โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

‘ต่อ ธนภพ’ เผยเหตุผลตัดผมเกรียนลุค‘ไผ่ ฮอร์โมน’ ในรอบ12ปี ลั่นผมเหมือนคนอกหัก!

เดลินิวส์

อัพเดต 29 มิถุนายน 2568 เวลา 5.21 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
“ต่อ ธนภพ” เปิดใจถึงเหตุผลที่กลับไปตัดผมเกรียนในลุค“ไผ่ ฮอร์โมน”อีกครั้ง เผยหลัง“ค่ายนาดาว”ปิดตัวรู้สึกเหมือนคนอกหัก แต่เคารพในแพชชั่นทุกคน

เรียกได้ว่าหลังจากค่ายนาดาวบางกอกที่เป็นเสมือนบ้านของ“ต่อ ธนภพ”ที่หล่อหลอมมาตลอดต้องปิดตัวลง ก็รู้สึกเหมือนคนอกหัก โดยการเริ่มต้นใหม่ที่ต้องก้าวออกมายืนด้วยตัวเองเผชิญกับความท้าทายเต็มไปด้วยรายละเอียดและปัญหาที่ไม่คาดคิด โดยต่อ ธนภพได้ออกมาเปิดใจหลังผ่านมรสุมชีวิตจนเกือบจะท้อแท้ ผ่านรายการ WOODY INTERVIEW พร้อมทั้งเปิดใจถึงเหตุผลที่ตัดผมเกรียนย้อนวัยไปวันที่เริ่มดัง โดยต่อ เผยว่า

ช่วงนี้เป็นปีที่เริ่มต้นโปรเจคใหม่ และเป็นจุดเริ่มต้นของลุคนี้ในรอบ 12 ปีที่ผมไม่ได้กลับมาทำทรงผมบัซคัทเลย งานแรกที่ผมได้มีโอกาสได้ให้ผู้คนได้เห็นลุคนี้คืองานนาฏราชที่ผ่านมา พี่วู้ดดี้เป็นที่แรกที่ผมจะมาได้บอกแบบจริง ๆ ว่าผมกลับมากับลุคแบบนี้ด้วยโปรเจคการแสดงหนัง ผมเกิดมากับลุคนี้ที่เป็นที่รู้จักของทุกคนตั้งแต่ไผ่ฮอร์โมน ตลอด 10 ปีที่เราทำงานมาผมตั้งใจอยู่ตลอดว่า อยากหาโอกาสในการกลับมาลุคของไผ่ฮอร์โมนอีกครั้ง ผมรู้สึกว่าการเดินทางของตัวผมเองเราเดินทางมาไกลถึงจุดหนึ่ง หรือในวันที่เรารู้จักตัวเองมากขึ้น เช่น ยุคแรก ๆ ผมเป็นคนอยากลองทำไปหมดเพื่อให้ตัวเองรู้ว่าชอบอะไร จนผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมา“

ตั้งแต่นาดาวยังไม่เปิดตัวลงอยู่ ๆ ก็มีความรู้สึกว่าอยากทำทรงนี้อีกครั้ง ตอนนั้นผมจำได้แม่นว่าพี่ย้งเคยพูดกับผมว่า ….ไม่ได้ต่อสิ่งนี้สำคัญกับยูมาก ๆ แล้วผมก็ถามกลับไปว่าแล้วเมื่อไหร่ถึงจะมีสัญญาณบอกผมว่าถึงเวลา เขาบอกผมว่าผมจะรู้ด้วยตัวของผมเองเมื่อผมโตขึ้น ซึ่งผมก็รู้สึกว่าตอนนี้แหล่ะ ผมก็บอกไม่ถูกว่าเหตุผลที่ผมยอมรับลุคนี้คืออะไร แต่ผมสัมผัสกับตัวเองได้ว่าถ้าอยากทำสิ่งนี้ก็ต้องทำตอนนี้เป็นตอนอื่นไม่ได้

ต่อ ธนภพเผยต่อว่า *“ในวันที่นาดาวบางกอกต้องยุติลง ผมเฮิร์ท ผมรู้สึกเหมือนคนอกหัก เราไม่ได้รู้สึกเจ็บแบบนี้นานมาก มันแย่ตรงที่ผมรู้เรื่องนี้ก่อน มันเหมือนสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วผมไม่เคยรู้สึกว่าค่ายที่อยู่มามันไม่ดี เพราะเขาเลี้ยงผมมาอย่างดี ผลักดันผมเต็มที่ และให้ประสบการณ์มากมายในวันที่ผมอยู่ในนั้น รวมถึงวันที่ผมต้องก้าวออกมาสู่โลกภายนอกด้วยขาของตัวเองจริง ๆ ถึงเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่พี่ ๆ เขาให้เรามามันมากขนาดนี้เลยเหรอในแบบที่เราไม่รู้ตัว มันเลยเป็นช่วงที่ตอนนั้นผมไม่ยอมรับ วันที่ผมรู้ว่ามันจะไม่มี ไม่อยากให้ค่ายปิด ณ ตอนนั้นในมุมมองของเด็กตอนนั้นรู้สึกว่ามันไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย ปัญหาคืออะไร ช่วงนั้นเป็นหัวเลี้ยวหัวต่ออีกช่วงหนึ่งของชีวิต กำลังจะก้าวเข้าสู่ 30 จะเริ่มโตขึ้นแบบจริงๆ“*

จำได้ว่าจุดที่ผมยอมรับคือตอนที่ได้ยินเหตุผลของพี่ย้งว่า เขารู้สึกว่าแพชชั่นของเขากำลังย้ายไปที่จุดอื่น ซึ่งสะท้อนกลับมาที่ตัวผมทันทีว่าผมก็เป็นมนุษย์แพชชั่น และทำทุกอย่างด้วยแพชชั่นมาตลอด เมื่อคนที่รักมากบอกว่าแพชชั่นเปลี่ยน ผมรู้สึกว่าเขาไม่เคยปฏิเสธแพชชั่นผม ผมก็ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายแพชชั่นเขา จึงเริ่มยอมรับสิ่งนั้น และเป็นหนึ่งในศิลปินที่อยู่จนถึงวันสุดท้ายโดยไม่วิ่งหาที่อยู่ใหม่หรือพยายามเอาตัวรอด ผมแค่อยากอยู่กับพี่ ๆ จนถึงวินาทีสุดท้ายที่คำว่า "นาดาว" ใช้ไม่ได้อีกแล้ว“

“จุดที่ต้องหางานเอง เคยได้ยินประโยคที่ว่าคนในอยากออก คนนอกอยากเข้าไหม ผมรู้สึกว่าทุกที่เป็นแบบนั้น การที่เราเป็นคนในจะชอบเห็นข้อเสีย คนนอกจะเห็นแต่ข้อดี มีจุดที่โตขึ้นเคยรู้สึกว่าการดูแลของค่ายทำแค่นี้เองเหรอ เราน่าจะทำเองได้ ไม่เห็นยากเลย นั่นเป็นวันที่เราไม่รู้ดีเทล ซึ่งในวงการมีดีเทลมากมาย แล้ววันที่ผมรู้ว่านาดาวยุติ ผมรู้ตัวว่าเราต้องโตแล้ว สิ่งที่เคยคิดว่าโตมาตลอด วันนี้มันไม่ใช่แค่คิด ความผูกพันกับบ้านหลังนี้มา ทำให้ผมเริ่มต้นตัวเองว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ อยากลองเดินด้วยขาตัวเอง การที่จะหาคนดูแลหรือค่ายใหม่ก็ทำได้ แต่สิ่งที่ผมเลือกคืออยากให้ชีวิตนี้นาดาวเป็นเพียงค่ายเดียวของผม เขาคือรากฐานที่ฟูมฟักและเลี้ยงดูผมมา รู้สึกว่า 10 ปีตลอดการดูแลที่ผ่านมาควรจะมากพอสำหรับเด็กคนหนึ่งที่วันนี้เขาไม่ควรต้องพึ่งคนอื่น สิ่งที่ทำให้ผมเลือกคือการเปิดบริษัทเล็ก ๆ ดูแลตัวเอง ชวนพี่ที่สนิทและไว้ใจมาเป็นผู้จัดการส่วนตัว หาทีมออนไลน์เข้ามาช่วย ผมอยากลองใช้ชีวิตอีกแบบที่ต้องดูแลตัวเองจะเป็นยังไง“

“ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จะบอกกับตัวเองว่าคุณไม่ได้เดินผิดทาง และผมก็บอกไม่ได้ด้วยว่าคุณเดินถูกทาง แต่มันโชคดีมากที่คุณไม่หยุดเดินสิ่งที่เชื่อมั่น ผมเชื่อมั่นในการอยู่กับปัจจุบัน แต่ก็ยังมองว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องฝึกไปเรื่อย ๆ เราไม่มีทางทำได้ทั้งหมด“

ขอบคุณภาพจาก:thanapob_lee

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

หนุ่มภารตะสวรรค์ล่ม! ถูกใจสาวชายหาดพัทยา พาไปห้องพัก ฉกทรัพย์เกลี้ยง

57 นาทีที่แล้ว

“เอ็มเบอโม” แจ้งไก่เดือยทองต้องการซบ “ผีแดง” เท่านั้น

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความบันเทิงอื่น ๆ

จัสติน บีเบอร์ สร้างความตกใจ เปลี่ยนชื่อ IG พร้อมโพสต์ภาพลูกชายปริศนา?

TeeNee.com

ชมพู่ อารยากลั้นน้ำตาไม่อยู่ ฉลองวันเกิดอายุครบ44ปี

TeeNee.com

อุ๊ย พระเอกดัง โพสต์ภาพชวนโฟกัส จนอยากหาแฟนให้

TeeNee.com

แม่หยัวส่งใหม่ ดาวิกา คว้ารางวัลการันตีฝีมือขั้นเทพ

TeeNee.com

‘ต่อ ธนภพ’ เผยเหมือนคนอกหัก กับมรสุมชีวิตที่ต้องยืนคนเดียว

ไทยโพสต์

‘ตั๊กแตน ชลดา’ รณรงค์งดสูบเพื่อสุขภาพที่ดี

ไทยโพสต์

ดำดิ่งสู่ด้านมืดของความรัก กับซิงเกิลใหม่จาก ‘เจฟ ซาเตอร์’

ไทยโพสต์

‘บอย ปกรณ์’ พาทีมช้างเพื่อนซี้ ปะทะแข้งกับนักข่าวบันเทิง

ไทยโพสต์

ข่าวและบทความยอดนิยม

‘จตุพร’ ปลุกม็อบเตรียมปักหลักยาว หากนายกฯไร้สำนึก-ประพฤติชั่ว ยกระดับชุมนุมทันที

เดลินิวส์

‘บช.น.-กทม.’ แถลงหลังม็อบยุติ ชี้ชุมนุมสงบไร้จนท.บาดเจ็บ ตรวจยึด ‘คัตเตอร์-มีด’ ได้เพียบ

เดลินิวส์

‘วัยรุ่นพม่า’ เหิมเกริมหนัก ควงมีดฟันเด็กไทย ปล้นเงิน-มือถือ อ้างเหยื่อมองหน้าหาเรื่อง

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...