ศบ.ทก.เตรียมนำคณะทูตและสื่อต่างชาติลงพื้นที่ 1 ส.ค.เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง
วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.โดยยืนยันว่า สถานการณ์ชายแดนยังอยู่ในภาวะตรึงกำลังทั้งสองฝ่าย แต่ยังคงควบคุมได้ และฝ่ายไทยยังคงยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด
เหตุปะทะล่าสุดในพื้นที่ช่องซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นำไปสู่การควบคุมตัวทหารกัมพูชา 20 นาย โดยมีรายงานว่าทหารกัมพูชายอมจำนนเนื่องจากกระสุนหมด ผู้บาดเจ็บ 2 นาย ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลทหารจังหวัดสุรินทร์
ฝ่ายไทยเปิดเผยว่า กัมพูชามีการใช้กำลัง วางทุ่นระเบิดในพื้นที่พิพาท และปลุกปั่นโดยใช้มวลชนบริเวณปราสาทตาเมือนธม ซึ่งละเมิดสนธิสัญญาออตตาวา และข้อตกลงหยุดยิง นำไปสู่การปะทะที่ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อรักษาอธิปไตย
ยอดพลเรือนเสียชีวิตจากเหตุปะทะล่าสุดอยู่ที่ 14 ราย บาดเจ็บอีก 39 ราย รวมผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด 53 ราย
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการ บูรณาการด้านการสื่อสารกับสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศในรูปแบบ One Stop Service เพื่อลดความเข้าใจผิดและการบิดเบือนข้อมูล โดยจะเห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 1-2 วัน
สำหรับประเด็นการใช้ โดรนของฝ่ายกัมพูชา ที่ยังพบในบางพื้นที่แม้มีคำสั่งห้ามบิน ฝ่ายไทยชี้แจงว่าเป็นโดรนสังเกตการณ์ ไม่ติดอาวุธ และอยู่ระหว่างการรายงานเพื่อตรวจสอบระดับภัยคุกคาม
มาเลเซียในฐานะผู้สังเกตการณ์ ได้ส่ง ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์ เข้าพบแม่ทัพภาคของไทยเพื่อหารือและรับทราบสถานการณ์โดยตรง
ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะนำคณะผู้ช่วยทูตทหาร คณะทูต และสื่อมวลชนจาก 22 สำนักข่าวต่างประเทศ ลงพื้นที่ชายแดน เพื่อประเมินสถานการณ์จริง โดยเน้นสื่อสารอย่างโปร่งใสและปลอดภัย ย้ำว่าไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้นความขัดแย้ง
นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้จะสะท้อน ผลกระทบที่เกิดกับพลเรือน เช่น บ้านเรือน โรงพยาบาล และโรงเรียนที่ถูกโจมตีจากฝ่ายกัมพูชา อันเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ สิทธิมนุษยชน และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
รัฐบาลไทยย้ำจุดยืนแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี และเรียกร้องให้กัมพูชากลับสู่โต๊ะเจรจาทวิภาคี โดยฝ่ายไทยพร้อมเข้าสู่กระบวนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ตามที่ตกลงไว้
ทั้งนี้ทางการไทย เตือนประชาชนให้ระมัดระวังการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและการบิดเบือนจากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งอาจมุ่งหวังบ่อนทำลายเสถียรภาพประเทศ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก