24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 10 สิงหาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 10 สิงหาคม 2568
>> รถอเนกประสงค์ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตกลางถนนสายหนองบัวลำภู - โนนสัง
06.54 น. รับแจ้งจาก สมาคมกู้ภัยนเรศวร จังหวัดหนองบัวลำภู มีอุบัติเหตุรถกระบะชนรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเส้นทางหนองบัวลำภู - โนนสัง บริเวณใกล้เคียงทางเข้าปั้มน้ำมัน ในพื้นที่ บ้านวังน้ำขาว ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
ที่เกิดเหตุ พบรถอเนกประสงค์ ฟอร์ด สีเทา ป้ายทะเบียน หนองบัวลำภู ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ป้ายทะเบียน หนองบัวลำภู ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 63 ปี เบื้องต้นจากการชันสูตรผู้เสียชีวิตคอหัก และกะโหลกแตกมีแผลฉึกขาดขนาดใหญ่และขาหัก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู จะทำการสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> รถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำตกเขา มีผู้เสียชีวิต ที่เมืองปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
09.10 น. รับแจ้งจากเครือข่ายแม่ปาย แจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถยนต์กระบะ เสียหลักตกข้างทาง และมีผู้เสียชีวิต บริเวณถนนก่อนถึงบ้านผีลู พื้นที่ ตำบลแม่นาเติง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ต้องเดินจากถนน ลึกลงไปประมาณ 100 เมตร พบรถกระบะ โตโยต้า สีเทา-ดำ ลักษณะชนกับร่องดิน สภาพรถพังเสียหายทั้งคัน ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย 1 ราย อาสากู้ภัยปายสามัคคีการกุศลร่วมกับกู้ชีพแม่นานาเติง ดำเนินการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต นำส่งยังภูมิลำเนา (บ้านผีลู) เพื่อรอทำพิธีทางศาสนา ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปาย
>> รัฐบาล เร่งเยียวยาเหตุการณ์ปะทะไทย-กัมพูชา ย้ำไม่มีใครตกหล่น
09.16 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาล ยืนยันว่ามีความพร้อมดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 สิงาคม 2568 ในกรณีผู้เสียชีวิตที่เป็นประชาชนทั่วไปรายละ 8 ล้านบาท ข้าราชการทหาร-ตำรวจ รายละ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบบาดเจ็บสาหัส บาดเจ็บเล็กน้อย ทุพพลภาพ จะได้รับการเยียวยา โดยไม่มีการตกหล่นจากมาตรการเยียวยาดังกล่าวอย่างแน่นอน
นายจิรายุ กล่าวว่า นอกจากมาตรการตามมติ ครม. หน่วยงานราชการต้นสังกัด อาทิ กระทรวงกลาโหม จะดูแลครอบครัวญาติพี่น้องของข้าราชการทหารที่เสียชีวิต ให้ได้รับสวัสดิการ สิทธิการรับราชการเป็นกรณีพิเศษ เพื่อตอบแทนคุณความดีที่ได้เสียสละชีวิตรักษาอธิปไตยของประเทศ
สำหรับการเยียวยาบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย การลงพื้นที่ของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ จ.สุรินทร์ เพื่อไปรับฟังข้อมูล ข้อเสนอแนะจากประชาชนและผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อนำมากำหนดแนวทางการเยียวยา ทั้งด้านความเสียหายทางการเกษตร ปศุสัตว์ และบ้านเรือนของประชาชน เพื่อรวบรวมกำหนดออกเป็นรายละเอียดในการเยียวยาครั้งที่ 2 ในส่วนทรัพย์สินที่เสียหาย เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
>> รวบเครือข่ายยาบ้าสายใต้ ทำหน้าที่เฝ้าโกดังพักยา ก่อนลำเลียงสู่ภาคใต้
11.26 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม ชายไทย 1 ราย โดยจับกุมได้ที่ ถนนภายในสวนยางพารา อ.รัษฎา จ.ตรัง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้สกัดจับผู้ลักลอบขนยาบ้ากว่า 13 ล้านเม็ด ได้ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกำลังจะลำเลียงไปสู่ภาคใต้ ต่อมา กก.5 บก.ป. จึงได้รับมอบหมายให้สืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว ซึ่งมีผู้สั่งการที่คอยสั่งยาเสพติดมาจากทางภาคเหนือ และจะว่าจ้างคนร้ายรับยาเสพติดจากทางเหนือนำยามาพักไว้ที่โกดังเก็บสินค้าพื้นที่โซนภาคกลาง ซึ่งจะมีกลุ่มคนเฝ้าโกดังคอยเปิดและปิดโกดัง
จากนั้นผู้สั่งการจะให้คนร้ายจากทางภาคใต้ ขับรถบรรทุกขึ้นมารับที่โกดังพักยาเสพติดและนำไปส่งยังปลายทางภาคใต้ โดยตำรวจ บก.ป. สามารถขยายผลจนกระทั่งนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาซึ่งลักลอบขนยาบ้าได้เพิ่มอีก 5 ล้านเม็ด และได้ยื่นขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว
ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าผู้ทำหน้าที่เฝ้าโกดังสินค้าคือนายแมว กับพวกอีก 2 คน และยังมีหน้าที่คอยขับรถนำคนร้ายสายภาคเหนือ และคนร้ายสายภาคใต้เข้ามาที่โกดังเก็บยา โดยเครือข่ายดังกล่าวลักลอบขนยาเสพติดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 – 8 ครั้ง มีเงินทุนหมุนเวียนในเครือข่ายมากกว่า 200 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบแหล่งกบดานนายแมว จึงวางแผนจับกุมตัวไว้ได้ สำหรับนายแมว หลังจากที่หลบหนีออกจากโกดังพักยาเสพติดแล้ว ได้หลบหนีไปอยู่ที่จังหวัดระยอง และถูกจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติด อยู่ระหว่างประกันตัวชั้นศาล แล้วหลบหนีอีกจนศาลจังหวัดระยองได้ออกหมายจับไว้แล้วด้วย จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ลงพื้นที่ เหตุเพลิงไหม้ที่พักคนงาน "ตลาดทะเลไทย" โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
12.30 น. ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นภายในตลาดทะเลไทย ตรงส่วนของอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น หมู่ที่ 1 ต.ท่าจีน อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร
ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุเป็นชั้นลอยที่ต่อเติมจากชั้น 3 ของอาคารดังกล่าว เพื่อดัดแปลงให้เป็นที่พักอาศัยของแรงงาน ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ แต่เปลวเพลิงก็ได้ลุกไหม้จนเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมด โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ขณะที่สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้และมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ด้านนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลท่าจีน เข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นด้วยการประสานกับนายจ้างหรือผู้ดูแลแรงงาน เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ พร้อมกันนั้นยังได้สั่งการให้ทาง สำนักงาน ปภ. จังหวัดสมุทรสาคร ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
>> เหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่โพทะเล จ.พิจิตร เสียหายวอด 3 หลังคาเรือน
13.30 น. รับแจ้งจาก หน่วยกู้ภัยชาละวันพิจิตร เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ตำบลวัดขวาง อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร
ที่เกิดเหตุ พบว่าเพลิงกำลังโหมไหม้รุนแรง ลักษณะเป็นบ้านไม้ที่ปลูกติดกัน เจ้าหน้าที่พนักงานป้องกัน นำรถดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ของเทศบาลตำบลโพทะเล ออกสนับสนุนร่วมระงับเหตุ โดยระดมหัวฉีดน้ำจนสามารถควบคุม และเพลิงสงบลงในเวลาต่อมา
เบื้องต้นพบว่า มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย จำนวน 3 หลังคาเรือน ขณะเกิดเหตุ ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพทะเล
>> ผบ.ตร. สั่งการผู้บัญชาการศึกษาดูแลการสอบคัดเลือกเป็นข้าราชการตำรวจ คุมเข้มทุกหน่วยสอบโปร่งใส ไร้ทุจริต
14.16 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการไปยัง พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ให้ดูแลตรวจสอบการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอก เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ ประจำปี พ.ศ. 2568 ที่จัดขึ้นในวันนี้ เวลา 13.30 น. ให้คุมเข้มทุกหน่วยสอบทั่วประเทศไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด เน้นย้ำต้องเป็นการสอบคัดเลือกที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกขั้นตอน หากพบการทุจริตให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกราย
โดยการสอบครั้งนี้จัดโดยกองบัญชาการศึกษา (บช.ศ.) ครอบคลุมหน่วยสอบ บช.ศ., ตำรวจภูธรภาค 1-9 และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) รวมทั้งสิ้น 11 หน่วยสอบ เพื่อคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรี หรือวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย/ประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือเทียบเท่า เข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ ทั้งในชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน รวมจำนวน 155 อัตรา โดยมีผู้สนใจสมัครสอบในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 65,203 คน
พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้กำชับเข้มงวดให้ บช.ศ.กำกับดูแลการจัดการสอบคัดเลือกในทุกหน่วยสอบต้องโปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้ เพื่อคัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และคุณธรรม เข้าสู่การเป็นตำรวจมืออาชีพ ซึ่ง บช.ศ.รับนโยบายมาขับเคลื่อนอย่างเคร่งครัด จะไม่ยอมให้มีการทุจริตหรือการเอื้อประโยชน์ใด ๆ เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงยืนยันมาตรการเข้มข้นในการคัดเลือกบุคลากร พร้อมพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการสอบแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ข้าราชการตำรวจที่มีคุณภาพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และอุทิศตนเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
>> "เป๊ก ผลิตโชค" ยอมให้เก็บตัวอย่างเส้นผม ตรวจหาสารเสพติด
14.36 น. พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวถึงความคืบหน้าคดีของ "เป๊ก ผลิตโชค" นักร้องชื่อดังว่า พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องหลายปากแล้วไม่ว่าจะเป็น ผู้ขับขี่รถกระบะ,ผู้ขับขี่รถแท็กซี่,พลเมืองดีที่เข้ามาห้ามและเป็นคู่กรณีกัน คงเหลือแต่ในส่วนของ "เป๊ก" และคนขับรถของเป๊ก ที่ยังต้องสอบปากคำ
ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวน ได้ทำหนังสือถึงโรงพยาบาลที่ให้การรักษา ขอให้ตรวจสารเสพติดในร่างกาย และปริมาณแอลกอฮอลล์ในร่างกาย หลังจากวันเกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม ก่อนจะมาทราบเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ว่าตัวเป๊กไม่ยินยอมให้ตรวจ
และล่าสุด เย็นวานนี้ (9 ส.ค.) สารวัตรสืบสวน สน.หัวหมาก ได้ไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพื่อทำหนังสือแจ้งโรงพยาบาล รวมทั้งประสานผู้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยว่า ใช้อำนาจของเจ้าพนักงาน ปปส. เพื่อขอเก็บตัวอย่างเส้นผมของ "เป๊ก ผลิต" ไปตรวจหาสารเสพติด โดยได้อธิบายขั้นตอนทางกฎหมายและเหตุผล ก่อนที่ "เป๊ก ผลิตโชค" จะยินยอมให้เก็บตัวอย่างเส้นผม นำส่งไปตรวจหาสารเสพติดที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งหลังจากนั้นก็จะเป็นไปตามกระบวนการ โดยต้องรอว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรต่อไป
>> กองกำลังผาเมือง สกัดขบวนการลำเลียงยาเสพติด ยึดยาบ้าได้ 5.5.ล้านเม็ด เร่งขยายผลต่อ
15.21 น. พล.ต.กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง พ.อ.เดชาธร สายหยุด รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 5,500,000 เม็ด
หลังจากกลางดึกวานนี้ กองบังคับการผาดง หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ จึงจัดกำลังกองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ตั้งจุดตรวจชั่วคราว เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณบ้านหัวนา ซึ่งเป็นบ้านบริวาร บ้านเปียงหลวง ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ จนกระทั่งเวลา 21.45 น. ตรวจพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ไฮลักซ์ รีโว่ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับมาตามเส้นทางดังกล่าว จึงแสดงตัวเขอทำการตรวจค้น แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้หยุดรถก่อนถึงจุดตรวจ ประมาณ 200 เมตร จากนั้นชายต้องสงสัย จำนวน 3 ราย ได้ลงจากรถ และอาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไป
จากการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว พบกระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลัง จำนวน 30 กระสอบ วางอยู่ท้ายกระบะรถยนต์ยาบ้ากระสอบละ 200,000 เม็ด จำนวน 25 กระสอบ รวมประมาณ 5,000,000 เม็ด และกระสอบละ 100,000 เม็ด จำนวน 5 กระสอบ รวมประมาณ 500,000 เม็ด รวมทั้งสิ้นประมาณ 5,500,000 เม็ด จึงประสานพนักงานสอบสวน ร่วมตรวจสอบ และนำของกลางส่งให้กับ สภ.เวียงแหง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> รถกระบะเสียหลักพลิกตะแคง ไถลชนต้นไม้พังยับ คนขับเจ็บติดอยู่ภายในยานพาหนะ จ.ตราด
16.17 น. รับแจ้งจาก สมาคมกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือ จังหวัดตราด มีอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักชนต้นไม้และมีผู้บาดเจ็บติดค้างในยานพาหนะ บนถนนทางหลวงชนบท สาย ตร. 1002 หลักกิโลเมตรที่ 3-4 ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด
ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน ตราด ลักษณะพลิกตะแคงชนกับต้นไม้ริมทาง ตรวจสอบพบว่า มีคนขับ เป็นชายไทย อายุ 54 ปีรู้สึกตัวดี แต่ขาทั้ง 2 ข้าง ถูกอัดก็อปปี้กับซากรถ อาสากู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างเข้าช่วยเหลือ นานกว่า 30 นาที จึงสามารถนำตัวผู้บาดเจ็บออกจากรถได้ โดยมีรถกู้ชีพโรงพยาบาลกรุงเทพตราด เดินทางมารับผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางชาวบ้านที่มุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก
เบื้องต้นลูกสาวผู้บาดเจ็บ ที่เดินทางมาที่เกิดเหตุ ใหข้อมูลว่า พ่อตนเองกำลังนำทะลายปาล์มไปขาย ซึ่งขับออกจากบ้านได้ไม่นาน ก็ทราบว่า พ่อประสบอุบัติเหตุ ส่วนสาเหตุอุบัติเหตุนั้นยังไม่ทราบว่ามาจากสาเหตุอะไร
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า เกิดถึงจุดเกิดเหตุเป็นสะพานข้ามคลอง เมื่อรถยนต์ที่ประสบเหตุขับผ่านสะพาน คาดว่า รถยนต์อาจจะโยกและเสียหลักจะตกถนน ทำให้คนขับพยายามบังคับรถให้อยู่ ก่อนที่จะพลิกตะแคงไถลไปชนกับต้นไม้ดังกล่าว
>> รถกระบะเสียหลักชน หนุ่ม-สาวชาวเมียนมาเสียชีวิตทั้งคู่ และมีผู้บาดเจ็บอีก 4 ราย
16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะชนคนเดินเท้ามีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 4 คน บนถนนแคราย ใกล้เคียงปากซอยบุญเสริม หมู่ที่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย 1 คน นอนจมกองเลือดอยู่ริมถนนบริเวณปากซอยบุญเสริม ทราบชื่อคือ นายสอ อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา ห่างออกไปประมาณ 6 เมตร ตรงเสาไฟฟ้าพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง สภาพศพศีรษะขาดกระเด็น ขาขาด 1 ข้าง แขนขาผิดรูป ทราบชื่อคือ นางสาวมะ อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา โดยศีรษะของผู้เสียชีวิตรายนี้กระเด็นไปตกห่างจากร่างประมาณ 10 เมตร
ใกล้กันพบรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร สภาพรถชนอัดติดกับเสาไฟฟ้าในลักษณะขวางถนน หน้ารถพังยับ ถุงลมนิรภัยหลุดออกมา ส่วนคนขับยังไม่ทราบชื่อ ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน เป็นคนในครอบครัวเดียวกันที่กำลังช่วยกันนั่งปลูกต้นไม้อยู่หน้าบ้าน ถูกแรงกระแทกจากรถอีกคันที่จอดอยู่ได้รับบาดเจ็บ และยังมีรถยนต์กระบะ นิสสัน ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่หน้าบ้านถูกชนอย่างแรงจนเสียหาย
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า รถยนต์กระบะอีซูซุ ขับมาอย่างเร็ว แล้วเสียหลักพุ่งชนคนเดินเท้า 2 คนที่กำลังจะไปตลาดนัด จนเสียชีวิต จากนั้นรถก็เสียหลักพุ่งมาชนกับหน้ารถกระบะนิสสันที่จอดอยู่หน้าบ้าน ทำให้รถกระบะนิสสันพุ่งไปกระแทกกับร่างของชายคุณตาวัย 70 ปี กับ ลูกชายอายุ 40 ปีเศษ อีก 2 คน จนได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
>> แก๊งคอลฯ ในกัมพูชา ขยายฐานเข้าเมือง พบเปิดในหลายจังหวัด
16.42 น. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชา เริ่มขยับขยายฐานเข้าไปอยู่ลึกในหลายจังหวัด เช่น พนมเปญ, สีหนุวิลล์, กันดาล, สวายเรียง และอุดรมีชัย ไม่ได้มีอยู่เพียงแค่ปอยเปตเท่านั้น
สำหรับความคืบหน้าการขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เชื่อมโยงกับ นายก๊ก อาน จะมีการจับกุมและยึดทรัพย์เพิ่มเติมในเร็วนี้ การประสานกับอินเตอร์โพลแล้ว รอทำสำนวนให้เสร็จมีความเห็นสั่งฟ้อง และส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป
ส่วนความคืบหน้าคดีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ได้ส่งสำนวนไปให้อัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว ซึ่งได้มีการตั้งคณะอัยการและพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีซึ่งเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร
ส่วนความคืบหน้าคดีคลิปเสียง สมเด็จฮุน เซน สั่งฆ่าฝ่ายตรงข้ามนั้น เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา เพื่อสั่งคดีความผิดราชอาณาจักรด้วยแล้วเช่นกัน
>> ประกาศ ปภ.สุรินทร์ ปิดศูนย์พักพิงฯ ชั่วคราว และส่งมอบคืนพื้นพื้นที่ให้แก่ ส่วนราชการ
17.36 น. ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เป็นวงกว้าง ทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สินของประชาชนและทรัพย์สินของทางราชการเป็นจำนวนมาก นั้น
ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้แถลงข่าวการเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยมีสาระสำคัญของข้อตกลงในส่วนของพลเรือน ได้แก่ ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี และ ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกทุกกรณี
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์พิจารณาแล้ว เนื่องจากได้มีข้อตกลงดังกล่าวทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง และทำให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จึงขอให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธาธารณภัยอำเภอ และกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาสาธาธารณภัย เทศบาลเมืองสุรินทร์ พิจารณาดำเนินการปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่รับผิดชอบ และส่งมอบคืนพื้นพื้นที่ให้แก่ ส่วนราชการ หรือเจ้าของสถานที่ที่ได้ขอใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอและกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองสุรินทร์ ยึดหลักปฏิบัฏิบัติตาม "แผนการอพยพประชาชน กรณีภัยทางอากาศ จังหวัดสุรินทร์ ปี 2568 และแผนรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและพิทักษ์พื้นที่เขตหลังจังหวัดสุรินทร์" โดยเคร่งครัด
>> "กองทัพเรือ" เตรียมปูนบำเหน็จ "ว่าที่เรือตรี ภัชทราวุฒิ" เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติภารกิจไทย-กัมพูชา
17.51 น. จากกรณีการเสียชีวิตของ ว่าที่เรือตรี ภัชทราวุฒิ รัตนวงษ์ ตำแหน่งผู้บังคับหมวดป้องกัน ร้อย.บก. กรมต่อสู้อากาศยานที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ทำหน้าที่ผู้บังคับหมวดป้องกัน กองพันต่อสู้อากาศยานเฉพาะกิจป้องกันภัยทางอากาศส่วนหลัง ซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สุรินทร์
โดยขณะที่ ว่าที่เรือตรี ภัชทราวุฒิ ฯ กำลังปฏิบัติภารกิจในการตรวจสอบความพร้อมของอาวุธ ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 68 จากนั้นได้เข้ารับการรักษาตัวและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา โดย พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้แสดงความเสียใจและสั่งการให้เร่งดำเนินการตามระเบียบในการดูแลสิทธิและสวัสดิการ พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ กองทัพเรือกำลังพิจารณาปูนบำเหน็จและสิทธิกำลังพลสูงสุดให้แก่ผู้เสียชีวิตขณะปฏิบัติงานในสภาพที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิต
โดยในส่วนของ ว่าที่เรือตรี ภัชทราวุฒิ ฯ ในเบื้องต้น ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่กองทัพเรือ จำนวน 500,000 บาท เงินเดือนค้างจ่าย จำนวน 10,021 บาท บำเหน็จตกทอด จำนวน 1,277,720 บาท เงินช่วยเหลือจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ จำนวน 45,000 บาท เงินช่วยพิเศษ 3 เท่า จำนวน 112,740 บาท เงินฌาปนกิจ กองทัพเรือ จำนวน 340,000 บาท รวมเฉพาะสิทธิที่เป็นตัวเงิน เป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 2,355,481 บาท
นอกจากนั้น จะพิจารณาปูนบำเหน็จให้เลื่อนขั้นเงินเดือนและเลื่อนยศตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมต่อไป
>> หนุ่มขับเก๋ง ชนกับรถพ่วงเข้ากลางลำ เจ็บสาหัส กู้ภัยใช้เครื่องตัดถ่างงัดรถ เพื่อช่วยเหลือนำตัวส่ง รพ.
20.48 น. ศูนย์รับแจ้งจาก สมาคมพิษณุโลกการกุศลสงเคราะห์ ( ไซทีฮุกตึ๊ง ) จังหวัดพิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถยนต์เก๋งเฉี่ยวชนกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ และมีผู้บาดเจ็บติดค้างอยู่ภายในยานพาหนะ บน ถนนสายพิษณุโลก - อุตรดิตถ์ บริเวณใกล้เคียงทางเข้าวัดเทพกุญชรทรงธรรม ม.10 บ.คลองช้าง ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก
ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า แจ๊ส สีเทา แผ่นป้ายทะเบียน 3911 สุโขทัย ลักษณะกับรถพ่วง ตรวจสอบพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ชาย 1 ราย หมดสติ ติดค้างภายในยานพาหนะ เจ้าหน้าที่เร่งใช้เครื่องอุปกรณ์ ตัด-ถ่างงัดรถ เพื่อนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บออกมา ก่อนส่งต่อให้รถกู้ชีพโรงพยาบาลวัดโบสถ์นำส่งโรงพยาบาลวัดโบสถ์ เพื่อรักษาต่อไป
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
00.32 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งแผ่นดินไหว ขนาด 2.9 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 155 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> ไฟไหม้รถยนต์ ซอยสุวินทวงศ์ 11
23.58 น.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยสุวินทวงศ์ 11 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง สีดำ หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายเฉพาะห้องเครื่องยนต์ ประชาชนใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายความร้อน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่ห้องเครื่องยนต์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน
>> รถเก๋งชนคน เสียชีวิตกลางถนนเพชรเกษม
เวลา 01.20 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคลชนเฉี่ยวชนคน และล่าสุดมีผู้เสียชีวิต บนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาออก มุ่งหน้าแยกท่าพระ ใกล้เคียง ปากซอยพงษ์จิตต์
ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า แจ๊ส สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. ชนคนข้ามถนน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 30 - 40 ปี ไม่พบเอกสารติดตัว พื้นที่ สน.ท่าพระ
>> แผ่นดินไหว ที่หมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย
01.44 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 4.0 ความลึก 10 กม. บริเวณ หมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.พังงา ประมาณ 474 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย