ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ "หมอเจด" ชี้ถ้าไม่คุมความดันเสี่ยงเป็น 5 โรคร้ายอาจถึงตุย
นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา คุณหมออารมณ์ดีเจ้าของเพจ "หมอเจด" ออกมาเตือนถึงโรคที่คนไทยเป็นมากที่สุดนั่นก็คือ ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
โดย "หมอเจด" ได้เผยว่า "ความดันสูงเป็นโรคที่คนไทยเจอเยอะมากนะครับ ซึ่งผมย้ำตลอดว่าเป็นเรื่องที่ต้องระวังนะ แต่หลายคนก็ยังมองข้าม ปล่อยให้มันสูง แล้วรู้ไหมว่า ซึ่งถ้าปล่อยไปนาน ๆ โรคร้ายต่าง ๆ ก็จะตามมาแบบไม่รู้ตัว"
วันนี้เรามาคุยกันว่า "5 โรคที่คุณจะเจอถ้าไม่คุมความดันให้ดี" มีอะไรบ้าง และลดความดันยังไงนะครับ
1. โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
ถ้าความดันของคุณสูงต่อเนื่อง สิ่งแรกที่มีปัญหาได้เลยคือ “สมอง” เพราะเส้นเลือดที่เลี้ยงสมองมันบอบบางมากๆ พอความดันสูงไปเรื่อย ๆ ผนังหลอดเลือดก็อ่อนแอ สุดท้ายมันก็อาจแตกหรืออุดตันได้
เมื่อหลอดเลือดในสมองแตก จะเกิดภาวะเลือดออกในสมอง ผู้ป่วยจะมีอาการทันที เช่น ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง หรืออาจถึงขั้นหมดสติ ส่วนถ้าหลอดเลือดอุดตัน สมองก็จะขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้เนื้อสมองส่วนที่ขาดเลือดตายทำให้อาการอัมพาต ติดเตียง หรือการสูญเสียความสามารถบางอย่าง เช่น การพูดหรือการรับรู้ ใครที่ความดันสูงแล้วยังปล่อยไปไม่สนใจ ระวังนะ โรคนี้มันมาเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว
2. โรคหัวใจขาดเลือด (Ischemic Heart Disease)
หัวใจของเราคือปั๊มที่ทำงานตลอดเวลา ถ้าความดันโลหิตสูง หัวใจก็ต้องทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ กล้ามเนื้อหัวใจจะหนาขึ้นเพื่อรับมือกับความดันที่สูง แต่การหนาขึ้นนี้ไม่ได้ทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้น มันทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นและเสี่ยงที่จะเกิดปัญหา เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ (หลอดเลือดโคโรนารี) ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพ
หลอดเลือดแข็งและตีบแคบ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ อาจทำให้รู้สึกเจ็บแน่นหน้าอกเวลาเดินหรือออกแรง และถ้าอาจเกิดเส้นเลือดอุดตันกะทันหัน ตามมาด้วยหัวใจวายเฉียบพลันได้ (Myocardial Infarction)อาจทำให้เสียชีวิตได้ทันที
3. โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease)
ไตของเราทำหน้าที่กรองของเสียและควบคุมสมดุลของเกลือและน้ำในร่างกาย ถ้าความดันโลหิตสูงต่อเนื่อง หลอดเลือดเล็ก ๆ ที่ไปเลี้ยงไตจะเริ่มเสียหาย การไหลเวียนของเลือดในไตแย่ลง ไตก็เริ่มเสื่อม โรคไตเรื้อรังมักไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่เมื่อไตเสื่อมมากขึ้น
คุณจะเริ่มรู้สึกเหนื่อยง่าย บวมที่เท้าและขา ปัสสาวะน้อยลง หรือปัสสาวะมีฟองมากเพราะโปรตีนรั่วออกมา และในกรณีที่ร้ายแรงสุดก็คือไตวาย ต้องฟอกไตหรือปลูกถ่ายไต การที่ต้องฟอกไต 3 ครั้งต่อสัปดาห์คือสิ่งที่ไม่มีใครอยากเจอ ถ้าคุมความดันโลหิต ก็จะลดความเสี่ยงไตวายได้นะ
4. ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure)
ถ้าความดันโลหิตสูงทำให้หัวใจต้องทำงานหนักตลอดเวลา กล้ามเนื้อหัวใจจะหนาขึ้นจนถึงจุดที่มันเริ่มอ่อนแรงไม่สามารถบีบตัวได้เต็มที่ สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่พอ เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
คนที่ป่วยหัวใจล้มเหลวจะรู้สึกเหนื่อยง่าย เดินนิดหน่อยก็หอบ บางคนต้องนอนหนุนหมอนสูงเพราะนอนราบแล้วหายใจไม่ออก อาจมีอาการบวมที่ขาและเท้าเพราะร่างกายสะสมของเหลว
5. ภาวะจอประสาทตาเสื่อมจากความดันโลหิตสูง (Hypertensive Retinopathy)
ความดันโลหิตสูงไม่ได้ทำร้ายแค่หัวใจ สมอง หรือไต แต่มันยังทำร้ายดวงตาของคุณได้ด้วย เส้นเลือดเล็ก ๆ ที่จอประสาทตามีความบอบบางมาก ถ้าความดันสูงต่อเนื่อง เส้นเลือดเหล่านี้จะแข็งและเปราะ ทำให้เกิดเลือดออกในจอประสาทตา หรือจอประสาทตาบวมคุณจะเริ่มมองเห็นไม่ชัดเหมือนมีหมอกบาง ๆ บดบัง อาจเห็นจุดดำลอยไปมา หรือแย่กว่านั้นคือสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร
พร้อมกันนี้ยังได้แนะนำว่าถ้าใครที่มีความดันสูง และต้องการลดความเสี่ยง 5 โรคร้าย ที่จะตามมาต้องรีบคุมดีๆ วิธีก็ไม่ยาก ทำตามนี้เลย
- วัดความดันเป็นประจำ ทั้งที่บ้านและที่คลินิก
- กินอาหารสุขภาพ ลดเกลือ น้ำตาล และไขมันทรานส์
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ต้องหนักมาก แต่ให้สม่ำเสมอ
- เลิกบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์ เพราะทั้งสองอย่างนี้ทำให้ความดันพุ่ง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้หัวใจและร่างกายได้ฟื้นฟู
- จัดการความเครียด ซึ่งก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความดันโลหิต
- ถ้าหมอให้ยาคุมความดัน อย่าลืมทานยา อย่าคิดว่า "ไม่มีอาการก็ไม่ต้องกิน"