"พันแสง" ชี้ "เพื่อไทย" สู้ในสมรภูมิอย่างโดดเดี่ยว "ศึกกัมพูชา" บี้ "นายกฯอิ๊งค์" ให้ถอยร่น !
หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 76 เป็นเครื่องพิสูจน์ …*…
“วิกฤต” ย่อมเป็นได้ทั้ง “โอกาส” หรือ “หายนะ” สุดแท้แต่การบริหารจัดการ สุดแท้แต่การคลี่คลาย “ปัญหาใหญ่” ให้ลุล่วงลงได้ สิ่งที่ “พรรคเพื่อไทย” กำลังเผชิญหน้าอยู่ในเวลานี้ เหมือนยืนอยู่อย่าง “โดดเดี่ยว” กลางสมรภูมิรบ …*…
ปมประเด็นทางการเมืองในสถานะ “รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ” ยังสู้เกมในสภาฯได้ยาก เมื่อ “ฝ่ายค้าน” ใช้วิธีขอนับองค์ประชุม เช็กเสียง ปรากฏว่าแทบไม่เหลือสส.ฟากรัฐบาลอยู่ในห้อง ด้วยเหตุนี้ แม้ “พรรคเพื่อไทย” จะครองเก้าอี้ “รองประธานสภาฯ” เอาไว้ได้ถึง 2 เก้าอี้ จะไปมีประโยชน์อันใด นอกเสียจาก เร่งตัดสินใจ “สั่งปิดประชุม” หนีปัญหา“สภาล่ม” กันเป็นรอบๆไป …*…
ขณะที่ ปัญหา “ชายแดนไทย-กัมพูชา” ยังไม่สะเด็ดน้ำ เนื่องจากวันนี้แม้พี่น้องประชาชน ทั้ง 4 จังหวัดได้ทยอยกลับเข้าบ้านเรือนแล้วก็ตาม แต่มีใครไม่หวาดผวา ว่าเมื่อไหร่ “ทหารกัมพูชา” จะทำปืนลั่น เข้ามาอีก เมื่อวันนี้ “เขมร” โดยเฉพาะ“ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา ผู้อยู่เบื้องหลังบัญชาการรบ คือคนสับปลับ กลับกลอก แถมเขมรยังเป็นฝ่ายไม่ยอมรับ นั่นคือการไม่ยอม “เก็บทุ่นระเบิด” โดย “ฝ่ายไทย” ได้เสนอในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - กัมพูชา (GBC) ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 7 ส.ค.68 ที่ผ่านมา …*…
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ส.ค.68 เกิดเหตุ “3 ทหารไทย” เหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ ขณะลาดตระเวนในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กำลังพลได้รับบาดเจ็บ คือจ่าสิบเอก ธานี พาหา ซึ่งมีอาการบาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ส่วนพลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ บาดเจ็บที่แขนและด้านหลัง และ พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ โดนแรงอัด, เจ็บแก้วหูอาการปลอดภัย ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 …*…
การบาดเจ็บของ“ทหารไทย” ทั้งการสูญเสียชีวิต และอวัยวะ จากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา เข้าใจว่า “รัฐบาล” และ “ทีมเจรจา” ที่นำโดย “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาการรมว.กลาโหม ได้ใช้ความพยายามและทุ่มเททุกสรรพกำลังในการทำงาน ทั้งก่อนและหลังการเจรจา GBC จบลงที่ประเทศมาเลเซีย แต่การเจรจากับ “กัมพูชา” โดยเฉพาะ “ฮุน เซน” ที่ตัดสินใจและลงมือกระทำการใดๆ เพื่อตัวเอง มากกว่าประชาชนชาวกัมพูชา ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ราบรื่นนัก เมื่อ “ไทย” ยึดกรอบและหลักการ แต่ “ฮุน เซน” ยึด “หลักกู” เล่นนอกกติกาตลอดเวลา และพร้อมที่จะเอาชีวิตของ พี่น้องทหารกัมพูชา เป็นด่านปกป้องตัวเอง มากกว่าพลเมืองและประเทศชาติ …*…
ตราบใดที่ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่จบ และอาจมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เพราะดูเหมือนว่า“กัมพูชา” ไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญ “ข้อตกลง” ในการประชุมGBC ย่อมส่ง “แรงกระทบ”ไปถึง “รัฐบาล” โดยเฉพาะ “พรรคเพื่อไทย” ลามไปถึง“แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯและรมว.วัฒนธรรม โดยปริยาย ยิ่งเธอเองไม่ปรากฎตัว สู่สาธารณะ ยิ่งทำให้ “ข่าวลือ” กระพือสะพัดว่า วันนี้ เธอยังอยู่ดีหรือไม่ แล้วเก้าอี้ “รมว.วัฒนธรรม” ที่สู้อุตส่าห์ ยึดเอาไว้เพื่อเป็นที่นั่งสำรอง เอาไว้รับมือ “คำสั่ง” ของศาลรัฐธรรมนูญ ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น วันนี้ได้ทำงานในฐานะ “รมว.วัฒนธรรม” บ้างหรือยัง จะว่าไปก็แปลกใจอยู่ บรรดา“นักเรียกร้อง” ทั้งด้อมส้ม ด้อมแดง ทั้งหลายที่เคยเรียกร้อง“ภาษีกู” หายไปไหนกันหมด ไม่ออกมาทวงถามเรื่องความคุ้มค่า จาก“ภาษีประชาชน” กันแล้วหรือ !?…*…
ที่มา:พันแสง (11/08/68)