เตือนภัยหน้าร้อน! 3 จุดเสี่ยงจอดรถ "ห้าม" ถ้าไม่อยากยางแตกกลางแดด
เตือนภัยหน้าร้อน! 3 จุดเสี่ยงจอดรถ "ห้ามทำ" ถ้าไม่อยากยางแตกกลางแดด
ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยรถยนต์ออกโรงเตือนผู้ขับขี่ หลีกเลี่ยง 3 ความเสี่ยง ในการจอดรถช่วงอากาศร้อนจัด มิฉะนั้นอาจเกิดอันตรายต่อยางรถยนต์ ทั้งสึกหรอเร็วกว่าปกติ หรือถึงขั้นระเบิดได้
1. อย่าจอดโดยล้อเอียง
ข้อแรกที่หลายคนมองข้าม คือการจอดรถโดยไม่ตั้งล้อตรง โดยเฉพาะเมื่อต้องจอดนาน ๆ การปล่อยให้ล้อเอียงหรือหันไปด้านใดด้านหนึ่งอาจทำให้แก้มยางรับแรงกดมากกว่าปกติ ส่งผลให้ยางบวม หรือแตกลายได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่อุณหภูมิสูงจัด
คำแนะนำ: ก่อนดับเครื่อง ควรหมุนพวงมาลัยให้ล้อตรงเสมอ เพื่อกระจายแรงกดอย่างสม่ำเสมอ ช่วยถนอมยางในระยะยาว
2. หลีกเลี่ยงการจอดบนฟุตบาทหรือพื้นที่ยกสูง
การจอดรถบนขอบฟุตบาท หรือพื้นต่างระดับ อาจทำให้ล้อด้านหนึ่งแบกรับน้ำหนักมากกว่าด้านอื่น ส่งผลให้ยางด้านนั้นสึกเร็วกว่าปกติ อีกทั้งยังผิดกฎหมายในบางพื้นที่ เช่น ลอนดอนและสกอตแลนด์
นอกจากนี้ ความไม่สมดุลของน้ำหนักยังทำให้โครงสร้างยางเสียรูป เมื่อเจอกับอุณหภูมิสูง อาจทำให้ยางเสียหายหนักยิ่งขึ้น
3. อย่าจอดบนโลหะหรือลาดยาง (แอสฟัลต์) ในแดดจ้า
พื้นผิวอย่างตะแกรงเหล็ก หรือถนนแอสฟัลต์ในวันที่แดดแรง สามารถมีอุณหภูมิสูงถึง 50 องศาเซลเซียส หรือมากกว่านั้น หากยางสัมผัสกับพื้นร้อนจัดเป็นเวลานาน อาจเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เสี่ยงระเบิดหรือแตกลายงาได้
คำแนะนำ: หากจำเป็นต้องจอดกลางแดด ควรเลือกพื้นที่ร่มหรือพื้นคอนกรีตที่ไม่อมความร้อนมากนัก
อย่าลืมเช็กลมยาง… ตอนยางเย็นเท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญจาก MoneySuperMarket แนะนำว่าการเช็กลมยางควรทำขณะยางยังเย็น เนื่องจากความร้อนจะทำให้แรงดันลมเพิ่มขึ้นชั่วคราว ซึ่งอาจทำให้การวัดผิดเพี้ยน
ย้ำว่า “ห้ามลดลมยางหลังจากที่เห็นแรงดันสูงขึ้นเพราะความร้อน” เพราะนั่นเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับคำแนะนำความปลอดภัยของสหราชอาณาจักร
สรุป: ปกป้องยางรถในหน้าร้อน
- จอดโดยล้อตรงทุกครั้ง
- หลีกเลี่ยงการจอดบนพื้นที่เอียงหรือสูงไม่เท่ากัน
- ไม่จอดบนโลหะหรือแอสฟัลต์ร้อนจัด
- เช็กลมยางตอนเช้าหรือเมื่อยางเย็นเท่านั้น
ทั้งนี้ หากยางเกิดความเสียหายจากการสึกหรอหรือการละเลย การเคลมประกันอาจไม่ครอบคลุมค่าเสียหาย ดังนั้นการดูแลยางให้ดีตั้งแต่แรกจึงเป็นสิ่งสำคัญ