แพร ชนันท์ภัสส์ ไลฟ์ทั้งน้ำตา แฉปม “รถเต่า – คบซ้อน” เผยบทเรียนเจ็บสิบกว่าปีที่เก็บเงียบ!
แพร ชนันท์ภัสส์ ไลฟ์ทั้งน้ำตา แฉปม “รถเต่า – คบซ้อน” เผยบทเรียนเจ็บสิบกว่าปีที่เก็บเงียบ!
กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลอีกครั้ง เมื่อ “แพร ชนันท์ภัสส์” อดีตนักแสดงสาว ออกมาไลฟ์ทั้งน้ำตา เล่าเรื่องราวในอดีตที่เจ็บปวดซึ่งเก็บเงียบไว้นานนับสิบปี หลังจากที่ “ตั้ม วิชญะ” สามีของ “หญิงออน ดวงพร” ออกมาพาดพิงถึงอดีตความสัมพันธ์ และประเด็นดราม่าการซื้อขาย “รถเต่า” ที่เคยเป็นประเด็นเมื่อหลายปีก่อน
โดยตั้มได้พูดในไลฟ์ว่า ไม่เคยโกงหรือหลอกขายรถให้แพร และยืนยันว่าเป็นการขายในราคา 7 แสนบาท ไม่ใช่ 1.3 ล้านอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง
“แพร” เปิดใจไลฟ์สดพร้อมน้ำตา – ข้อมูลในมือคือ 1.3 ล้าน ไม่ใช่ 7 แสน
ในไลฟ์ของแพร เธอเปิดใจเล่าทั้งน้ำตาว่า รถคันดังกล่าวคือรถที่ตั้มบอกว่าผ่อนเหลือแค่ 3 แสน และจะให้แพรซื้อต่อ โดยไม่มีการทำสัญญาใดๆ แต่เป็นคำพูดจากคนที่เคยรักกัน
“พอเราขอเปลี่ยนชื่อ เขากลับบอกว่าราคามันไม่ใช่ 3 แสน เพราะเขาไปรีไฟแนนซ์มาเป็นล้านกว่า เราก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งที่ตอนแรกคุยกันไว้อีกแบบ”
แพรเปิดเอกสารหลักฐานที่เธอถืออยู่ ยืนยันว่าไม่มีตรงไหนเลยที่ระบุราคาขาย 7 แสนอย่างที่ตั้มกล่าวอ้าง
“เอกสารที่ถืออยู่คือยอดเงินสดบวกแวต 9.6 แสน และค่างวดเดือนละกว่า 2 หมื่น รวมแล้ว 1.3 ล้าน ไม่มีตรงไหนที่เป็น 7 แสนเลย”
แพรเผยอีกว่า เธอเพิ่งทราบว่ามีชื่อเป็นพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งตั้งแต่ม.ค. 56 – พ.ย. 58 โดยที่ไม่เคยรู้มาก่อน และในช่วงธ.ค. 58 รถก็กลายเป็นชื่อของเธอพอดี
> “เรากลัวนะ เหมือนมีชื่อเป็นพนักงานแต่ไม่มีเงินเดือน แล้วถ้าโดนเรียกเก็บภาษีล่ะ ภาษีของเราก็ต้องเสียอยู่แล้วตามปกติ”
ในไลฟ์เดียวกัน แพรเปิดแชทที่ยืนยันว่าเธอถูกคบซ้อน พร้อมตั้งคำถามว่า เหตุใดตั้มถึงพูดว่าเลิกกับอีกฝ่ายไปแล้ว 10 วัน ทั้งที่ไทม์ไลน์หลายอย่างบ่งชี้ชัดว่า ความสัมพันธ์ของตนกับตั้มยังไม่จบในเวลานั้น
“เขา anniversary กันเดือนมิถุนายน แต่ 1 ม.ค. 58 แพรยังอยู่กับเขา และใช้รถเต่าคันนั้น ถ่ายรูปอยู่ในรถ 5 ก.ย. 58 แล้วผู้หญิงอีกคนก็ใช้รถคันเดียวกัน เราก็เพิ่งรู้จากที่เขาโพสต์รูป”
นอกจากนี้แพรยังเผยว่า ฝ่ายหญิงเคยทักข้อความมาให้หยุดพูด พร้อมส่งหลักฐานกลับมา แต่ไม่เคยชี้แจงใดๆ เกี่ยวกับราคารถ 7 แสนตามที่ตั้มอ้าง
“แพรไม่ได้เป็นหนี้เรื่องรถแล้ว ทุกอย่างเคลียร์หมดแล้ว วันนี้รู้สึกดีมากที่ได้พูด ได้มีคนฟัง มันคือความเจ็บปวดที่เก็บมานาน ทุกอย่างที่พูดมีหลักฐาน ไม่ได้พูดลอยๆ เพราะสิบกว่าปีที่ผ่านมา ไม่เคยทิ้งหลักฐานไปเลย มันเจ็บ”
แพรยังเปิดเผยข้อความที่เพื่อนของฝ่ายชายส่งมา กล่าวหาว่าเธอเป็นคนคบซ้อน ทั้งที่เธอเองกลับเป็นฝ่ายถูกกระทำ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษหากในอดีตเคยพูดอะไรไม่เหมาะสมในช่วงวัยเพียง 25-26 ปี
“วันนี้มันสิบปีมาแล้ว มันควรจะหยุดได้แล้ว…”