“กมธ.ปกครอง” เผย “อุบลราชธานี” เบิกเงินช่วยผู้อพยพเพียงแค่ 5.5 หมื่น งง ผู้อพยพจะอยู่กันได้อย่างไร
“กมธ.ปกครอง” เผย “อุบลราชธานี” เบิกเงินช่วยผู้อพยพเพียงแค่ 5.5 หมื่น งง ผู้อพยพจะอยู่กันได้อย่างไร บอก“รมช.มหาดไทย” พูดไม่ผิดว่าเบิกได้ แต่เบิกไปนิดเดียว ฉะ ทำไมต้องโยนภาระไปท้องถิ่น จี้ “ภูมิธรรม” เข้าแจง กมธ.ด้วย ขอให้กล้าเหมือนที่เก่งกับข้าราชการ
วันที่ 6 ส.ค. 68 ที่รัฐสภา นายกรวีร์ ปริศนานัทกุล สส.อ่างทองพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการปกครอง แถลงผลการประชุมกมธ. จากกรณีหารือการใชงบประมาณสำรองเงินฉุกเฉินผู้ประสบภัยความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งได้เชิญผู้แทนของกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดมาให้ข้อมูลกรรมาธิการ
ซึ่งได้ติดตามเนื่องจากมีการตั้งกระทู้สดถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึงการจ่ายเงิน 100 ล้านบาทที่นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่าสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้และพิการโทรสอบถามผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีว่าสามารถเบิกเงินได้ ซึ่งได้รับยืนยันว่าสามารถเบิกจ่ายได้ สิ่งที่กรรมาธิการได้พบนั้นคือได้รับตัวเลขจาก 3 จังหวัด คือ ศรีสะเกษ มีการเบิกเงินไปกว่า 40 ล้านบาท สุรินทร์มีการเบิกไปกว่า 50 ล้านบาท นอกจากเงินฉุกเฉินเพิ่มเติมนั้นก็ยังมีเงินในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ที่จะใช้เงินของอปท. ดูแลประชาชนซึ่งจ.ศรีสะเกษใช้รวมกว่า 22 ล้านบาท ส่วนจังหวัดสุรินทร์ใช้ไปกว่า 53ล้านบาท ส่วนจังหวัดอุบลราชธานีวงเงินกว่า 100 ล้านบาท รองผู้ว่าราชการจังหวัดได้มาเปิดเผยว่าเบิกจ่ายไป ตั้งแต่การเกิดเหตุการณ์ เพียง 5 หมื่นบาท จึงได้สอบถามไปว่า ที่ผ่านมาประชาชนที่อุบลราชธานีที่ได้รับผลกระทบมากอยู่กันอย่างไรในการเบิกจ่ายเงิน 50,000 บาทซึ่งผู้ว่าและรัฐมนตรีก็ได้มาตอบกลางสภาว่าสามารถเบิกจ่ายได้ ซึ่งตนก็เพิ่งทราบว่าเบิกจ่ายไปเพียง 50,000 บาทในวันนี้ แต่มีการใช้งบประมาณของอปท. กว่าหกล้านบาท
“กรรมาธิการได้ฝากสอบถามไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดสุรินทร์ว่างบประมาณส่วนนี้รัฐบาลตั้งใจให้ดูแลช่วยเหลืออพยพและขอให้มีการฝึกจ่ายเงินไปถึงประชาชนในการดูแลผู้ได้รับผลกระทบด้วยความรวดเร็วตรวจสอบได้ เพื่อที่จะใช้จ่ายตามที่จำเป็นไม่ใช่มากอดระเบียบเอาไว้และห่วงเงินไม่ยอมใช้จ่ายเงินเพื่อที่จะดูแลประชาชน” นายกรวีร์กล่าว
นายกรวีร์ ยังกล่าวอีกว่าเงินที่จะช่วยเหลือผู้เสียชีวิตไม่ว่าจะเป็นพลเรือนเจ้าหน้าที่ของรัฐจะเป็นคนละส่วนกันกับเงิน 100 ล้านบาท ที่ให้แต่ละจังหวะไปแก้ไขปัญหาซึ่งต้องย้ำให้กับทุกจังหวัดและประชาชนให้เกิดความชัดเจน และฝากถึงกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ซึ่งต้องขอบคุณผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งใช้งบประมาณดูแลประชาชนทั้งทั้งที่มีเงินดูแลอยู่อีกจังหวัดละ 100 ล้านบาท จึงเกิดคำถามว่าทำไมต้องให้ภาระการดูแลประชาชนไปแบกไว้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะแทนที่แต่ละจังหวัดจะเร่งเบิกจ่ายและใช้เงินที่ทางรัฐบาลไปจังหวะละ 100 ล้านบาทนั้นเพื่อดูแลประชาชน โดยที่ไม่ให้ไปกระทบกับเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นน้อยที่สุด อันนี้จะเป็นประเด็นหลักที่มีการพูดคุยและประชุมกันไปเมื่อเช้านี้รวมถึงฝากเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทยให้ดูในระเบียบต่างๆในการช่วยเหลือประชาชนให้รวดเร็ว โดยเฉพาะเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิต
เมื่อถามว่าเงินจังหวัดอุบลราชธานีที่เบิกจ่ายเพียง 55,000 บาท เกิดจากการติดขัดข้อกฎหมายอะไรหรือยังไม่อยากมีการเบิกจ่ายงบประมาณ นายกรวีร์ กล่าวว่า รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ชี้แจงว่าช่วงแรกได้มีการใช้จ่ายเงินของ อปท.ไปก่อน หากเกินกำลังของท้องถิ่นค่อยใช้เงินในส่วนนี้ ตนจึงสงสัยว่า เงินถูกอนุมัติไปตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. จนถึงวันนี้ 6 ส.ค. เบิกจ่ายไปเพียงแค่นี้ เพียงพอหรือไม่ ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบ การใช้จ่ายเงินจะต้องมีความรอบคอบ ระมัดระวัง ซึ่งแปลกจากที่รัฐมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานียืนยันว่าเบิกจ่ายได้ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของจังหวัดที่จะต้องเร่งเบิกจ่าย
เมื่อถามว่าจะมีโอกาสเรียกระดับรัฐมนตรีซึ่งเป็นคนตัดสินใจมาใน กมธ.หรือไม่ นายกรวีร์ ระบุว่า วันนี้ก็ได้เชิญนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาด ในฐานะรักษาการนายกฯ ไทยมาชี้แจง 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง แต่น่าเสียดายที่ไม่เคยมาเลย
“อยากจะฝากไปถึงท่าน เวลาท่านเชิญผู้ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ใครไม่มาท่านบอกจะย้าย เวลา กมธ. ใช้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติเชิญรัฐมนตรี ก็อยากจะให้รัฐมนตรีมาตอบอยากให้กล้า เหมือนที่กล้ากับราชการด้วย” นายกรวีร์ กล่าว
เมื่อถามว่าทำไมระดับรัฐมนตรีถึงประเมินว่าสถานการณ์การเบิกงบยังไหวอยู่ นายกรวีร์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ท่านอาจจะมีภารกิจอื่น เวลาที่มาตอบไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมใหญ่หรือ กมธ. ที่ให้ข้าราชการมาตอบ ก็จะตอบเหมือนทุกอย่างไปได้ดี ทุกอย่างดำเนินไปได้โดยไม่มีปัญหา ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นที่หน้างาน
เมื่อถามว่าขณะนี้มีกองกำลังฝ่ายกัมพูชาที่มาแทรกซึมอยู่กับพลเรือนฝั่งไทย มีความกังวลหรือไม่ นายกรวีร์ กล่าวว่า กรณีนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันในที่ประชุม เพราะพูดคุยเพียงแค่เงินช่วยเหลือฉุกเฉิน ซึ่งตนก็มีความเป็นห่วง แต่คิดว่าทางจังหวัด โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และฝ่ายปกครองจะต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับประชาชนในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้ด้วย
เมื่อถามว่างบ 55,000 บาท มีความคลาดเคลื่อนตรงไหน นายกรวีร์ กล่าวว่า ตนได้ย้ำกับผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีหลายครั้ง เพราะได้ฟังตัวเลขก็รู้สึกตกใจ ว่ารายงานผิดหรือไม่ ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าเบิกไปจำนวนเท่านี้จริงๆ และเป็นข้อมูลล่าสุดถึงวันนี้ด้วย
เมื่อถามว่าการเบิกจ่ายอาจจะเป็นเรื่องการกังวลเกี่ยวกับข้อระเบียบหรือไม่ นายกรวีร์ กล่าวว่า จังหวัดอื่นก็ใช้ระเบียบตัวเดียวกัน เช่น จังหวัดสุรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดก็ชี้แจงว่าเบิกจ่ายได้ และเบิกจ่ายไปแล้ว 50-60 ล้านบาท ซึ่งมีรายการที่จะต้องเบิกจ่าย เพราะพี่น้องประชาชนที่อยู่ในศูนย์อพยพ ตนรู้สึกแปลกใจว่าจังหวัดอื่นไม่มีปัญหา ตนจึงอยากฝากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ระบุว่าหากทำไม่ได้ก็จะหาคนอื่นมาทำ ตนจะรอดูว่าจะทำได้หรือไม่
นายกรวีร์ ย้ำว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่เบิกจ่ายเงิน ท่านอาจจะมองว่าใช้เงินต้องรอบคอบต้องมีการตรวจสอบอย่างชัดเจน ต้องระมัดระวังการใช้จ่ายเงิน ซึ่งก็เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องใช้จ่ายเงินส่วนนี้