“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวต-ไม่โหวต ในสภา ย้ำทุกอย่างจบแล้วเดินหน้าทำงานต่อ ลั่นไม่เอาคืนใครแม้เคยถูกกระทำ หลังโดนมองปม “เขากระโดง”

“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวต-ไม่โหวต ในสภา ย้ำทุกอย่างจบแล้วเดินหน้าทำงานในเวลาจำกัด บอกฝ่ายค้านมีสิทธิ์ร้องสอบ MOA แต่ยังทำทุกอย่างถูกต้อง ยันไม่เอาคืนใครแม้เคยถูกกระทำ ให้ความมั่นใจอะไรเป็นของรัฐก็เป็นของรัฐ หลังโดนมองปม “เขากระโดง”

เวลา 21.45 น. วันที่ 5 ก.ย. 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ขอบคุณพี่น้องชาวไทยทุกคน การที่ได้รับเสียงให้ตำแหน่งว่าที่นายกรัฐมนตรี ก็เป็นการใช้สิทธิ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคประชาชน และพรรคการเมืองทั้งที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือไม่ได้ลงให้คะแนนตน ก็ถือว่าวันนี้การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็มีชื่อของ นายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทยด้วย ซึ่งก็ผ่านไปแล้ว อยากให้ทุกอย่างจบไปด้วยดี และหันหน้าเข้าหากันทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการนำพาขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วที่สามารถไปทดแทนกับโอกาสที่เสียไปบ้าง ถ้าเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะสามารถบรรลุๆเป้าหมายต่างๆ ได้

เมื่อถามว่า เรื่องแรกที่จะทำในฐานะนายกรัฐมนตรี คืออะไร นายอนุทิน กล่าวว่า ขอไม่พูดรายละเอียด

เมื่อถามว่า ไปเจอคุณพ่อ เป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า คุณพ่อไม่ค่อยสบาย ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก็ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น ท่านอายุมากแล้ว ท่านก็คงอยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบ

เมื่อถามว่า กรณีเสียงของสภาที่โหวตให้นายอนุทิน ฝ่ายค้านได้พูดถึง MOA ข้อ 4 (เพื่อสร้างหลักประกันว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือนจริง พรรคภูมิใจไทยต้องไม่ดำเนินการโดยวิธีการใดๆ เพื่อทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก) ชี้แจงอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามเจตนาที่ดี ทุกอย่างผ่านไปแล้ว อย่าไปพูดอะไรให้เกิดความขัดแย้ง หรือระหองระแหง มีหลายคนบอกว่าตนมีคุณสมบัติพิเศษ คือไม่ชอบความขัดแย้ง และสามารถทำให้คนที่เคยขัดแย้งกันกลับมาเป็นมิตรได้ ตนก็อยากรักษาคุณสมบัตินี้ไว้

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมร้องเรื่อง MOA นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนสามารถใช้สิทธิ์ได้

เมื่อถามว่า มีการใช้เรื่องมาตรฐานจริยธรรมกลับมาอีกครั้ง นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมาย ภายใต้รัฐธรรมนูญ สิ่งที่ตนปฏิบัติมาโดยตลอดอยู่ในกฎกติกา อยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น จำได้แต่เรื่องดีๆ เรื่องไม่ดีไม่ค่อยจำ

ส่วสกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดิยทางออกนอกประเทศ ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ต้องติดตามหรือไม่ หากมีคำสั่งศาลออกมา นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างมีกฎหมายกำกับอยู่แล้ว ตนให้ความมั่นใจว่าภายใต้การทำงานของตนและคณะรัฐมนตรี เราจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ไม่มีการช่วยเหลือใคร และไม่มีการแกล้งใคร ไม่มีการเอาคืนใคร สิ่งที่เกิดมาทั้งหมดมีทั้งดีและไม่ดี ไม่ว่าพวกตนจะโดนกระทำด้วยวิธีการใดๆก็ตาม หรือจะโดนเข้าใจผิด หรือโดนปฏิบัติยังไงก็ตาม แต่วันนี้ถือว่าพวกตนมาอยู่ตรงนี้แล้ว เราก็จะไม่ไปขยายความขัดแย้ง โกรธแค้น ชิงชัง ให้มันเพิ่มมากขึ้นไปอีก คุณพ่อสอนไว้ว่า โกรธร้อยครั้ง ไม่เท่าอภัยครั้งเดียว ตนก็ยังยึดคำพูดที่ถูกอบรมสั่งสอนไว้

เมื่อถามว่า หลายคนบอกว่าถูกยึดกระทรวงมหาดไทยไป กลับมาครั้งนี้จะมาควบกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ นายอนุทิน ไม่ตอบ พร้อมพูดกลับว่าชอบแอบถาม

เมื่อถามว่า ฟอร์มทีมคณะรัฐมนตรี แล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าบอกว่ายังไม่ทำเลยก็แสดงว่ายังไม่เตรียมพร้อม แต่ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาพูด แต่จะใช้เวลาโดยเร็วอย่างแน่นอน ถ้าตนโอเค เขาก็ต้องโอเค

เมื่อถามว่า ตอนนี้เรียกว่าหัวเราะทีหลังดังกว่าหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เอาไม่พูดคำนี้ เราต้องหัวเราะทุกคน ทำให้ประชาชนทุกคนมีเสียงหัวเราะ และแนะนำคำว่า land of smile กลับสยามเมืองยิ้ม กลับมาสู่ประเทศของเรา ภายใต้เวลาสั้นๆของตน ไม่ต้องถามว่าจะยืดเวลาหรือไม่ ตนจะทำตามข้อตกลง

เมื่อถามว่า การเรียกประชุม สส. วันนี้ มีวาระพิเศษอะไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้เรียกประชุม สส. เราประชุมที่สภาเสร็จ ลงมติเรียบร้อยแล้ว ก็มาที่พรรค วันนี้ก็เหนื่อยกันมาแต่เช้า และต้องคอยแก้ไขคำครหา คำกล่าวหาต่างๆ ก็มานั่งทานข้าวต้มกันหน่อย แล้วก็กลับบ้าน

ส่วนที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย ระบุถ้าเลือกอนุทิน เขากระโดงหายตลอดกาล นายอนุทิน กล่าวว่า “ผมจะพูดยังไงดี ให้ความมั่นใจ อะไรเป็นของรัฐก็ต้องเป็นของรัฐ แต่ขอให้ทำตามกฎหมาย อย่าเข้ามาทำโดยการยัดเยียด โดยการปรุงแต่งเหมือนที่เขาทำกันมา ถ้าพูดไปเดี๋ยวก็ไปขัดแย้งกันอีก

ส่วนเรื่องที่จะถูกเพิกถอนที่ดินเขากระโดงจะเป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างใช้กฎหมายเต็มที่ เขากระโดด ฮั้ว สว. หรืออะไรที่เขาจงใจใส่ร้ายป้ายสีมา เพื่อประโยชน์ของพวกเขาเอง ตนจะติดตามอย่างใกล้ชิดและเปิดเผย โดยใช้กฎหมายให้เป็นที่ยอมรับของคนทุกคน ให้ปราศจากข้อสงสัย เพราะพวกเราไม่ได้ทำ ในเมื่อไม่ได้ทำ ก็ไม่มีใครสามารถเอาผิดเราได้ ยกเว้นคนที่พยายามจะเอาเรื่องนี้มาใส่ร้ายป้ายสี ก็คงไม่ไม่ต้องบอกว่าใคร เราติดตามดูก็เห็นอยู่แล้ว

ส่วนกังวลหรือไม่ กระทรวงยุติธรรม ที่มีดีเอสไอ ทำคดีเขากระโดง และ ฮั้ว สว. นายอนุทิน ยอมรับว่า กังวลว่าเขาจะทำไม่ดี เราจะเข้าไปเพื่อให้เขากลับมาทำดีอีกครั้ง ทำให้ถูกต้องโปร่งใส ไม่เป็นเครื่องมือของนักการเมือง ไม่ใช้อำนาจในการข่มเหงรังแกประชาชน ถ้าคนอย่างพวกตนยังโดนกล่าวหาขนาดนี้ โดนกลั่นแกล้งขนาดนี้ แล้วประชาชน ตาสีตาสา จะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นตรงนี้ถ้าจะเข้ามา ก็คือเข้ามาทำให้มันดีขึ้น ให้อำนาจการกลั่นแกล้ง หรือความพยายามทั้งหลายที่จะยัดเยียดข้อหา ที่จะใช้อำนาจการในการก่อให้เกิดโทษแก่ผู้ที่เป็นฝ่ายตรงข้าม ต้องหมดไป ต้องใช้กระบวนการยุติธรรมที่ทุกคนเท่าเทียมกันหมด จะให้คนทานมาทำสิ่งเหล่านี้เพื่อประโยชน์ตัวเองไม่ได้และตนก็คิดว่าหลายอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ตนมีสัญญาณหลายๆ อย่าง มีข่าวที่จะมีการเปลี่ยนแปลง
ก็ไม่อยากมองว่าเปลี่ยนสี แต่หลายคนมองว่าถูกบังคับให้ทำ ก็ไม่เป็นไร เราค่อยว่ากัน

“ผมไม่มีคำว่าเช็คบิล หรืออะไรทั้งหลาย ไม่มีทั้งสิ้น คำว่าเจ๊เก็บตังค์ ไม่มีสำหรับผม”