‘โฆษกเพื่อไทย’ ย้ำ รัฐบาลเดินหน้าสางปัญหาเขากระโดงตามคำพิพากษาศาล ไม่ได้กลั่นแกล้งทางการเมือง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ส.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีความพยายามสร้างกระแสให้เกิดความเข้าใจผิดว่าที่ดินเขากระโดงเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง และการดำเนินการของรัฐบาลไม่สนใจไยดีกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาล ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ซึ่งปัญหานี้ได้ถูกหมักหมมเป็นเวลากว่า 20 ปี เพื่อรักษานิติรัฐ นิติธรรม และบังคับใช้กฎหมาย ไม่ต้องการให้ผู้มีอิทธิพล และเครือข่าย ใช้ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นข้ออ้างในการหาผลประโยชน์โดยมิชอบ และเรื่องที่ดินเขากระโดงจำนวน 5,083 ไร่ นั้นมีคำพิพากษาของศาลฎีกาเมื่อปี 2560 ซึ่งถือว่าเป็นที่สุด พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของหลวง ตามข้ออ้างอิง พบว่า ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระราชทานที่ดินดังกล่าวให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตการสร้างรถไฟ ตั้งแต่จ.นครราชสีมาถึง อุบลราชธานี รวมไปถึงเขตบริเวณเขากระโดง ที่อยู่ใน จ.บุรีรัมย์ด้วย ซึ่งศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาว่า ที่ดินในบริเวณเขากระโดงนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทยตั้งแต่ต้น และถือว่าที่ดินนี้ คือ สมบัติของชาติไม่ใช่พื้นดินของใครคนใดคนหนึ่ง
นายดนุพร กล่าวว่า เพราะฉะนั้นไม่มีการกลั่นแกล้งทางการเมือง เพียงแต่พยายามใช้นิติรัฐ นิติธรรม และบังคับใช้กฎหมาย เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาออกมานั้น ในทางปฏิบัติการรถไฟแห่งประเทศไทย ยังไม่สามารถเข้าไปจัดการดูแลที่ดินซึ่งเป็นของตนเองได้ หลังจากนั้นได้มีการยื่นต่อศาลปกครองกลาง ในปี 2564 จนกระทั่งมีคำสั่งในปี 2566 ให้อธิบดีกรมที่ดินปฏิบัติตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ว่า การออกหนังสือสิทธิในที่ดินนั้นคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบโดยกฎหมายหรือไม่ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ศาลมีคำสั่ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของสมบัติประเทศไทย การที่ที่ดินของหลวง 5,083 ไร่หายไป เชื่อว่า เป็นสิ่งที่คนไทยรับไม่ได้ และเมื่อคุยกันบนพื้นฐานของข้อมูลจะเห็นว่า การดำเนินการของรัฐบาลนี้ไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมือง แต่เป็นการพยายามบังคับใช้กฎหมาย ตามที่ศาลฎีกาพิพากษามาแล้ว
นายดนุพร ย้ำว่า การที่มีการปั่นกระแสในโลกโซเชียล ว่า รัฐบาลจะดำเนินการทุบทำลายสิ่งปลูกสร้าง อาคารต่างๆ รวมทั้งบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่นั้น รัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่มีแนวคิดเช่นนั้น และเชื่อว่าเวลานี้รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย กำลังออกแบบแนวทางการแก้ไขปัญหา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สิ่งใดที่เอกชนดำเนินการไปแล้ว และสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ทำให้คนในพื้นที่เป็นอยู่ที่ดีขึ้น เรื่องนั้นไม่คิดที่จะไปทำลายทิ้ง แต่ต้องหาทางออกร่วมกัน ส่วนการจัดการจะเป็นอย่างไรก็ต้องดูกฎหมายเป็นตัวกำหนดด้วย
นายดนุพร กล่าวว่า จะเป็นทางออกร่วมกันให้คนที่เคยใช้พื้นที่ สามารถใช้พื้นที่อยู่ได้ โดยเฉพาะประชาชนไม่เสียประโยชน์จากการดำเนินการ พร้อมขอให้ประชาชนค้นหาข้อมูล ว่า เรื่องนี้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว เพียงแต่รัฐบาลนี้ต้องการดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อนำที่ของรัฐกลับมาเป็นของประเทศชาติ และนำกลับมาใช้ประโยชน์ให้กับประชาชนต่อไปในอนาคต