ดอลลาร์สหรัฐพุ่ง ตอบรับเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด และท่าทีที่ไม่เร่งรีบของเฟด
ดอลลาร์สหรัฐพุ่ง ตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดและท่าทีที่ยังไม่เร่งรีบของเฟด หลังมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 4.25-4.50%
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม 2568 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (31/7) ที่ระดับ 32.72/73 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (30/7) ที่ระดับ 32.48/49 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
โดยดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าจากการที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2568 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.0% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.3% และดีกว่ามาก เมื่อเทียบกับการหดตัว 0.5% ในไตรมาส 1/2568 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี
นอกจากนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงก์ (ADP) ได้เปิดเผยว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 104,000 ตำแหน่ง ในเดือน ก.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 64,000 ตำแหน่ง หลังจากลดลง 23,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย.
เฟดตรึงดอกเบี้ย
ด้านของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOME) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันนี้ (31/7) ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 แม้เฟดถูกกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก็ตาม
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการ FOMC มีมติด้วยคะแนนเสียง 9-2 ในการตรึงอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ โดยกรรมการ 9 ราย ลงมติให้คงอัตราดอกเบี้ย ส่วนอีก 2 รายคือ นางมิเชล โบว์แมน และนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งต่างก็เป็นสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด และมีความเห็นสนับสนุนให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากมองว่าเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม และตลาดแรงงานอาจเริ่มอ่อนแอในไม่ช้า
ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2536 ที่คณะกรรมการ FOMC เสียงแตก โดยมีสมาชิกงดออกเสียงมากกว่า 1 ราย ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน ทั้งนี้ คณะกรรมการ FOMC ที่เข้าประชุมในวันนี้มีเพียง 11 ราย จากทั้งหมด 12 ราย เนื่องจากนางอาเดรียนา คุกเลอร์ หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด ได้ขาดการประชุมในวันนี้
ทางด้านของสงครามการค้า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐประกาศว่า สหรัฐได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับเกาหลีใต้แล้ว โดยสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเกาหลีใต้ในอัตรา 15% ลดลงจากระดับ 25% ที่เขาได้ประกาศไว้ในช่วงต้นเดือน ก.ค.
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปธน.ทรัมป์โพสข้อความบนทรูทโซเชียล (Truth Social) ในวันพุธ (30/7) โดยระบุว่า เกาหลีใต้จะให้เงิน 3.50 แสนล้านดอลลาร์ สำหรับการลงทุนที่ “เป็นเจ้าของโดยสหรัฐ และควบคุมโดยสหรัฐ” และเป็นการลงทุนที่เขาเป็นผู้เลือก ขณะเดียวกัน เกาหลีใต้จะซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และผลิตภัณฑ์พลังงานอื่น ๆ ของสหรัฐมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์
สำหรับปัจจัยในประเทศ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐว่า คาดว่าน่าจะได้รับคำตอบในอีกไม่กี่ชั่วโมงจากนี้ ส่วนไทยจะได้รับอัตราภาษีนำเข้าจากสหรัฐเท่าไหร่นั้น ยังไม่กล้าตอบ แต่เชื่อเหมือนทุกคนที่มองว่าน่าจะเป็นข่าวดีแน่นอน เนื่องจากข้อเสนอที่ไทยได้เสนอให้กับทางสหรัฐนั้น ได้คำนึงถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงคลัง กล่าวว่า ฝ่ายไทยได้ดำเนินการจัดทำและส่งข้อเสนอฉบับสมบูรณ์ให้สหรัฐครบถ้วน ไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ แล้ว และมั่นใจว่าข้อเสนอที่ไทยยื่นไปสามารถตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า และความร่วมมือในระยะยาว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำตอบ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความชัดเจนภายในคืนนี้ (31/7) ตามเวลาไทย
เงินบาทปิดตลาด 32.63/64 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.63-32.76 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 32.63/64 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (31/7) ที่ระดับ 1.1430/33 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (30/7) ที่ระดับ 1.1551/52 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยค่าเงินยูโรได้รับแรงกดดันจากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ รวมถึงเศรษฐกิจเยอรมนีที่หดตัวลง 0.1% ในไตรมาสที่ 2/2568 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
โดยตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และถือเป็นการชะลอตัวลงอย่างชัดเจนจากไตรมาสแรกที่เศรษฐกิจขยายตัว 0.3% ทั้งนี้ ในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1406-1.1460 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1435/39 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (31/7) ที่ระดับ 149.27/29 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (30/7) ที่ระดับ 148.03/04 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินเยนได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายวันนี้ (31/7) นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ (31/7) โดยคณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ตามคาด และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อสำหรับปีงบประมาณ 2568 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ มีมุมมองบวกว่าการบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ จะช่วยให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นสามารถหลีกเลี่ยงการชะลอตัวลงอย่างรุนแรงได้
ทั้งนี้ BOJ คาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด จะปรับตัวขึ้น 2.7% ในปีงบประมาณ 2568 เทียบกับก่อนหน้านี้ที่คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 2.2% ขณะเดียวกันคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุนจะขยายตัว 0.6% ในปีงบประมาณ 2568 เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ในเดือน เม.ย. ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 0.5%
ทั้งนี้ ในระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 148.57-149.79 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ 149.75/77 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับปัจจัยที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือน มิ.ย.ของสหรัฐ (31/7), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (31/7), ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตเดือน ก.ค. (1/8), ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (1/8), ตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐประจำเดือน ก.ค. (1/8)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -8/-7.8 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -4.5/-3.8 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ดอลลาร์สหรัฐพุ่ง ตอบรับเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด และท่าทีที่ไม่เร่งรีบของเฟด
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net