เกาหลีเหนือเปิด "รีสอร์ตหรู" แต่ใครคือคนมาเที่ยวเมื่อประชาชนยังสู้กับความอดอยาก
คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เพิ่งตัดริบบิ้นเปิดตัวรีสอร์ตหรูริมทะเลแห่งใหม่ที่ สื่อของรัฐยกย่องว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว “ระดับสมบัติของชาติ” ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากผู้สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนว่า เป็นภาพความยิ่งใหญ่ที่ตรงข้ามกับความอดอยากและความทุกข์ยากที่ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศต้องเผชิญ
สำนักข่าว KCNA ของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานว่า คิมได้เปิดตัวโครงการ เขตท่องเที่ยวชายฝั่งวอนซาน-คัลมา (Wonsan-Kalma Coastal Tourist Zone) ซึ่งเป็นรีสอร์ตริมทะเลขนาดใหญ่ที่มีสวนน้ำ โรงแรมหรู และที่พักสำหรับแขกถึง 20,000 คน ที่เมืองวอนซาน บริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และพร้อมเปิดให้บริการสำหรับ “คนภายในประเทศ” ก่อนในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ คำถามคือ “ใครกันที่จะมาเที่ยวในรีสอร์ตหรูนี้ ?”
ตั้งแต่พิธีเปิดตัวรีสอร์ตหรูเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา โครงการเขตท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของคิม จอง-อึน ที่จะสร้างภาพลักษณ์ของ อารยธรรมสังคมนิยมและกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยมีแผนจะขยายเขตท่องเที่ยวไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศในอนาคตด้วย
CNN รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญบางคนสงสัยและเป็นกังวลต่ออนาคตของสวนน้ำและโรงแรมหรูแห่งนี้ เมื่อคิมประกาศว่ามันจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่จะสร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือ แต่ประเทศของเขายังเผชิญข้อจำกัดด้านการเดินทางอย่างเข้มงวดรวมไปถึงเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การเปิดสวนน้ำสำหรับชาวเกาหลีเหนืออาจไม่ใช่หนทางสร้างรายได้ที่ดีนักสำหรับประชาชนในประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤตเหล่านี้
โวลเกอร์ เติร์ก หัวหน้าสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติอธิบายว่าเกาหลีเหนือภายใต้การปกครองของคิม จอง-อึน เป็นสภาพแวดล้อมที่น่าอึดอัดและหวาดกลัว และเพราะเหตุนี้ทำให้ชีวิตประจำวันของชาวเกาหลีเหนือคือการต่อสู้กับชีวิตที่ไร้ความหวัง"
แล้วใครจะเป็น นักท่องเที่ยวกลุ่มแรก ?
อิม อึล-ชุล ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยคยองนัมในเกาหลีใต้เชื่อว่า “กลุ่มเป้าหมายแรก” ของรีสอร์ตหรูแห่งนี้ แม้จะระบุว่าเปิดสำหรับชาวเกาหลีเหนือทุกคน แต่หากพิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจตกต่ำที่ประชาชนต้องเผชิญ ก็พบว่ามันไกลเกินเอื้อมสำหรับชาวเกาหลีเหนือธรรมดาไปมาก จึงทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกนี้หมายถึง ชาวเกาหลีเหนือที่เป็น “ชนชั้นนำ” ในกรุงเปียงยาง อาทิ เจ้าหน้าที่พรรคแรงงานเกาหลีเหนือ หรือ บุคคลระดับสูงผู้ใกล้ชิดกับคิม จอง-อึน อย่าง รี ซอล-จู ภรรยาของเขาและ คิม จู-แอ ลูกสาวของเขา
ด้าน เรเชล มิน ยอง-ลี (Rachel Minyoung Lee) นักวิจัยจากโครงการ 38 North ซึ่งเป็นโครงการวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์ในเกาหลีเหนือกล่าวว่าแม้รีสอร์ตหรู วอนซาน-คัล จะเปิดให้เฉพาะชาวเกาหลีเหนือในตอนนี้ แต่ก็ไม่ต้องแปลกใจหากเห็นชาวรัสเซียมาใช้บริการรีสอร์ตแห่งนี้ด้วย ที่อาจเข้ามาเป็นตัวช่วยต่อลมหายใจให้กับรีสอร์ตหรูของคิมแทน
CNN รายงานว่านักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มเดียวที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าพักที่รีสอร์ตแห่งใหม่นี้ คือ ชาวรัสเซียที่เดินทางมากับบริษัทท่องเที่ยว Vostok Intur จากเมืองวลาดิวอสต็อก ด้วย แพ็กเกจทัวร์ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมที่มีราคาประมาณ 1,840 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินเกือบ 6 หมื่นบาท โดยทัวร์แรกจะเริ่มวันที่ 7 กรกฎาคม ใช้เวลา 8 วัน เดินทางจากกรุงเปียงยางไปยังวอนซานและพักที่รีสอร์ตแห่งนี้ 4 คืน รวมไปถึงจะได้เยี่ยมชม สกีรีสอร์ต Masikryongที่อยู่ใกล้เคียงด้วย
ในขณะที่ เอ็ดเวิร์ด ฮาวเวลล์ ผู้เชี่ยวชาญเกาหลีเหนือจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า ยังต้องจับตาดูว่าโครงการนี้จะสร้างรายได้ให้คิม จอง-อึน ได้มากเพียงใด เพราะเมืองวอนซาน-คัลมา ไม่ใช่เมืองหลวงและไม่ใช่จุดหมายท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และแม้จะเป็นนักท่องเที่ยวจากรัสเซียพวกเขายังต้องเผชิญกับกฎและข้อจำกัดมากมายเมื่อเข้ามาท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือ ทั้งการไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพได้โดยอิสระ และบังคับชมการแสดงที่จัดโดยรัฐเท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนว่ากฎเหล่านี้จะถูกนำมาบังคับใช้กับรีสอร์ตหรูแห่งนี้ด้วยหรือไม่
CNN ยังเผยด้วยว่า ผลพวงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรวมไปถึงชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยดีนักอาจทำให้รีสอร์ตหรูวอนซาน-คัลมา ไม่เป็นไปตามที่คิดหวัง เพราะหากย้อนไปในช่วงปลายปี 1990 เกาหลีเหนือเคยเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวในเขตภูเขาคุมกังให้นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เดินทางเข้าเยี่ยมชม ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์หายากของความร่วมมือข้ามพรมแดน แต่โครงการต้องยุติลงในปี 2008 หลังจากทหารเกาหลีเหนือยิงนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้เสียชีวิต เนื่องจากเข้าไปในเขตหวงห้าม จึงทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งปัญหาจากกฎระเบียบที่เข้มงวดและวิธีการรับมือกับนักท่องเที่ยวที่อาจรุนแรงเกินไป ซึ่งถ้าวิธีการรับมือเช่นนี้ยังถูกนำมาใช้กับรีสอร์ตหรู วอนซาน-คัลมา ก็จะถือว่าเป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยวที่สร้างความหวาดกลัวมากกว่ามอบความสนุกสนานให้นัดท่องเที่ยวต่างชาติ
ดังนั้นแม้รีสอร์ตวอนซาน-คัลมาจะถูกโปรโมตในฐานะสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของเกาหลีเหนือ แต่ท่ามกลางความยากจน การควบคุมเสรีภาพ และการคว่ำบาตรจากนานาชาติ ทำให้มีคำถามถึงความอยู่รอดของโครงการนี้ ยังคงเกิดขึ้นว่าสุดท้ายแล้วมันจะเป็นหนทางสร้างรายได้ที่นำไปสู่การเปิดประเทศ หรือ สร้างอำนาจทางการเมืองของผู้นำกันแน่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เกาหลีเหนือเปิด "รีสอร์ตหรู" แต่ใครคือคนมาเที่ยวเมื่อประชาชนยังสู้กับความอดอยาก
- กองทัพอิสราเอลปฏิเสธข้อกล่าวหายิงประชาชนที่มารอรับแจกอาหารในกาซา
- อิหร่านจัดพิธีฝังศพเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เสียชีวิตจากสงคราม 12 วันกับอิสราเอล
- ทรัมป์เผยเส้นตายเจรจาการค้าสหรัฐฯ 9 กรกฎาคม "ไม่ตายตัว" อาจยืดวันหรือลดได้ทุกเมื่อ
- ทรัมป์เผยเป็นไปได้บรรลุหยุดยิงกาซาเร็ว ๆ นี้