โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

การเตรียมความพร้อมในการกำกับดูแล Financial Hub

ไทยพับลิก้า

อัพเดต 4 สิงหาคม 2568 เวลา 5.30 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สำนักข่าวไทยพับลิก้าได้นำเสนอบทความในตอนที่แล้ว ซึ่งกล่าวถึงความจำเป็นของการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการจัดตั้ง Financial Hub ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Financial Hub แข่งขันกับประเทศอื่นได้ รวมถึงประสบการณ์จัดตั้ง Financial Hub ในประเทศอื่นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดตั้ง Financial Hub ในไทยแล้ว

ในตอนนี้จึงจะมาชวนมองถึงสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการมีเป้าหมายที่ชัดเจน และการมีปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการแข่งขัน นั่นคือ เราจะมีการกำกับดูแลธุรกิจเหล่านี้อย่างไร และความเสี่ยงที่สำคัญในการจัดตั้ง Financial Hub คืออะไร รวมถึงเราจะมีทางดูแลความเสี่ยงเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง

การกำกับดูแลธุรกิจใน Financial Hub

ใน Financial Hub จะประกอบไปด้วยธุรกิจทางการเงินหลากหลายอย่างน้อย 7 ประเภท ซึ่งอาจมีการเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ซับซ้อน การกำกับดูแลอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ไม่พึงประสงค์จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก โดยจากประสบการณ์ในต่างประเทศ ประเทศที่มีการกำหนด Financial Hub ไว้เป็นพื้นที่พิเศษ จะมีการจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจใน Financial Hub แยกออกจากหน่วยงานกำกับดูแลปกติ โดยหน่วยงานกำกับดูแลดังกล่าวจะเป็นทั้งผู้กำหนดนโยบายและกำกับดูแลธุรกิจทุกประเภทใน Financial Hub ซึ่งผู้กำกับดูแลจะต้องเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์ครอบคลุมในหลากหลายด้าน อาทิ สถาบันการเงิน หลักทรัพย์ และประกัน

สำหรับ Financial Hub ของไทย จะมีผู้กำกับดูแลต่างหากแยกออกจากผู้กำกับดูแลระบบการเงินหลักเช่นกัน โดยธุรกิจใน Financial Hub จะถูกกำกับดูแลโดยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน (One-Stop Authority: สำนักงาน OSA)

โดย…ความท้าทายที่สำคัญอย่างหนึ่งในการกำกับดูแล คือ การมีบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งในแง่ของการเป็นผู้กำกับดูแล และความเข้าใจธุรกิจต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง รวมทั้งต้องมีประสบการณ์ตรงในหลายด้าน

เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจที่เข้ามาใน Financial Hub มีด้วยกันกว่า 7 ประเภท และมีแนวโน้มที่จะทำธุรกรรมที่ซับซ้อน หลากหลาย เปิดรับความเสี่ยงได้มากขึ้น รวมถึงอาจเป็นธุรกรรมที่ไม่เคยมีในไทย ขณะที่สำนักงาน OSA มีแนวโน้มจะเป็นองค์กรขนาดเล็กเมื่อเทียบกับหน่วยงานกำกับในปัจจุบันทั้ง ธปท. ก.ล.ต. คปภ. จึงเป็นความท้าทายของ OSA ที่จะต้องรู้เท่าทันผู้ประกอบธุรกิจ เตรียมพร้อมรองรับเทคโนโลยีและภัยทางการเงินใหม่ ให้สามารถกำกับดูแลธุรกิจใน Financial Hub ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อทั้งตัวผู้ประกอบธุรกิจใน Financial Hub เอง และก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อประเทศโดยรวม

นอกจากในเรื่องของบุคลากรแล้ว ยังมีความท้าทายอีกประการหนึ่งในช่วงเริ่มจัดตั้ง Financial Hub ที่จำเป็นต้องมีการออกกฎหมายลูก และหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลธุรกิจแต่ละประเภท รวมทั้งงานด้านโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร เช่น การวางระบบติดตามและเก็บรักษาข้อมูลเพื่อการกำกับดูแลตรวจสอบ เพื่อให้มีความพร้อมในการกำกับดูแลได้ทันทีเมื่อมีการให้ใบอนุญาตแก่ผู้ประกอบธุรกิจใน Financial Hub

ความท้าทายสุดท้าย แต่มีความสำคัญไม่ท้ายสุดคือ บทบาทของผู้กำกับดูแลหลัก และ OSA ในภาวะที่ประเทศเกิดวิกฤตเศรษฐกิจการเงิน ซึ่งในร่าง พ.ร.บ. ฉบับปัจจุบัน ผู้กำกับดูแลหลักสามารถให้ข้อเสนอแนะกับ OSA ได้ แต่ไม่มีอำนาจในการสั่งธุรกิจโดยตรง ในกรณีที่ OSA ซึ่งมีบทบาทในแง่การส่งเสริมสนับสนุนการทำธุรกิจร่วมกับกำกับดูแล มีความเห็นไม่สอดคล้องกับผู้กำกับดูแลหลักที่ต้องการบังคับใช้มาตรการอย่างเข้มงวด อาจทำให้การแก้ปัญหาในเหตุการณ์วิกฤตเป็นไปอย่างขาดประสิทธิภาพ ดังนั้น ในยามวิกฤติ จึงควรให้หน่วยงานกำกับดูแลหลักซึ่งดูแลความเสี่ยงองค์รวมของประเทศ มีกลไกในการออกเกณฑ์หรือคำสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจทั้งในและนอก Financial Hub ต้องปฏิบัติตามได้เพื่อรักษาเสถียรภาพของประเทศ

ความเสี่ยงที่สำคัญ

ความเสี่ยงสำคัญที่สุดของการจัดตั้ง Financial Hub คือ ความเสี่ยงที่ Financial Hub จะถูกใช้เป็นแหล่งสนับสนุนธุรกรรมทางการเงินที่ไม่ถูกกฎหมาย Financial Hub หลายแห่งมีภาพลักษณ์ในการเป็นแหล่งสนับสนุนธุรกรรมทางการเงินที่ไม่ถูกกฎหมาย โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Financial Hub มักตกเป็นช่องทางในการฟอกเงิน หรือทำธุรกรรมผิดกฎหมายอื่น มีหลายประการ เช่น การหมุนเวียนเงินทุนระหว่างประเทศอย่างเสรี ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ รวมไปถึงการมีกลไกกำกับดูแลที่ผ่อนคลาย จนถึงบางกรณีที่ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาต เช่น ในหมู่เกาะเคย์แมน ธุรกิจหลักทรัพย์ โดยเฉพาะ hedge fund ที่อยู่ภายใต้ Securities Investment Business Law (SIBL) มีผู้ประกอบการมากกว่า 1 พันราย (registered persons) ที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอใบอนุญาตในการให้บริการแก่นักลงทุนบางประเภท เช่น high net worth ซึ่งเป็นช่องโหว่สำคัญที่จะเกิดการฟอกเงิน

อีกปัจจัยหนึ่งคือ การอนุญาตให้จัดตั้งบริษัทโดยไม่ต้องเปิดเผยเจ้าของผลประโยชน์ที่แท้จริง (beneficial owner) ผ่านการใช้บริษัท nominee ทำให้การติดตามเส้นทางการเงินเป็นไปได้ยาก เช่น กองทุนรวมที่จดทะเบียนในหมู่เกาะเคย์แมนที่มีมากกว่า 1 หมื่นกองทุน บางส่วนไม่สามารถระบุเจ้าของผลประโยชน์ที่แท้จริงได้ รวมไปถึงการอนุญาตให้จัดตั้งบริษัทโดยไม่ต้องมีสำนักงานหรือพนักงานประจำในพื้นที่ (lack of physical presence) เช่น ในกรณีของหมู่เกาะเคย์แมน กว่า 80% ของบริษัทที่จดทะเบียนได้รับการยกเว้นไม่จำเป็นต้องมีที่ตั้งสำนักงาน หรือเรียกว่า “Exempt company” ซึ่งอาจมีเพียงที่อยู่เพื่อจัดส่งเอกสาร รวมถึงจัดตั้งได้โดยมีผู้ถือหุ้นและกรรมการเพียง 1 รายเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะดำเนินธุรกิจนอกหมู่เกาะเป็นหลัก ทำให้การติดตามตรวจสอบการทำธุรกรรมเป็นไปได้ยาก

นอกจากนี้ ยังมีหลายเหตุการณ์ในต่างประเทศที่ Financial Hub ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินของนักการเมือง อาทิ กรณีกองทุน 1Malaysia Development Berhad (1MDB) ของรัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่กลับถูกใช้เป็นช่องทางยักยอกเงินกว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย Najib Razak นักการเงิน Jho Low และกลุ่มผู้สมรู้ร่วมคิดใช้โครงสร้างทางการเงินที่ซับซ้อนและจัดตั้งบริษัทใน offshore financial centers เช่น หมู่เกาะ British Virgin และ Seychelles ซึ่งเป็นสถานที่มีกฎระเบียบผ่อนคลายกว่า เพื่อทำธุรกรรมผ่องถ่ายเงินจากกองทุน 1MDB ไปซื้อสินทรัพย์หรูในต่างประเทศ ซึ่งที่สุดแล้วในปี 2020 นายกฯ Najib ถูกตัดสินจำคุก 12 ปี และหลายประเทศได้ยึดทรัพย์สินคืนให้รัฐบาลมาเลเซียกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ด้านสิงคโปร์ซึ่งมีศูนย์กลางการเงินชั้นนำระดับภูมิภาคและระดับโลกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมานานหลายสิบปี ก็ประสบกับกระแสเงินผิดกฎหมาย แม้จะมีความพยายามในการควบคุมการฟอกเงินและมีการกำกับดูแลเข้มงวด แต่สิงคโปร์ก็ยังคงเผชิญกับผลกระทบจากอาชญากรรมข้ามชาติที่เพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในปี 2566 ทางการสิงคโปร์ได้ตรวจสอบพบการสมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์ผ่านธุรกิจหลากหลายประเภท รวมถึงแพลตฟอร์มการพนันและเกมออนไลน์ การดำเนินการดังกล่าวมีลักษณะเด่นคือวิธีการที่ซับซ้อน โดยใช้บริษัทบังหน้าและธุรกรรมทางการเงินที่ซับซ้อนเพื่อปกปิดแหล่งที่มาของเงิน และมีการฟอกเงินกำไรบางส่วนไปที่สิงคโปร์โดยใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นหลัก

นับเป็นคดีฟอกเงินใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ ได้สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกธุรกิจในประเทศ ทรัพย์สินมูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ถูกยึด และบุคคล 10 คนจากฝูเจี้ยน ประเทศจีน (หรือที่เรียกว่า “แก๊งฝูเจี้ยน”) ถูกจับกุม ตั้งข้อหา และตัดสินลงโทษ นอกจากนี้สถาบันการเงินขนาดใหญ่ระดับโลก และสถายันการเงินของสิงคโปร์ถูก MAS สั่งปรับเงินจำนวนมาก

คดีดังของศูนย์กลางการเงินอย่างสิงคโปร์นี้ตอกย้ำถึงความจำเป็นที่ศูนย์กลางการเงินอื่นๆเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงาน การบริหารความเสี่ยง และมาตรการการปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในอุตสาหกรรมเพื่อไม่ให้ศูนย์กลางการเงินเผชิญกับความเสี่ยงจากกระแสเงินทุนที่ผิดกฎหมายมากขึ้น อันเนื่องจากการเชื่อมโยงทางการค้า การลงทุน และการเงินที่เกี่ยวข้องกับหลายประเทศ อีกทั้งปัจจุบันธนาคารและสถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่ง ซึ่งมีสภาพคล่องสูงที่สุดในตลาดการเงินระดับภูมิภาค สามารถจัดการเงินจำนวนมหาศาลได้

สิงคโปร์กระชับแนวปฏิบัติป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 และ 1 กรกฎาคม 2568 ธนาคารกลางสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore MAS) ได้เผยแพร่ประกาศฉบับปรับปรุงเกี่ยวกับการป้องกัน/ปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CFT) และแนวปฏิบัติ สำหรับสถาบันการเงิน (FIs) และ Variable Capital Companies (VCC หรือโครงสร้างนิติบุคคลใหม่สำหรับกองทุนลงทุนที่จัดตั้งขึ้นในสิงคโปร์ ภายใต้กฎหมาย Variable Capital Companies Act) ประกาศและแนวปฏิบัติฉบับปรับปรุงนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568
ประกาศและแนวปฏิบัติที่ปรับแก้ไขนี้มีผลบังคับใช้ในภาคการเงิน ซึ่งรวมถึงธนาคาร ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน ผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน บริษัทประกันชีวิตโดยตรงและบริษัทประกันภัยอื่นๆ ตัวกลางในตลาดทุน ที่ปรึกษาทางการเงิน ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์กลาง ตลาดแลกเปลี่ยนที่ได้รับอนุมัติและผู้ดำเนินการตลาดที่ได้รับการรับรอง ผู้ดูแลผลประโยชน์ที่ได้รับอนุมัติ บริษัททรัสต์ ผู้รับใบอนุญาตบัตรเครดิตและบัตรเดบิตที่ไม่ใช่ธนาคาร และผู้ให้บริการโทเค็นดิจิทัล รวมถึง VCCs ด้วย
การปรับปรุงแนวปฏิบัติมีขึ้นจากการที่ MAS ทบทวนกรอบการต่อต้านการฟอกเงิน/การก่อการร้าย (AML/CFT) อย่างสม่ำเสมอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มั่นใจว่าการกำกับดูแลสถาบันการเงินและ VCC ของ MAS ได้คำนึงถึงพัฒนาการล่าสุดเกี่ยวกับการฟอกเงิน (ML) การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (Terrorism Financing:TF) และการสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธ(PF) รวมถึงคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (FATF) และมาตรฐานสากล
MAS ได้เปิดรับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างการปรับเปลี่ยนดังกล่าวในเอกสารรับฟังความเห็นที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 และเผยแพร่คำตอบรับที่ได้รับ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568
การประเมินความเสี่ยงการฟอกเงินต้องรวมการสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธ
มาตรฐาน FATF กำหนดให้สถาบันการเงินและธุรกิจและวิชาชีพที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่กำหนดต้องระบุ ประเมิน ทำความเข้าใจ และลดความเสี่ยงจากการสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธของตนเอง
MAS จึงได้แก้ไขประกาศเพื่อให้ทันการณ์และสอดคล้องกับมาตรฐาน FATF ที่ปรับปรุงใหม่ โดยและมีความขัดเจนว่าการฟอกเงินนั้นครอบคลุมถึงการสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธ ดังนั้นความเสี่ยงจากการฟอกเงิน จึงรวมถึงความเสี่ยงจากการสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธด้วย โดยกำหนดให้สถาบันการเงินและ VCC ต้องดำเนินการประเมินความเสี่ยง ML/TF รวมถึงการประเมินความเสี่ยง PF ด้วย
MAS ยังระบุว่า แม้ข้อกำหนดนี้เป็นการแก้ไขประกาศเพิ่มเติม แต่ในสาระสำคัญแล้ว ข้อกำหนดนี้ไม่ควรเป็นสิ่งใหม่หรือสิ่งที่สถาบันการเงินและ VCC ไม่คุ้นเคย
MAS ระบุว่าการประเมินความเสี่ยง PF สามารถดำเนินการแบบแยกส่วนหรือเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินความเสี่ยง ML/TF ที่สถาบันการเงินและ VCC กำลังดำเนินการอยู่แล้ว และควรดำเนินการประเมินความเสี่ยง PF โดยเร็วที่สุดหากยังไม่ได้ดำเนินการอยู่แล้ว
การแก้ไขแนวปฏิบัติเพื่อชี้แจงกำหนดเวลาสำหรับรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย
นอกจากนี้ภายใต้ประกาศดังกล่าว สถาบันการเงินและ VCC ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ยื่นรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย(Suspicious Transaction Reporting :STR) ต่อสำนักงานตรวจสอบรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัย(Suspicious Transaction Reporting Office ) โดยทันที
MAS ได้ชี้แจงไว้ในแนวปฏิบัติว่า การยื่น STR ไม่ควรเกิน 5 วันทำการหลังจากพบเหตุอันควรครั้งแรก เว้นแต่สถานการณ์จะเป็นกรณีพิเศษ ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายที่ถูกคว่ำบาตรและฝ่ายที่ดำเนินการในนามของหรือภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายที่ถูกคว่ำบาตร สถาบันการเงินและ VCC ควรยื่น STR โดยเร็วที่สุด และไม่เกิน 1 วันทำการหลังจากพบเหตุอันน่าสงสัยครั้งแรก
MAS ยังได้กำหนดไว้ในแนวปฏิบัตินี้ว่าสถาบันการเงินและ VCC ต้องดำเนินการให้มั่นใจว่ามีกระบวนการต่างๆ ดังต่อไปนี้:
ระบุและจัดลำดับความสำคัญของการทบทวนข้อกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยง ML/TF ที่สูงขึ้น
ดูแลให้แน่ใจว่าข้อกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยง ML/TF ที่สูงขึ้นได้รับการประเมินโดยทันที และ
กำหนดให้ข้อกังวลใดๆ เกี่ยวกับความเสี่ยง ML/TF ที่สูงขึ้นที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ทันที ต้องส่งต่อไปยังผู้บริหารระดับสูงหรือหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อนำมาตรการบรรเทาความเสี่ยง ML/TF ที่เหมาะสมมาใช้

ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่การจัดตั้ง Financial Hub ในประเทศไทยจะกลายเป็นแหล่งสนับสนุนธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย การประกอบธุรกิจใน Financial Hub จึงจำเป็นต้องมีการกำกับดูแลที่เข้มงวดรัดกุม แม้ว่าในร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้จะไม่ได้มีการยกเว้นกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินไว้ แต่การกำกับดูแลในทางปฏิบัติยังมีความท้าทายสูง ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงิน การกำกับดูแลความเสี่ยงด้าน AML/CFT จึงต้องเข้มงวดไม่ต่ำกว่ามาตรฐานของประเทศ และเป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น FATF Standards รวมถึงต้องมีกลไกการบังคับใช้ที่ชัดเจนและรัดกุมเพียงพอ

การจัดตั้ง Financial Hub ของไทยมีขึ้นหลังประเทศอื่น ซึ่งต้องเผชิญกับการแข่งขันกับศูนย์กลางการเงินอื่นๆ แต่ก็ไม่จำเป็นที่หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินไทยจะต้องลดผ่อนคลายมาตรการควบคุมที่เข้มงวดเพื่อดึงดูดสถาบันการเงิน เพราะสถาบันการเงินที่มุ่งจะเข้ามาให้บริการใน Financial Hub ของประเทศแม้มีการกำกับดูแลที่เข้มงวด ย่อมแสดงว่า Financial Hub ของไทยมีความน่าดึงดูดใจในมิติอื่นๆ

หากการกำกับดูแลหละหลวมและระบบกฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ จะทำให้การจัดตั้ง Financial Hub ของไทยกลายเป็นช่องทางในการหลบเลี่ยงกฎเกณฑ์และใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน หรือทำธุรกรรมผิดกฎหมายของกลุ่มค้ายาเสพติดข้ามชาติ ค้ามนุษย์ พนันออนไลน์ ซึ่งจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือและสร้างความเสียหายต่อประเทศในระยะยาว อีกทั้งมีความเสี่ยงที่ไทยอาจถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม grey List หรือ black list ของ FATF ส่งผลให้สถาบันการเงินทั่วโลกไม่ทำธุรกรรมด้วยหรืออาจมีขั้นตอนการตรวจสอบธุรกรรมเพิ่มขึ้น ทำให้การทำธุรกรรมระหว่างประเทศมีความยุ่งยากและล่าช้า กระทบต่อสถาบันการเงินและผู้บริโภคทั้งประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครไม่อยากให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

แหล่งอ้างอิง

2.Hasty deadlines and upset board: Behind 1MDB’s US$1b zero-return investment | Malay Mail

3.1MDB continued giving Jho Low’s firm Good Star money after US$1b zero return deal | Malay Mail

4.Dubai financial authority warns of $6.5 mln scam

5.Firms | DFSA

6.False DFSA Certificate and DIFC Clearance Certificate used in a Fraudulent Scam | DFSA | THE INDEPENDENT REGULATOR OF FINANCIAL SERVICES

7.DFSA fines ABN AMRO for Anti-Money Laundering Deficiencies | DFSA

8.Types of Companies in the Cayman Islands: A Guide to Choose Right

9.10 individuals for suspected involvement in offences including forgery and/or money laundering

10.The BVI – resilient and rebuilding – World Commerce Review

11.Who doesn’t know the Cayman Islands is a great… – Transparency.org

12.MAS publishes revised AML/CFT notices and guidelines for financial institutions and variable capital companies

13.Lessons from the Singapore’s S$3 Billion Fujian Gang Money Laundering Case: A Wake-Up Call for Corporate Service Providers

14.Singapore’s battle against illicit financial flows

15.Heavier anti-money laundering penalties could help Singapore maintain high standards as wealth hub

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยพับลิก้า

กางหลักฐาน ทบ.นำทูต 23 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดน ไทย – กัมพูชา

1 วันที่แล้ว

เมืองไทยประกันชีวิต สานต่อโครงการ “เมืองไทยมอบทุนน้องน้อย” ครั้งที่ 36

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

LIVE ถ่ายทอดสด "แมนยู พบ เอฟเวอร์ตัน" ลิงค์ดูบอลสด เวลา 04.00 น.

คมชัดลึกออนไลน์

ด่วน! ชาวบ้านผวา ได้ยินเสียงดังบนท้องฟ้าพร้อมลูกไฟขนาดใหญ่

Khaosod

อินเดียยังคงนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แม้ทรัมป์ขู่ลงโทษ

JS100

สหราชอาณาจักรขู่จำคุกผู้ลักลอบขนคนเข้าเมืองที่ลงโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย

JS100

เผยวงจรปิดอีกมุม หลัง "เป๊ก ผลิตโชค" ถูกแทง ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง

Khaosod

ไฟฟ้าดับวันนี้ 4-6 ส.ค.นี้ กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ อัปเดตที่นี่

ฐานเศรษฐกิจ

อินเดียไม่สนคำขู่ทรัมป์ สั่งซื้อน้ำมันรัสเซียต่อ ด้านมอสโกเริ่มซ้อมรบร่วมกับจีน ในเขตทะเลญี่ปุ่น

Manager Online

ภูเขาไฟรัสเซียปะทุครั้งแรกในรอบกว่า 500 ปี

JS100

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...