‘ทนายเกิดผล’ เตือน ‘หมอปลาย’ พึงระวังการทำนาย อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ทนายเกิดผล แก้วเกิด” ทนายความชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ทนายเกิดผล แก้วเกิด” แสดงความเห็นต่อกรณี “หมอปลาย พรายกระซิบ” ที่มักออกมาทำนายทายทักเหตุการณ์บ้านเมือง โดยกล่าวล่วงหน้าถึงเหตุการณ์ในลักษณะทำให้ประชาชนตื่นตระหนก โดยไม่มีหลักฐานหรือข้อเท็จจริงรองรับนั้น อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย
โดยทนายเกิดผล ระบุข้อความว่า "การที่หมอปลายออกมาทำนายชะตาเมือง โดยไม่ดูชะตาตัวเองช่วงนี้ ไม่รู้เวล่ำเวลา ไม่รู้กาลเทศะ และไม่รู้ข้อกฎหมาย แต่หมอปลายต้องรู้จักความพอดีบ้างนะครับ ไม่ใช่โหนกระแสไปเรื่อย การพูดจาซี้ซั้ว พูดจาไม่รู้กาลเทศะ ทำให้ประชาชนแตกตื่น ในช่วงเวลานี้ควรจะถูกดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 384 อีกสักคนนะครับ อย่าคิดว่าไม่เคยมีคดีแบบนี้นะครับ แถมยังเคยมีคนถูกศาลตัดสินจำคุกมาแล้ว เพราะทำให้ประชาชนแตกตื่น"
นอกจากนี้ "ถ้าไม่รู้จะเล่าให้ฟัง “เด็กชายปลาบู่” ซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้ว ก่อนเสียชีวิตมีเรื่องเล่าว่า เขาสามารถทำนายและพยากรณ์เหตุการณ์ต่างๆ ในโลกนี้ได้อย่างแม่นยำ จนวันหนึ่งประมาณปี 2554 พ่อของเด็กชายปลาบู่วัย 73 ปี ได้ประกาศให้คนเข้าใจว่าเด็กชายปลาบู่ได้ทำนายไว้ก่อนเสียชีวิตว่า จะเกิดเหตุแผ่นดินไหว และเขื่อนภูมิพลที่จังหวัดตากจะแตก จะมีประชาชนล้มตายจำนวนมากเหมือนใบไม้ร่วง"
อีกทั้ง"ทำให้ประชาชนเกิดความแตกตื่นกันมากมาย ต่อมา มีคนไปแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับพ่อของเด็กชายปลาบู่ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 384 คือ แกล้งเล่าลือเรื่องราวในประเทศให้คนอื่นตื่นตกใจกลัว ศาลจังหวัดตากพิพากษา จำคุกพ่อของเด็กชายปลาบู่เป็นเวลา 15 วัน และปรับเงิน 500 บาท โทษจำให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี และสั่งห้ามพูดเพ้อเจ้อแบบเดิมตลอดไป"
อย่างไรก็ตาม "โชคดีสมัยนั้นยังไม่มี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษหนักกว่า ปอ.มาตรา 384 ถ้าเป็นปัจจุบันนี้โดนแน่ๆ สถานการณ์ชายแดน เป็นสถานการณ์ที่อ่อนไหว จะพูดจาอะไรต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยนะครับ ซึ่งความจริงมันผิดทั้งกฎหมาย และเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม"
ขอบคุณข้อมูล : ทนายเกิดผล แก้วเกิด