยนแปลงนโยบายเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีผลโดยตรงต่ออัตราเงินเฟ้อ ค่าเงิน และราคาสินทรัพย์ต่างๆ รวมถึงทองคำนอกจากนี้ ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงตึงเครียด และทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐก็ยังคงต้องจับตาด้วยเช่นกัน
และล่าสุด ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ณ วันที่ 19 กรกฏาคม 2568 ปรับขึ้น 50 บาทต่อบาททองคำ เมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม
ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองทั้งหมด 5 ครั้ง
ทองแท่ง รับซื้อ 51,300 บาท ขายออก 51,400 บาท
ทองรูปพรรณ รับซื้อ 50,270 บาท 56 สตางค์ ขายออก 52,200 บาท
และตั้งแต่ต้นปี 2568 ถึงวันที่ 19 กรกฏาคม ราคาทองปรับขึ้นมาแล้ว 9,000 บาทต่อบาททองคำ
จากนี้ต่อไป จะต้องจับตาปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลต่อราคาทองอย่างใกล้ชิด เพราะทุกปัจจัยย่อมส่งผลต่อราคาทองซึ่งเชื่อมโยงกับความมั่งคั่งของนักลงทุนนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews