โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

กนอ.จับมือ ส.อ.ท.ยกระดับ-ดึงลงทุนอุตฯ เป้าหมาย ชูถอดรหัส 3 องค์กรญี่ปุ่นประยุกต์ใช้พัฒนานิคมฯ ไทย

Manager Online

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • MGR Online

กนอ.เตรียม MOU กับ ส.อ.ท ยกระดับและเร่งรัดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อดึงการลงทุนต่างชาติเข้านิคมฯ ไทย หลังได้จับมือ กฟผ.พัฒนาภาคอุตฯ และนิคมฯ ให้พร้อมรับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว กนอ.นำคณะศึกษาดูงานที่ญี่ปุ่นเพื่อถอดบทเรียนความสำเร็จ 3 สุดยอดองค์กรด้านนวัตกรรม-ความปลอดภัย เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนานิคมฯ ของไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันและดึงดูดการลงทุนระดับโลก

การเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจการค้าโลก ทำให้หลายองค์กรต้องพัฒนาการทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดย กนอ.ก็เป็นหนึ่งในนั้น มีหน้าที่จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ส่งเสริมและสนับสนุนเอกชนจัดตั้งนิคมฯ รวมทั้งบริการระบบสาธารณูปโภคแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแล้ว กนอ.ได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อช่วยดึงดูดนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มาอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ การตั้งสถาบันวิทยาการอุตสาหกรรม กนอ. (I-EA-T Academy ) มุ่งยกระดับศักยภาพภาคอุตสาหกรรมไทย โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้วนมีบทบาทสำคัญ โดยสถาบันฯ จะเน้นพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะความรู้ความสามารถที่ได้มาตรฐานสากล

ปัจจุบันไทยมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีระดับอุทยานวิทยาศาสตร์หรือ Science Park ที่มีกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ แต่ยังขาดการเข้าถึงของภาคอุตสาหกรรม เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีของผู้ประกอบการไทยเพื่อพัฒนาสินค้าที่แข่งขันได้ ดังนั้นกนอ.พร้อมจะเชื่อมความร่วมมือดังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและประเทศชาติ

เมื่อเร็วๆ นี้ กนอ.ลงนามบันทึกช่วยจำ (MOU) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อศึกษารูปแบบและแนวทางการพัฒนาอุตฯ และนิคมอุตสาหกรรมให้พร้อมรับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Transition) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Net Zero) ของประเทศ

โดยผสานจุดแข็งของทั้งสองหน่วยงานเข้าด้วยกัน ในการศึกษารูปแบบแนวทางการพัฒนาประเภทอุตสาหกรรม และนิคมอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสีเขียว รวมทั้งด้านกฎหมายและระเบียบต่างๆ ให้ครอบคลุม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมปัจจุบันให้เป็นอุตสาหกรรมมูลค่าสูงที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิตเป็นพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ระบบกักเก็บพลังงาน ระบบบริหารจัดการอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มศักยภาพ ลดการปล่อยคาร์บอน และเป็นอุตสาหกรรม Circular เช่น มีการบริหารการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อมุ่งสู่ 'นิคมอุตสาหกรรมสีเขียวต้นแบบ' รองรับการลงทุนต่างชาติที่ต้องการใช้พลังงานสะอาด โดยบันทึกความร่วมมือฉบับนี้มีระยะเวลา 3 ปี ซึ่งจะตั้งคณะทำงานร่วม (Joint Working Group) เพื่อประสานและขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

นอกจากนี้ กนอ.เตรียม MOU กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อยกระดับและเร่งรัดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายในวันที่ 10 ก.ย.นี้

นายอัฏฐพล นิธิสุนทรวิทย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายงานผู้ว่าการ 1 การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยภายหลังนำคณะเดินทางศึกษาดูงาน ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเรียนรู้และถอดบทเรียนความสำเร็จจาก 3 องค์กรชั้นนำของญี่ปุ่น ได้แก่ ด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม การบริหารจัดการเชิงธรณีวิทยา และการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมของไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั่วโลก

โดยที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งชาติ (AIST) อยู่ภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (Ministry of Economy, Trade and Industry หรือ METI) เป็นสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมขั้นสูงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เช่น การพัฒนาถังเก็บไฮโดรเจนที่มีขนาดเล็กลงเพื่อประหยัดพื้นที่และป้องกันการเกิดอันตรายจากการรั่วไหลและระเบิดของไฮโดรเจนหากจัดเก็บไม่ถูกวิธี, การพัฒนายางรถยนต์โดยไม่ใช้ปิโตรเลียมหรือน้ำมัน แต่ใช้พืชผลการเกษตรอย่างถั่ว ข้าวโพด และไบโอเอทานอลแทน ซึ่งเป็นการร่วมมือกับภาคเอกชนคือ Yokochama X AIST เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนฯ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา ยังไม่ได้ผลิตเชิงพาณิชย์เนื่องจากมีต้นทุนสูงกว่ายางที่ผลิตจากปิโตรเลียม รวมทั้งวิจัยเครื่องตรวจเช็กโครงสร้างพื้นฐานว่ามีการชำรุดต้องซ่อมแซมหรือไม่ และการรีไซเคิลพลาสติกPET ให้วนกลับมาใช้ใหม่เหมือนเดิมได้ตลอด โดยผสมตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่อลดปัญหาขยะล้นโลก แต่ยังมีต้นทุนสูงอยู่ เป็นต้น

ภารกิจของ AIST สอดคล้องโดยตรงกับพันธกิจของ กนอ.ในการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ที่ต้องอาศัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเชิงลึก การดูงานครั้งนี้จะทำให้ กนอ.สามารถนำองค์ความรู้มาต่อยอดในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Industrial Estate) และส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาภายในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย

พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา (Geological Museum, GSJ, AIST) แหล่งรวบรวมองค์ความรู้ด้านธรณีวิทยาของญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีแผ่นดินไหวเป็นประจำ เพื่อพร้อมรับมือปัญหาแผ่นดินไหวลดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของ กนอ.ในด้านการวางผังและพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ซึ่ง กนอ. ให้ความสำคัญกับการเลือกพื้นที่ตั้งที่มีความเหมาะสมและมั่นคงทางธรณีวิทยา เพื่อสร้างความปลอดภัยและลดความเสี่ยงให้กับโรงงานอุตสาหกรรม การศึกษาดูงานในส่วนนี้จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในการประเมินและบริหารจัดการที่ดินตามหลักธรณีวิทยา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ศูนย์ป้องกันภัยพิบัติฮอนโจ (Honjo Bosai-kan) ที่เป็นการจำลองเหตุการณ์และฝึกฝนการรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติหลากหลายรูปแบบ เช่น แผ่นดินไหว อุทกภัย และไฟไหม้ ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับภารกิจของ กนอ.ในการสร้างความปลอดภัยและบริหารจัดการความเสี่ยงภายในนิคมอุตสาหกรรม องค์ความรู้ที่ได้จะถูกนำมาพัฒนาระบบเฝ้าระวัง แผนเผชิญเหตุ และส่งเสริมการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan: BCP) ให้กับผู้ประกอบการ เพื่อสร้างหลักประกันว่าการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของไทยมีความปลอดภัยและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ฉุกเฉิน

“การเดินทางมาศึกษาดูงานที่ญี่ปุ่นครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ กนอ.ที่จะพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง การถอดบทเรียนจากต้นแบบความสำเร็จระดับโลกของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในมิติของนวัตกรรม ความยั่งยืน และความปลอดภัย จะเป็นทั้งกุญแจสำคัญในการยกระดับนิคมอุตสาหกรรมไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล ผ่านการสร้างนิคมฯ อัจฉริยะที่แข็งแกร่งด้วยเทคโนโลยี มีเสถียรภาพมั่นคง และมีเกราะป้องกันความเสี่ยงจากภัยพิบัติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั่วโลกได้อย่างยั่งยืน” นายอัฏฐพลกล่าว

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...