นักวิจัยต่างชาติแฉกัมพูชา กำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบใด ตัวการใหญ่ยังอยู่
อีวาน ฟรานเชสชินี อาจารย์ประจำภาควิชาจีนศึกษา มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ออสเตรเลีย และ หลิง ลี่ นักศึกษาปริญญาเอก สาขาเทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกด้านการค้าทาสสมัยใหม่ มหาวิทยาลัยคาฟอสคารีแห่งเวนิส อิตาลี ได้เขียนบทวิเคราะห์เกี่ยวกับสถานการณ์แก๊งมิจฉาชีพในกัมพูชา
ทั้งสองคนใช้หัวข้อบทวิเคราะห์ว่า “กัมพูชาประกาศจะกำจัดแหล่งรวมการหลอกลวงออกจากประเทศ แต่เรายังคงเห็นศูนย์รวมการหลอกลวงหลายแห่งที่ยังคงดำเนินการอย่างเปิดเผย”
ฟรานเชสชินีและหลิงระบุว่า เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชาได้เริ่มดำเนินการปราบปรามครั้งใหญ่ที่สุด ต่ออุตสาหกรรมหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งหยั่งรากลึกในประเทศและส่วนใหญ่ดำเนินการอย่างเปิดเผย
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต ได้ออกคำสั่งยอมรับถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากอุตสาหกรรมนี้ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล และคณะกรรมการการพนันแห่งชาติ ดำเนินการปราบปราม
ขณะที่ตำรวจเริ่มตรวจค้นเว็บไซต์หลอกลวงทั่วประเทศ ช่อง Telegram ที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ก็เกิดความตื่นตระหนก เตือนผู้อื่นถึงความร้ายแรงของการปราบปรามครั้งนี้
บางโพสต์อ้างว่า ตำรวจกำลังตั้งด่านสกัดกั้นทั่วประเทศ จับกุมผู้ที่ไม่มีหนังสือเดินทาง และเรียกร้องสินบนเพื่อปล่อยตัว นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่วิดีโอที่แสดงให้เห็นการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่เป็นจำนวนมาก
ในไม่ช้ารัฐบาลกัมพูชาก็ประกาศความสำเร็จ ปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ทางการประกาศว่าได้ดำเนินการตรวจค้นเกือบ 140 แห่ง นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัยมากกว่า 3,000 คน จากอย่างน้อย 19 ประเทศ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งมาจากจีนและเวียดนาม
ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ระบุว่า ในบรรดาผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ มีเพียงไม่กี่คนที่มาโดยไม่สมัครใจ
อย่างไรก็ตาม ฟรานเชสชินีและหลิงทราบจากงานวิจัยก่อนหน้านี้ของพวกเขาว่า มีผู้เสียหายหลายพันคนถูกค้ามนุษย์หรือถูกหลอกลวงให้เข้าไปในสถานที่เหล่านี้ และถูกบังคับให้ทำงานในสภาพที่คล้ายกับการค้าทาสยุคใหม่
การปราบปรามครั้งนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากจีนและประเทศอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม แม้ปฏิบัติการนี้จะมีขนาดใหญ่ และรัฐบาลให้คำมั่นที่จะกำจัดแก๊งมิจฉาชีพในกัมพูชา แต่ก็ยังมีความกังขาอย่างกว้างขวางว่า ความพยายามเหล่านี้จะเพียงพอที่จะทำลายอุตสาหกรรมนี้ลงได้จริงหรือ
การปราบปรามเมื่อเดือน ก.ค. เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาที่ทำให้ประชาชนต้องพลัดถิ่นมากกว่า 300,000 คน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า สาเหตุของการปะทะเกิดจากความตึงเครียดที่สะสมมาอย่างยาวนานบริเวณชายแดน และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากการเสียชีวิตของทหารกัมพูชาในการยิงปะทะในเดือน พ.ค.
อย่างไรก็ตาม ไทยได้กล่าวหาว่า ความขัดแย้งนี้เกิดจากการปราบปรามแก๊งมิจฉาชีพอย่างจริงจังของไทย
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ไทยได้ตัดกระแสไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตไปยังเมืองปอยเปต ซึ่งเป็นแหล่งรวมการหลอกลวงชายแดน จากนั้นในช่วงต้นเดือน ก.ค. ไทยได้ดำเนินการอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยการไล่ล่า “ก๊กอาน” สมาชิกวุฒิสภาและเศรษฐีชาวกัมพูชาผู้ทรงอิทธิพลที่เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในปอยเปต ซึ่งทางการไทยกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับการหลอกลวงทางออนไลน์
ศาลอาญาของไทยได้ออกหมายจับสมาชิกวุฒิสภาและตรวจค้นทรัพย์สินของเขาในประเทศไทย ทางการยังมุ่งเป้าไปที่บุตรและทรัพย์สินของพวกเขาในประเทศไทยอีกด้วย
เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้ออกมาตอบโต้ด้วยการกล่าวหาว่า ประเทศไทยนั่นแหละที่เป็น “ศูนย์กลางอาชญากรรมข้ามชาติ” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนาน และพยายาม “โยนความผิด” ให้กับกัมพูชาสำหรับปัญหานี้
โฆษกวุฒิสภากัมพูชายังกล่าวอีกว่า คดีความที่ฟ้องต่อก๊กอานเกินจริงและเป็นเท็จ โดยเรียกมันว่าเป็น “การแก้แค้น” ตัวสมาชิกวุฒิสภาเองไม่ได้ตอบโต้ความพยายามของสื่อกัมพูชาที่จะติดต่อเขา
แม้ว่าไทยจะเร่งความพยายามในการปราบปรามอุตสาหกรรมหลอกลวงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ผู้นำของไทยน่าจะใช้ประเด็นนี้เพื่อเสริมสร้างการสนับสนุนจากสาธารณชนภายในประเทศ ขณะเดียวกันก็ทำให้ชนชั้นนำชาวกัมพูชาที่พวกเขากล่าวหาว่าแสวงหาผลประโยชน์จากอุตสาหกรรมนี้ต้องเดือดร้อน
ท่ามกลางสงครามน้ำลายนี้ เจ้าหน้าที่กัมพูชายืนยันว่า การปราบปรามอุตสาหกรรมนี้จะยังคงดำเนินต่อไป
ฟรานเชสชินีและหลิงบอกว่า สิ่งที่กัมพูชาควรได้รับเครดิตคือ การปราบปรามครั้งล่าสุดนี้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งแตกต่างจากการปราบปรามครั้งก่อน ๆ ที่ส่วนใหญ่จำกัดอยู่แค่ในเมืองชายฝั่งสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการหลอกลวงที่สำคัญ
แต่ถึงกระนั้น รูปแบบที่คุ้นเคยก็เริ่มปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับในอดีต ทางการให้ความสำคัญกับแก๊งมิจฉาชีพขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดดูเหมือนจะไม่ได้รับความเสียหาย
ในหลายกรณี มีรายงานว่า มีการแจ้งเบาะแสล่วงหน้าและมีการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ หลังจากนั้นมีมิจฉาชีพจำนวนมากที่ย้ายไปยังพื้นที่ขนาดใหญ่ใกล้ชายแดนเวียดนาม ซึ่งดูเหมือนจะดำเนินงานต่อโดยไม่มีการแทรกแซง
แท้จริงแล้ว หลิงบอกว่า เธอได้เข้าร่วมทีมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเมื่อต้นเดือน ส.ค. เพื่อพยายามติดต่อชายชาวจีนคนหนึ่งที่อ้างว่าถูกค้ามนุษย์เข้าไปในพื้นที่ที่ซ่อนตัวอยู่ลึกเข้าไปในเนินเขาของจังหวัดมณฑลคีรี ใกล้ชายแดน
ชายคนดังกล่าวไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนได้ แต่ด้วยข้อความจากทีมช่วยเหลือตลอดหลายเดือน ทีมจึงสามารถระบุตำแหน่งที่เขาถูกควบคุมตัวได้อย่างละเอียด รวมถึงขนาดของแก๊งมิจฉาชีพ
หลายสัปดาห์หลังการปราบปราม หลิงได้เข้าร่วมทีมลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อประเมินสถานการณ์ จากยอดเขาในยามค่ำคืน พวกเขาเห็นแสงไฟระยิบระยับบนเนินเขา ส่องมาจากอาคารหลายหลังที่รายล้อมไปด้วยป่าทึบ
เนื่องจากมีถนนทางเข้าที่โล่งเพียงเส้นเดียว ทีมจึงไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้โดยไม่ถูกจับได้ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า บริเวณดังกล่าวยังคงคึกคักและมีชีวิตชีวาเช่นเดียวกับบริเวณอื่น ๆ อีกหลายแห่งที่หลิงสังเกตเห็นระหว่างการเดินทางของเธอ
ในขณะนั้น ชายชาวจีนยังคงอยู่ในบริเวณนั้น แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวจากเขาอีกเลย
การปราบปรามศูนย์กลางแก๊งมิจฉาชีพในอดีตล้มเหลว เพราะไม่ได้คำนึงถึงเสาหลัก 2 ประการที่ทำให้อุตสาหกรรมนี้เจริญรุ่งเรือง
ประการหนึ่งคือ เครือข่ายท้องถิ่นที่แข็งแกร่งซึ่งปกป้องผู้กระทำการหลอกลวง และอีกประการหนึ่งคือโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพที่ซับซ้อนของบริเวณที่ตั้งศูนย์กลางแก๊งมิจฉาชีพ
ฟรานเชสชินีและหลิงบอกว่า ตราบใดที่กลุ่มคนชั้นสูงที่คอยปกป้องผู้กระทำการหลอกลวงยังคงไม่ได้รับผลกระทบ และสถานที่ตั้งศูนย์ยังคงสภาพสมบูรณ์ พวกมิจฉาชีพก็สามารถกลับมาทำงานได้อย่างรวดเร็วเมื่อแรงกดดันลดลง
การปราบปรามเป็นระยะอาจทำให้สถานการณ์สั่นคลอนชั่วคราว แต่ผู้ที่ถูกจับกุมมักจะเป็นคนงานระดับล่าง ไม่ใช่คนระดับบน
เมื่อการปราบปรามเหล่านี้สิ้นสุดลง กิจกรรมหลอกลวงก็จะกลับมาอีกครั้ง แก๊งมิจฉาชีพอาจเงียบไปจนกว่าพายุจะผ่านไป หรืออาจย้ายไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยกว่า มิหนำซ้ำ อุปกรณ์ที่ถูกยึดมาสามารถเปลี่ยนได้ เช่นเดียวกับคนงาน
เรียบเรียงจาก The Conversation
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ฮุน เซน” โชว์ตีกอล์ฟสบายใจเฉิบ เผยถ้ามีเหตุด่วนจะไปทำงานทันที
กัมพูชาอ้าง ไม่มีข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ปมทุ่นระเบิดใหม่
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : นักวิจัยต่างชาติแฉกัมพูชา กำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบใด ตัวการใหญ่ยังอยู่
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com